พังงา 31 พ.ค.-ช่วงเกษตรสร้างชาติ วันนี้เราจะพาไปดูเรื่องราวชีวิตของหญิงสาวรายหนึ่งที่ตัดสินใจหันหลังให้เมืองกรุงหลังเรียนจบปริญญาโท กลับสู่บ้านเกิดใน จ.พังงา มายึดอาชีพการทำการเกษตร ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง
“เบญจวรรณ ใจหลัก” อดีตนักเศรษฐศาสตร์สาววัย 31 ปี ดีกรีการศึกษาระดับปริญญาโท ตัดสินใจหันหลังให้เมืองกรุง กลับคืนบ้านเกิดใน ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา มายึดอาชีพการทำการเกษตร แทนการประกอบอาชีพในสาขาที่ร่ำเรียนมา
เธอบอกว่า แม้จะไม่มีความรู้ด้านเกษตรมาก่อนเลย แต่เมื่อตัดสินใจจะเป็นเกษตรกร จึงเริ่มต้นศึกษาความต้องการสินค้าเกษตรของตลาดใกล้บ้าน และเลือกปลูกผักออร์แกนิกส์ เน้นผักสลัดหลากหลายสายพันธุ์ ส่งขายตามโรงแรมต่างๆ ช่วงแรกประสบปัญหาขาดทุน จากปัญหาศัตรูพืช และภัยธรรมชาติ กระทั่งได้ศึกษาและนำเทคโนโลยีจากกรมวิชาการเกษตรมาใช้ จนทำให้ปัจจุบันผลผลิตที่ได้เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก จนเตรียมขยายพื้นที่ปลูกเพิ่ม
ปัจจุบันแม้ เบญจวรรณ จะประสบความสำเร็จในการปลูกผักสลัด แต่เธอยังไม่หยุดที่จะเรียนรู้ ล่าสุด ทดลองนำข้าวโพดสายพันธุ์ของคนไทย อย่างพันธุ์สยามรูบี้ควีน หรือข้าวโพดแดง ซึ่งสามารถทานดิบได้มาปลูกเพิ่มเติม แม้ขณะนี้ข้าวโพดจะยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ แต่กลับมีผู้สนใจสั่งจองทางออนไลน์หมดในเวลาอันรวดเร็ว เช่นเดียวกับมะเขือม่วงยักษ์ ที่เธอบอกว่ากำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน
ทุกวันนี้ เกษตกรรายนี้มีรายได้จากการทำเกษตรเฉลี่ยราวเดือนละ 40,000 บาท เธอบอกว่าแม้จะเหนื่อย แต่รู้สึกมีความสุข และเชื่อมั่นว่าอาชีพเกษตร จะช่วยสร้างความยั่งยืนให้ชีวิตได้ในอนาคต โดยมีข้อมูลจากสำนักงานเกษตรอำเภอตะกั่วป่าว่า ขณะนี้มีคนรุ่นใหม่กลับคืนถิ่นเพื่อทำการเกษตรตามโครงการ Young Smart Farmer ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มากขึ้นทุกปี เฉพาะในอำเภอตะกั่วป่ามีแล้วจำนวน 11 ราย
ความสำเร็จของเกษกตรกรรายนี้ ไม่เพียงเพราะความขยัน อดทน แต่ยังเป็นเพราะการศึกษาเรียนรู้อยู่เสนอ นับเป็นอีกหนึ่งแบบอย่างให้ผู้ที่สนใจทำการเกษตรได้นำไปประยุกต์ใช้.-สำนักข่าวไทย