ศาลสั่งจำคุกและปรับเสี่ยรถเบนซ์เมาขับรถไล่ปาดหน้าย่านพระราม 3

กรุงเทพฯ 8 ส.ค.- ศาลสั่งจำคุก 3 เดือน ปรับ 10,000 บาทโดยโทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี  และพักใบอนุญาตขับขี่ 1ปี รวมทั้งทำงานบริการสังคม 48 ชั่วโมง เสี่ยรถเบนซ์เมาสุราขับรถไล่และปาดหน้ารถผู้เสียหาย บนถนนพระราม 3 


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงคลิปวีดีโอที่มีการแชร์มากในโลกโซลเชียลมิเดียถึงผู้ขับขี่รถยนต์ประมาทหวาดเสียว เหตุเกิดในพื้นที่ สน.บางโพงพาง ว่าได้รับรายงานจาก สน.บางโพงพาง ว่า เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2561 เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้เสียหายขับรถยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าซีวิค สีบลอนด์ทอง ทะเบียน วร-8144 โดยมีผู้โดยสารมาด้วยอีก 1 คน ขณะขับรถกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงถนนพระราม 3 บริเวณหน้าคอนโดเอสวีซิตี้ ขณะที่ผู้เสียหาย กำลังขับขี่รถของตนอยู่ในช่องทางเดินรถที่ 2 นับจากขวามือข้างช่องทางเดินรถบีอาiNที (มีทั้งหมด 4 ช่องทาง) ด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. ผู้เสียหาย เห็นรถยนต์ยี่ห้อเบนซ์ สีเทา ทะเบียน 5กธ-6291 กรุงเทพมหานคร มี ผู้ต้องหา เป็นผู้ขับขี่ ขับขี่อยู่ในช่องทางที่ 2 นับจากซ้ายมือซึ่งอยู่ช่องทางเดินรถทางซ้ายมือของรถผู้เสียหาย กำลังจะเปลี่ยนช่องทางล้ำเข้ามาในช่องทางเดินรถผู้เสียหาย โดยไม่ให้สัญญาณไฟจราจร ผู้เสียหาย จึงได้บีบแตรเป็นจังหวะสั้นๆ ประมาณ 2 ครั้ง แต่ ผู้ต้องหา ก็ยังไม่หยุดขับขี่ล้ำเข้ามาในช่องทางเดินรถของผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงได้บีบแตรยาว ผู้ต้องหาจึงได้บังคับรถหักรถกลับช่องทางของตน จากนั้นผู้เสียหายขับขี่รถไปตามถนนพระราม 3 มุ่งหน้าไปยังสะพานข้ามแยกท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ แต่ผู้ต้องหาก็ยังได้ขับขี่ตามผู้เสียหาย มาชิดทางด้านหลังรถ และมาชิดทางด้านซ้ายรถผู้เสียหาย จนมาถึงก่อนทางขึ้นสะพานข้ามแยกท่าน้ำสาธุประดิษฐ์  ผู้เสียหาย จึงได้ชะลอรถเพื่อรอให้ผู้ต้องหา ขับรถผ่านไปก่อน แต่ผู้ต้องหา ได้ชะลอรถข้างหน้ารถผู้เสียหาย แล้วจอดชิดขอบทางด้านซ้าย ผู้เสียหายจึงได้ขับรถขึ้นสะพานข้ามแยกท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ไป  ผู้เสียหาย เห็นว่าไม่ปลอดภัยจึงได้บอกให้ ผู้โดยสาร โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อลงจากสะพานข้ามแยกท่าน้ำสาธุประดิษฐ์แล้ว ผู้เสียหาย ได้ขับขี่อยู่ในช่องทางเดินรถที่ 2 นับจากซ้ายมือ (มีทั้งหมด 4 ช่องทาง) ผู้ต้องหาก็ยังขับขี่รถตามมาอีกและขับขี่ประกบอยู่ข้างหน้าเล็กน้อยทางด้านขวามือของรถผู้เสียหาย อยู่ในช่องทางเดินรถที่ 3 นับซ้ายมือ ประกบข้างรถนายนิพนธ์ฯ มาเรื่อย ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหาย ขับขี่ด้วยความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. จนกระทั้งมาถึงบริเวณหน้าปั๊มเชลล์ถนนพระราม 3 ก่อนถึงทางแยกใต้สะพานพระราม 9 ผู้ต้องหา ได้ขับขี่รถเบียดเข้ามาในช่องทางเดินรถของผู้เสียหาย ผู้เสียหาย ได้พยายามเบี่ยงรถหลบหนีไปทางซ้าย แต่ผู้ต้องหา ก็ยังได้ขับขี่รถเบียดตามรถผู้เสียหาย มาอีก  เมื่อถึงบริเวณช่วงต้นทางขึ้นสะพานข้ามแยกใต้สะพานพระราม 9 ผู้ต้องหา ได้ชะลอรถอยู่ข้างหน้าผู้เสียหาย ในช่องทางขึ้นสะพานช่องทางซ้ายมือ (มี 2 ช่องทาง) ผู้เสียหาย จึงได้หยุดรถและถอยรถลงจากทางขึ้นสะพานข้ามแยกพระราม 9 เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงวิ่งทางด้านล่าง ผู้เสียหาย จึงได้หยุดรถแล้วขับขี่รถถอยหลังลงจากสะพานแล้วขับขี่ตามรถผู้เสียหายมา ขณะที่ผู้เสียหาย กำลังหยุดรอสัญญาณไฟแดงอยู่ในช่องทางเดินรถที่ 2 นับจากขวามือ (มีทั้งหมด 4 ช่องทาง) ของทางแยกใต้สะพานพระราม 9 ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถตามมาจากทางด้านหลัง มาจากทางด้านขวามือ จากนั้นปาดซ้ายเข้ามาหยุดยังช่องทางหน้ารถของผู้เสียหาย ผู้เสียหาย จึงได้ขับขี่ออกมาทางขวามือและได้พบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สน.บางโพงพาง อยู่บริเวณแยกใต้สะพานพระราม 9 พอดี จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรทราบ 

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหา มีลักษณะอาการคล้ายคนเมาสุรา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว มาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่ป้อมตำรวจจราจร บริเวณใต้ทางด่วนสาธุประดิษฐ์  ผลปรากฏว่า มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือด 224 มิลลกิกรัมเปอร์เซ็นต์ เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้  จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจึงได้จับกุมตัว ในข้อหา ขับขี่รถในขณะเมาสุราหรือเมาอย่างอื่น นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 


รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีก พนักงานสอบสวนได้สอบสวน ผู้เสียหาย และ พยาน ในคดี และได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาเพิ่มเติมจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรจับกุมในข้อหาขับขี่รถในขณะเมาสุรา เป็นข้อหา 1.ขับรถในขณะหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ 2.ขับรถในขณะเมาสุราหรือเมาอย่างอื่น 3.ขับรถในลักษณะกีดขวางการจราจร 4.ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตราแก่บุคคลหรือทรัพย์ 5.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ได้สอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ส่งสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหาไปยังพนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวงพระนครใต้ สั่งฟ้องผู้ต้องหา ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2561 ศาลแขวงพระนครใต้มีคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ 1972/2561คดีหมายเลขแดงที่ 2157/2561 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2561  1. ข้อหาขับรถขณะเมาสุราฯ ปรับ 8,000 บาท จำคุก 3 เดือน โทษจำรอ 2 ปี  2.ข้อหาขับรถประมาทหวาดเสียวฯ และไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ ปรับ 2,000 บาท  3. กรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทลงโทษบทหนัก และคุมประพฤติรายงานตัว 3 เดือนต่อครั้งใน 1 ปี ทำงานบริการสังคม 48 ชม. พักใช้ใบอนุญาตขับขี่ 1 ปี

สำหรับประเด็นที่ผู้เสียหายนำไปโพสต์ลงในโลกโซลเชียลมิเดีย ในลักษณะที่วิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและแจ้งข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนนั้น ทำให้มีประชาชนบางส่วนได้รับข่าวสารที่ไม่เป็นความจริง เพราะพนักงานสอบสวนได้ดำเนินการสอบสวน สั่งฟ้องผู้ต้องหาตั้งแต่มีการรับแจ้งเหตุ ประกอบกับ พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการไปตามกรอบกฎหมาย ตามพยานหลักฐาน เมื่อผู้เสียหายประสงค์ที่จะแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในฐานความผิดใด พนักงานสอบสวนก็ได้จัดให้มีการสอบสวน ซึ่งในคดีนี้ก็ได้มีการรับแจ้งความและได้ทำการสอบสวนมาโดยตลอด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย