ตร.ระบุ ยังไม่จำเป็นต้องขอ ม.44 แก้จราจร กทม.

กทม.23 ก.ย.- ตำรวจ ระบุ ยังไม่ถึงขึ้นต้องเสนอใช้ มาตรา 44 แก้วิกฤติจราจรกรุงเทพ แต่ยอมรับมีแนวคิดปรับ 4 เท่า ผู้ที่เบี้ยวจ่ายใบสั่ง หวังผู้ใช้รถใช้ถนนเคารพกฎจราจรมากขึ้น


พลตำรวจตรีทรงพล วัธนะชัย รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่มีความจำเป็นต้องเสนอใช้กฎหมายมาตรา 44 แก้ปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ แต่ยอมรับว่าที่ประชุมคณะอนุกรรมการบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล มีแนวคิดเพิ่มอัตราโทษค่าปรับ 4 เท่ากับประชาชนที่ไม่ชำระค่าปรับตรงตามเวลา เนื่องจาก ปัจจุบันมีประชาชนเสียค่าปรับเพียงร้อยละ 30 ส่วนอีกร้อยละ 70 เพิกเฉย จึงหารือกรมการขนส่งทางบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจัง เช่น ไม่อนุญาตให้ต่อภาษีรถยนต์ ส่วนแผน 3 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว มุ่งแก้ปัญหาการจราจรทั้งระบบ ระยะเร่งด่วน 6 เดือนแรก เป็นการบูรณาการกำลังตำรวจทั้งหมดลงแก้ปัญหา กรณีเกิดอุบัติเหตุเพื่อเปิดผิวการจราจรให้เร็วที่สุด บังคับใช้กฎหมายเด็ดขาด จัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์ และรถโดยสารสาธารณะ นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดจำกัดสิทธิการใช้รถใช้ถนนในชั่วโมงเร่งด่วน เพื่อแก้ปัญหาระยะยาวด้วย อย่างไรก็ตาม สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าคล่องตัวขึ้น อาทิ ถนนรัชดาภิเษก ช่วงเช้า ประชาชนเดินทางเร็วขึ้น 28 นาที ส่วนช่วงเย็นเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงเช้าเร็วขึ้น 34 นาที ช่วงเย็นเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง ถนนประดิษฐ์มนูธรรม เดินทางช้าลง 5 นาที เนื่องจาก มีรถเสีย เช่นเดียวกับถนนลาดพร้าว ที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น ส่วนที่ประชุม 53 หน่วยงานแก้ปัญหาจราจรวานนี้(22 ก.ย.) เห็นชอบร่วมกันแก้ปัญหาจราจร จุดแรกคือ แยก ณ ระนอง เดิมเป็นพื้นที่คอขวด จะเพิ่มผิวจราจรอีก 2 ช่องทางเป็น 4 ช่องทาง แยกผ่านพิภพ รับรถจากสะพานพระปิ่นเกล้า จะรื้อเกาะกลางถนน หน้าโรงแรมรอยัล และการสื่อสารแห่งประเทศไทย จะปิดจุดกลับรถ 1 จุด จาก 3 จุด เพื่อให้การจราจรคล่องตัวขึ้น เชื่อจะแก้ปัญหาได้ภายใน 7 วัน

ด้านพลตำรวจตรีปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน แนวคิดปรับ 4 เท่าประชาชนเบี้ยวจ่ายใบสั่ง ไม่ใช่การมุ่งทำยอดเงินค่าปรับของตำรวจ หรือหวังเงินค่าปรับ แต่ตำรวจมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม คณะทำงาน 6 ชุด ที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งขึ้นแก้ปัญหาจราจร จะประชุมเพื่อเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขอีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯพบสีจิ้นผิง

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง”

นายกฯ เข้าเยี่ยมคารวะ “สี จิ้นผิง” ย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตและหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ด้านจีนหนุนไทยมีบทบาทในเวที ระดับโลกและภูมิภาค

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟเมื่อวาน

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่แม่สอด ชี้ยังสรุปไม่ได้ หลังตัดไฟแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ ขอทำไปประเมินไป อย่าทำให้เป็นประเด็น มองเป็นสิทธิฝั่งเมียนมาซื้อไฟฟ้าจากลาว ลั่นเดี๋ยวต้องคุยอีก ย้ำตัดไฟครั้งนี้ไม่ได้ใช้อารมณ์ รู้อยู่กระทบเศรษฐกิจบ้าง แต่แค่ 0.1%

รวบแล้วนักโทษหนีเรือนจำนนทบุรี จนมุมที่ จ.ชลบุรี

จับได้แล้วนักโทษชายหนีเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ระหว่างออกกองงานภายนอก จนมุมที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางแสน จ.ชลบุรี ก่อนนำตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนนทบุรี