รมช.เกษตรฯ ปลุกเกษตรกรต้านใช้สารเคมี 3 ชนิด

กรุงเทพฯ 29 ส.ค. –  รมช.เกษตรฯ  ปลุกเกษตรกรต้านการใช้สารกำจัดวัชพืชและแมลง 3  ชนิด ประกาศนำกฎหมายพัฒนาที่ดินมาบังคับใช้


นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า คนไทยต้องการอาหารที่ไม่มีสารปนเปื้อน แม้แต่ปุ๋ยเคมีก็ไม่จำเป็นต้องใช้โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาฆ่าหญ้าและยาฆ่าแมลงเป็นพิษต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ไม่สมควรอย่างยิ่งที่ประเทศไทยจะใช้ต่อไป ซึ่งตามนโยบายตลาดนำการผลิต ตลาดต้องการอาหารปลอดภัย กลุ่มเป้าหมายแรก คือ ผู้ป่วยโรงพยาบาล 7 ล้านรายต่อวัน เด็กนักเรียน 12 ล้านคน

ทั้งนี้ ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ 12 กำหนดให้มีพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 5 ล้านไร่ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีถึง 3 ครั้ง ว่า ถ้ายกเลิกไม่ได้ ต้องจำกัดการใช้ให้มากที่สุด ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยประสานมามี 56 จังหวัดที่จะเป็นพื้นที่เกษตรปลอดภัย


นายวิวัฒน์ กล่าวว่า ข้อมูลจากอธิบดีกรมวิชาการเกษตรที่ให้แก่คณะกรรมการวัตถุอันตรายเป็นผลให้คณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติไม่ยกเลิกใช้สารเคมี  3  ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต  ซึ่งตนเองและกลุ่มแพทย์จากกระทรวงสาธารณสุขมีข้อมูลที่ตรงกัน พบว่าเป็นพิษแน่นอน จึงจะส่งข้อมูลที่ครบถ้วนให้แก่คณะกรรมการศึกษาแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งมีนายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน  โดยขอย้ำว่าจะต่อสู้ไม่ถอย เพื่อให้ยกเลิกการใช้สารทั้ง 3  ชนิด ไม่ใช่แค่จำกัดการใช้ โดยจะใช้ความรู้เป็นพลังและใช้อำนาจตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นประธานคณะกรรมการเกษตรกรรมยั่งยืนสามารถบังคับใช้พระราชบัญญัติพัฒนาที่ดิน มาตรา 13 และ 15 

พร้อมกันนี้นายวิวัฒน์ ได้ให้ผู้แทนของกลุ่มเกษตรกร เกษตรกรรมยั่งยืน เกษตรอินทรีย์ ที่มาร่วมงานกล่าวปฏิญาณตนอย่างพร้อมเพรียงกันว่าจะทำเกษตรกรรม โดยไม่ใช่สารเคมีต่อไป และนายวิวัฒน์ กล่าวอีกว่าคนที่ทำเกษตรปลอดภัยเป็นเรื่องทางบุญให้คนได้กินอาหารปลอดภัย ถือเป็นการทำบุญ ดังนั้น ใครที่ส่งเสริมให้ใช้สารเคมี คือ คนขวางทางบุญ และได้ถามเกษตรกรว่าหากรวมพลังต่อสู้จะสู้ได้หรือไม่ ซึ่งเกษตรกรได้ตอบรับส่งเสียงดังลั่นห้องจัดแสดงงานว่า “สู้ได้”

ขณะที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พันตำรวจโทพงษ์ชัย วราชิต ประธานคณะกรรมมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาจัดตั้งหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้านการเกษตร สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าหารือกับนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนายกฤษฏา กล่าวว่า อธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้เสนอคู่มือจำกัดการใช้ โดยใช้ได้เฉพาะผู้ได้รับอนุญาตเท่านั้น และลดการนำเข้าจาก 40,000-50,000 ตัน เหลือ 13,000-15,000 ตัน ให้กับคณะกรรมการวัตถุอันตรายแล้ว ทั้งนี้ การยกเลิกหรือไม่ ขึ้นกับคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจะสรุปผลภายใน 60 วัน 


ขณะที่พันตำรวจโทพงษ์ชัย กล่าวถึงปัญหาการใช้สารเคมี 3 ชนิด ว่า คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สนช.จะมีประชุมศึกษาข้อมูลถึงผลกระทบทุกด้าน เพื่อให้เกิดแนวทางชัดเจนว่าจะเลิกใช้ได้เมื่อไร ใน 1 หรือ 2 ปี แต่ได้รับทราบแล้วว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอให้จำกัดการนำเข้าและควบคุมการใช้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มุกใหม่มิจฉาชีพ

มุกใหม่มิจฉาชีพ! ป่วนโทรแจ้ง ตร. เกิดเหตุร้ายที่บ้านเหยื่อ

อินฟลูฯ สาว สายทำอาหาร ถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นตำรวจโทรหา แต่เธอไม่เชื่อ โดนท้าอีก 10 นาทีเจอกัน ปรากฏว่า มีตำรวจจาก 2 โรงพักบุกมาที่บ้านจริง

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา

“วราวุธ” ระบุการแข่งขัน อบจ.-สุพรรณบุรี ไม่มีปัญหา บอกสนามใหญ่ ไม่เข้าไปก้าวก่ายสนามท้องถิ่น ซ้ายก็เพื่อน ขวาก็พวก

ครม.เคาะแจกเงินหมื่นเฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี

“จุลพันธ์” เผย ครม.เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มผู้สูงอายุ วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการทันก่อน 29 ม.ค.68 รวม 3 มาตรการ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ 1.4-1.5 แสนล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้เยียวยา แต่ต้องรอคดีถึงที่สุด

“ทวี” แจง “ดีเจแมน-ใบเตย” ได้รับค่าเยียวยา หลังศาลชั้นต้นยกฟ้อง แต่ต้องรอให้คดีถึงที่สุด บอกหากไม่ได้รับความยุติธรรม ฟ้องรัฐได้

ถนนมิตรภาพเข้าสู่ประตูอีสานรถเพิ่มขึ้น

เริ่มแล้วเทศกาลปีใหม่ ประชาชนออกเดินทางกลับภูมิลำเนาการจราจรถนนมิตรภาพ ปริมาณรถมาก ตำรวจทางหลวง เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวก

หมอชิต 2 เริ่มคึกคัก คาดวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุด

สถานีขนส่งหมอชิต 2 มีประชาชนบางส่วนทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว แต่ยังไม่หนาแน่นนัก ด้าน บขส. คาดตลอดทั้งวันนี้จะมีผู้โดยสารหนาแน่นที่สุดถึง 120,000 คน

นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็กประจำปี 2568

“แพทองธาร” นายกฯ มอบคำขวัญวันเด็ก ประจำปี 2568 “ทุกโอกาส คือ การเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ระบุรัฐบาลเห็นคุณค่าในตัวเด็กๆ ทุกคน ขอให้ปรับตัวเรียนรู้ ให้เข้ากับสถานการณ์