ศาลชั้นต้นยกฟ้องวสันต์หมิ่นจิรายุ อดีตรองโฆษกเพื่อไทย

กทม.22 ก.ย.- ศาลยกฟ้องดคี”วสันต์”ที่ปรึกษาผู้ว่า กทม.หมิ่นประมาท “จิรายุ” อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 55


ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ อ่านคำพิพากษาคดีพนักงานอัยการคดีอาญา 5 เป็นโจทก์ฟ้องนายวสันต์ มีวงษ์ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ในฐานะโฆษก กทม.และบริษัทโพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด(มหาชน) ผู้ประกอบการหนังสือพิมพ์ เป็นจำเลยที่ 1-2 ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา สืบเนื่องจากวันที่ 5 พ.ค.2555 จำเลยที่ 1 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนทำนองว่า นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย เป็นคนไม่บรรลุนิติภาวะทาง อารมณ์ ปัญญาและคุณธรรม ไม่ให้ราคาคนอย่างนายจิรายุ และข้อความอื่น ๆซึ่งเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์ให้ได้รับความเสียหายขอให้ศาลลงโทษจำเลย ตามมาตรา 328 จำเลยให้การปฎิเสธ

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์เป็นรองโฆษกพรรคเพื่อไทยและจำเลยที่ 1 เป็นที่ปรึกษาผู้ว่า กทม.ก่อนเกิดเหตุ(5 พ.ค.)โจทก์ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสัญญาโครงการต่อสัญญาบีทีเอส ซึ่ง กทม.เป็นผู้มีส่วนร่วมในการดูแลโครงการ และวันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนจริง แต่เนื่องจากมีผู้สื่อข่าวมาสอบถาม และจำเลยที่ 1 ยังต่อสู้ว่าการให้สัมภาษณ์จำเลยไม่ได้ระบุเจาะจงเป็นการเปรียบเปรยนั้น ศาลเห็นว่าได้ความจากจำเลยที่ 1 เอง รับว่ามีนักข่าวนำประเด็นเรื่องที่นายจิรายุ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการ บีทีเอสมาถามและมีการตอบโต้ย่อมทำให้เห็นว่าคำสัมภาษณ์ของจำเลยหมายถึงตัวนายจิรายุ ผู้เสียหาย ส่วนที่จะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทหรือไม่ ศาลเห็นว่าจำเลยทำหน้าที่ที่ปรึกษา กทม.ย่อมมีสิทธิที่จะตอบโต้หากผู้เสียหายมาพูดถึงโครงการต่อรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งการกระทำดังกล่าวถือเป็นการตอบโต้เพื่อไม่ให้ภาพลักษณ์โครงการเสื่อมเสีย จึงถือว่าไม่เป็นการหมิ่นประมาทตามคำฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นสื่อมวลชนที่นำคำสัมภาษณ์ของจำเลยมาลงเป็นข่าวและมีเนื้อความไม่แตกต่างจากการให้สัมภาษณ์ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง


นายนายวสันต์ กล่าวว่า ศาลมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริตเพื่อที่จะให้ความเป็นธรรมต่อหน่วยงาน ย่อมอาจจะมีประเด็นที่ต้องมีการโต้ตอบศาลก็เห็นว่าเป็นการโต้ตอบโดยสุจริต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” คณะกรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี