กระทรวงการคลัง 27 มิ.ย.- ปลัดกระทรวงการคลัง
ยอมรับมาตรการภาษีป้องกันนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ไม่เพียงพอ ต้องใช้หลายมาตรการช่วยควบคุมดูแล
แนะทุกฝ่ายแยกขยะ ร่วมบริหารจัดการ นำรีไซเคิลช่วยลดผลกระทบระยะยาว
นายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
ปัญหาการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษพลาสติก เศษโลหะ
ยอมรับว่าระบบเอ็กซเรย์มีปัญหาในการตรวจสอบว่าเป็นสินค้าเก่าหรือสินค้าใหม่
เพราะเอ็กซเรย์เห็นเพียงรูปร่างสินค้า ช่วงที่ผ่านมาจึงมีการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก และหากจะเปิดทุกตู้คอนเทนเนอร์คงเป็นไปไม่ได้
เพราะจะทำให้เสียเวลาให้บริการนำเข้าส่งออกสินค้าของศุลกากรและท่าเรือ
การป้องกันปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ทะลักเข้าประเทศ
จึงต้องใช้หลายมาตรการร่วมกัน จึงจะเกิดผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่กระทรวงการคลังยังเดินหน้าศึกษาจัดเก็บภาษีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แม้จะเพิ่มภาษีสูงขนาดไหน
แต่หากมีการลักลอบสำแดงเท็จแล้วปล่อยทิ้งยังจะมีปัญหาเรื่องจัดการของกลาง
รวมไปถึงการศึกษาแนวทางเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
จะให้เคลมกลับคืนกับผู้นำเข้าหรือผู้ใช้เมื่อมีการทำลายหรือบริหารจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ ที่สำคัญขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายแยกขยะเปียก
แห้ง ถุงพลาสติก ขยะเศษโลหะ รีไซเคิ้ล เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ เช่น
สวีเดน ยังรับซื้อขยะจากหลายประเทศ เพื่อนำไปเผาไฟผลิตกระแสไฟฟ้า
เพราะขยะในประเทศเมื่อแยกแล้วยังไม่เพียงพอผลิตกระแสไฟฟ้า
ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเห็นชอบห้ามโรงงานใช้เศษพลาสติกที่มาจากการนำเข้ามาใช้ในการผลิต
โดยใช้อำนาจตามพ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 มาตรา 32 (2) กำหนดชนิด คุณภาพ อัตราส่วน
ของวัตถุดิบแหล่งกำเนิดของวัตถุดิบและปัจจัยหรือชนิดของพลังงานที่จะนำมาใช้หรือผลิตในโรงงาน
โดยคาดว่าจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาได้ในเร็วๆนี้ .-สำนักข่าวไทย