ดันร้านธงฟ้าประชารัฐขายสินค้าชุมชนทางออนไลน์

นนทบุรี 19 ก.ค. – พาณิชย์ดันร้านค้าธงฟ้าประชารัฐขายสินค้าชุมชนทางออนไลน์  ยกระดับเป็นร้านโชวห่วยไฮบริด ขยับสถานะเป็นพ่อค้า-แม่ค้าไฮเทค นำร่อง 1,400 ร้านค้า 


นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ยกระดับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐให้กลายเป็นร้านโชวห่วย-ไฮบริด นอกจากจะจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคผ่านทางหน้าร้านแล้วยังสามารถจำหน่ายสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป และสินค้าเอสเอ็มอีผ่านช่องทางออนไลน์ได้อีกด้วย ทำให้เกิดรายได้แก่ร้านค้าอีกทางหนึ่ง เพียงเจ้าของร้านค้ามีโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน หรือแทปเลท และดาวน์โหลดพร้อมติดตั้งแอพพลิเคชั่น “โชวห่วย-ไฮบริด” ของกระทรวงพาณิชย์ เพียงเท่านี้ก็สามารถขยับสถานะเป็นพ่อค้า-แม่ค้าไฮเทคได้แล้ว

ทั้งนี้ เบื้องต้นจะคัดเลือกสินค้าจากผู้ประกอบการสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป และสินค้าเอสเอ็มอีที่ผ่านการส่งเสริมจากกระทรวงฯ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีศักยภาพ ผู้ผลิตมีกำลังการผลิตเพียงพอต่อการรองรับคำสั่งซื้อจากร้านค้าทั่วประเทศ ยอมรับเงื่อนไขการจัดส่งสินค้าและการรับชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะได้รับเงินหลังจากผู้ซื้อสินค้าได้รับสินค้า ผู้ผลิตจะต้องเป็นผู้รับภาระต้นทุนการจัดส่งสินค้า โดยจะได้ส่วนต่างกำไรจากการจำหน่ายสินค้า โดยร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการฯ จะดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชั่นโชวห่วย-ไฮบริดของกระทรวงพาณิชย์ทางระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นฯ ดังกล่าวไปใช้งาน ผู้ใช้งานของร้านค้าจะต้องได้รับการยืนยันตัวตนจากกระทรวงพาณิชย์ก่อน จึงจะสามารถเข้าสู่ระบบการซื้อขายสินค้าชุมชนออนไลน์ได้


นางกุลณี กล่าวว่า สัปดาห์นี้ทางกรมฯ มีการอบรมเชิงปฏิบัติการสำหรับผู้ผลิตสินค้าชุมชน สินค้าโอทอป และสินค้าเอสเอ็มอี เพื่อเรียนรู้วิธีการใช้แอพพลิเคชั่นฯ และนำสินค้าเข้าสู่ระบบออนไลน์ เพื่อรองรับการสั่งซื้อของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ  เบื้องต้นจะนำร่องใช้ระบบฯ กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่มีศักยภาพในเขตกรุงเทพมหานครประมาณ 1,400 ร้านค้า หลังจากนั้นจะประเมินผลความสำเร็จ ปัญหา อุปสรรคที่เกิดขึ้น ดำเนินการปรับปรุงให้มีความสมบูรณ์ และขยายผลสู่การใช้งานทั่วประเทศต่อไป รวมทั้งระยะเริ่มแรกแอพพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดจะใช้ได้เฉพาะระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เท่านั้น ระยะถัดไปจะพัฒนาให้สามารถรองรับระบบปฏิบัติการ IOS ได้ ทั้งนี้ แอพพลิเคชั่นโชวห่วย-ไฮบริดจะสามารถใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2561 นี้เป็นต้นไป และคาดว่าเมื่อมีการใช้งานครอบคลุมทั่วประเทศแอพพลิเคชั่นเป็นที่รู้จักมากขึ้น มีคำสั่งซื้อมากขึ้น เศรษฐกิจฐานรากก็จะเกิดการกระตุ้นและเกิดการหมุนเวียนมากขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ ในปี 2560 ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกทั้งประเทศมีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 1.83 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.9 ของจีดีพีประเทศไทยเป็นอันดับ 3 รองจากภาคบริการ (ร้อยละ 32.6) และภาคการผลิต (ร้อยละ 27.7) เกิดการจ้างงานกว่า 2.9 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 27.5 ของการจ้างงานทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจากภาคบริการ (ร้อยละ 44.8). – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง