ตาก 12 มิ.ย.- สถานการณ์ฝนตกหนักในภาคเหนือ ถือว่าต้องจับตามองเป็นพิเศษ โดยเฉพาะที่ตาก ซึ่งพบว่าแม่น้ำเมยล้นตลิ่ง เข้าท่วมสถานีสูบน้ำดิบ จนผลิตน้ำประปาไม่ได้ และส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลแม่สอดที่อาจไม่มีน้ำใช้
ภาพมุมสูงเหนือหมู่บ้านวาเลย์ ฝั่งเมียนมา ติดกับชายแดนอำเภอพบพระ จังหวัดตาก แสดงให้เห็นปริมาณน้ำในห้วย “กาล่า” ฝั่งเมียนมา ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำเมย ที่มีน้ำป่าสีแดงขุ่นและไหลเชี่ยว จากจุดดังกล่าวทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเมยสูงขึ้น จนท่วมสถานีสูบน้ำดิบของประปาอำเภอแม่สอด ทำให้เครื่องสูบน้ำเสียหายผลิตน้ำดิบไม่ได้ และที่วิกฤติหนักคือโรงพยาบาลแม่สอด ที่เหลือน้ำสำรองใช้ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ขณะนี้หน่วยงานราชการได้ระดมรถบรรทุกน้ำสะอาดเข้าไปช่วยเหลือเร่งด่วน
ขณะที่ฝ่ายปกครองนำอาสาสมัคร 100 คน เร่งกำจัดผักตบชะวา เพื่อช่วยการระบายน้ำ และมีรายงานว่าที่อำเภอท่าสองยาง เกิดฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตร ทำให้มีน้ำท่วมขัง “ถ้ำแม่อุสุ” ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ต้องติดป้ายเตือนห้ามเข้า ขณะที่หลายหมู่บ้านมีสถานการณ์ดินยุบตัวและดินสไลด์ และมีต้นไม้ล้มทับถนนหลายจุด
ส่วนที่ภาคอีสานเจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดหนองคาย ระดมรถแบคโฮเข้าขุดลอกร่องระบายน้ำ กำจัดเศษวัชพืช และ ขยะอุดตันเร่งด่วน เพื่อรองรับปริมาณน้ำในฤดูฝน โดยเฉพาะชุมชนมีชัย ที่ร่องระบายน้ำถูกอุดตันจนระบายน้ำไม่ได้ หากไม่เร่งแก้ไขจะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงไม่ได้ได้ช้า จนท่วมเขตพื้นที่เทศบาล พร้อมกันนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณปากร่องระบายน้ำเพื่อช่วยอีกทางหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย