ก.ศึกษาฯ 19 มิ.ย.-สพฐ.พบโรงเรียนสังกัด 10 แห่งใน 10 เขตพื้นที่ดำเนินการโครงการอาหารกลางวันไม่มีคุณภาพเเละทุจริตต่อเนื่อง
นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.)เปิดเผยถึงกรณีการตรวจสอบเเละติดตามการดำเนินการโครงการอาหารกลางวันของสถานศึกษาในสังกัด ว่า ภายหลังการสั่งการให้ทุกเขตพื้นที่การศึกษาลงสำรวจโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ว่ามีการดำเนินการเรื่องอาหารกลางวันเป็นอย่างไร หลังมีการร้องเรียนว่าพบการทุจริตเเละอาหารไม่มีคุณภาพมาเป็นระยะ ขณะนี้ทุกพื้นที่รายงานผลมาครบเเล้ว เบื้องต้นมีการร้องเรียน 12 โรงเรียน ใน 10 เขตพื้นที่การศึกษา ได้แก่
โรงเรียนในเขตพื้นที่ปราจีนบุรี เขต1,พิษณุโลก เขต 2 พบว่าจัดอาหารไม่มีคุณภาพ เเต่ไม่พบการทุจริต
สพม.เขต5 จัดอาหารไม่มีคุณภาพ เเละกำลังตรวจการทุจริตเพิ่มเติม คาด 7-15วันรู้ผล
สุราษฎร์ธานี เขต 2 กรณีขนมจีนคลุกน้ำปลาพบมีการทุจริตจริง และให้ ผอ.ออกจากราชการไว้ก่อน ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบข้อเท็จจริง ให้ผอ.คนดังกล่าวชี้เเจงมูลที่พบภายใน 15 วัน ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
นราธิวาส เขต 2 กรณีให้ลูกชิ้นปลาน้อยเกินไป มีการลงโทษทางวินัยเเล้วเเละให้ผอ.ย้ายออกจากพื้นที่แล้ว
สุรินทร์ เขต 3 พบ 3 โรงเรียนมีการจัดอาหารไม่มีคุณภาพเเละทุจริต โดยให้ ผอ.ย้ายไปประจำที่สำนักงานเขตพื้นที่เป็นการชั่วคราวเเล้ว
ลพบุรี เขต2 มีการร้องเรียนว่าจัดอาหารไม่มีคุณภาพ เเต่เมื่อตรวจสอบพบว่าอาหารมีคุณภาพเเล้ว
ขอนแก่นเขต1 กรณีข้าวมันไก่ที่ไม่มีคุณภาพของโรงเรียนอนุบาลขอนแก่น เบื้องต้น พบว่าใช้วิธีจ้างเหมาอาหารกลางวันจากผู้ประกอบการที่ประกวดราคาทางอี-บิดดิ้ง (E-Bidding)โดยได้ย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนไปช่วยราชการที่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ขอนแก่น เขต 1 ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้วนั้น ได้สั่งการด่วนส่งคณะกรรมการลงไปสืบสวนข้อเท็จจริง 2 ชุด เพื่อดูว่าคณะกรรมการจะลงไปดูว่าตามหลักเกณฑ์โรงเรียนสามารถใช้วิธีการจ้างเหมาแบบนี้ได้หรือไม่ รายละเอียด tor การจ้างเหมาเป็นอย่างไรและโรงเรียนมีระบบการตรวจรับงานหรือไม่
อ่างทอง เขต1 นำเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาทำอาหาร พบว่าเอามาผัดกับวัตถุดิบอื่นๆซึ่งมีคุณภาพ ไม่เป็นอย่างที่ร้องเรียน และลพบุรีเขต 1 พบอาหารไม่มีคุณภาพจริง
ทั้งนี้ สพฐ.ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการเขตพื้นที่ตรวจสอบในทุกโรงเรียนทั่วประเทศต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อเด็กอีก โดยให้ตรวจสอบกระบวนการการจัดซื้อวัตถุดิบและการปรุงอาหารกลางวันเด็กอย่างเข้มงวดด้วย เพราะบางแห่งอาหารได้คุณภาพ ไม่พบการทุจริต แต่ดำเนินการไม่เป็นระบบ หากไม่เป็นไปตามกระบวนการที่ สพฐ.กำหนดถือว่าเป็นบกพร่อง โดยมองว่ารอยรั่วที่ทำให้เกิดการทุจริต เกิดขึ้นจากหลายรูปแบบ เช่นในโรงเรียนขนาดเล็ก อาจเกิดจากการทุจริตกันเองในครอบครัว ขณะที่โรงเรียนขนาดใหญ่อาจเกิดจากกระบวนการประกวดราคาหรืออี-บิดดิ้ง (E-Bidding) เเละหากตรวจสอบพบว่ามีมูลก็จะสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงเรียนไปช่วยราชการที่อื่นก่อนเพื่อให้ตรวจสอบได้เต็มที่
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญมาก จึงมีแนวทางแก้ปัญหาทั้งป้องกันและส่งเสริมให้โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลทำแปลงเกษตร หรือประสานชุมชนให้ช่วยสนับสนุนวัตถุดิบในราคาถูก เพื่อให้เด็กนักเรียนได้มีอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ .-สำนักข่าวไทย