สมอ.คุมเข้มมาตรฐาน Power Bank

ห้างเซียร์รังสิต  2 ส.ค. – สมอ.จี้ร้านค้า Power Bank เตรียมเก็บสินค้าไม่ได้มาตรฐานออกจากร้าน ก่อนมาตรฐานบังคับจะเริ่มใช้เร็ว ๆ นี้ พร้อมเดินหน้าให้ความรู้ผู้ประกอบการ 


นายอภิจิณ โชติกเสถียร เลขาธิการ สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า ขณะนี้ขอให้ผู้ประกอบการจำหน่าย Power Bank หรือแบตเตอรี่สำรองสำหรับการใช้งานแบบพกพาที่ประชาชนมักใช้เป็นอุปกรณ์สำรองไฟสำหรับโทรศัพท์มือถือที่กำลังจะเป็นสินค้าที่ต้องผลิตตามมาตรฐานบังคับ ทั้งนี้คาดว่ามาตรฐานบังคับ Power Bank  จะมีผลบังคับใช้ในช่วงไม่เกิน 1 ปีนับจากนี้ไป จึงขอให้เตรียมตัวจำหน่ายเฉพาะสินค้าที่ได้ผลิตตามมาตรฐานบังคับเท่านั้น  ส่วนสินค้าที่ผลิตหรือนำเข้าก่อนมาตรฐานบังคับผู้ประกอบการจะมีระยะเวลาระบายสินค้า


นายอภิจิณ ยังเป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงข้อพึงปฏิบัติในการเป็นร้านจำหน่ายสินค้าตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ที่ห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต โดยมีผู้ประกอบการร้านค้าภายในห้างเข้าร่วมรับฟังกว่า 100 ราย ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันร้านค้าภายในห้างยังจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพไม่เป็นไปตาม มอก.ที่ สมอ.กำหนด แบ่งเป็น 2 กลุ่มมาตรฐาน คือ มาตรฐานทั่วไปหรือมาตรฐานโดยสมัครใจ และมาตรฐานบังคับ ผู้บริโภคเมื่อนำไปใช้งานอาจจะได้รับผลกระทบและอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้

ทั้งนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ สมอ.จัดประชุมห้างต่าง ๆ ที่เปิดให้ผู้ค้าเช่าพื้นที่จำหน่ายสินค้าให้ช่วยแจ้งร้านค้าว่าการจำหน่ายสินค้าต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพตามมาตรฐานที่ สมอ.กำหนด ผู้ให้เช่าสถานที่ที่ได้รับทราบนโยบายนี้แล้ว ได้แก่ ห้างมาบุญครอง ห้างพันธุ์ทิพย์ ห้างเมกาบูรพา เจ.เจ. มอลส์ ดิโอลด์สยามพลาซ่า อมร กรุ๊ป  บริษัท พานาโซนิค ซิว เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน และห้างเซียร์รังสิตจนถึงวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมามีการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลายชนิดต้องเป็นไปตามมาตรฐานจำนวนรวมทั้งสิ้น 109 รายการเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายอันอาจจะเกิดต่อชีวิตและทรัพย์สินและเศรษฐกิจของประเทศ

สำหรับสถิติการจับกุมสินค้าที่มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน มอก.ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วถึงเดือนกรกฎาคม 2561 สมอ.ตรวจยึดอายัดผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพไม่เป็นไปตามมาตรฐาน รวมมูลค่ากว่า 2,066 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์เหล็กมูลค่ากว่า 2,014 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 44 ล้านบาท รองลงมาเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร โภคภัณฑ์ ปิโตรเคมีและโพลิเมอร์


ส่วนผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม โดยบทลงโทษในกรณีทำหรือนำเข้าผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ร้านค้าที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับตั้งแต่  5,000-50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และแสดงเครื่องหมาย มอก. โดยไม่ได้รับอนุญาตมีโทษจำคุก 3 เดือน ปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนซื้อและอย่าหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เมื่อใช้แล้วอาจเกิดอันตรายจากการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นได้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ปล่องลิฟต์ตึกถล่ม

กทม.เดินหน้าเจาะปล่องลิฟต์ ค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.

ผู้ว่าฯ กทม. เผยปฏิการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุตึก สตง.ถล่ม วันนี้เน้นเจาะปล่องลิฟต์-บันไดหนีไฟ หลังวานนี้ (18 เม.ย.) พบผู้เสียชีวิตในจุดดังกล่าวเพิ่มอีก 6 ราย ยืนยัน กทม. ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการเข้า เก็บพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว