กทม.28 พ.ค.-อัยการเตรียมพยาน 134 ปาก สืบม็อบ นปช.ป่วนเมือง ส่วนแกนนำจัด 120 ปากสู้ “จตุพร”ขอศาลคดีนานจากปี 52 เพิ่งฟ้อง ขอเวลาทนายเตรียมหลักฐานก่อน ศาลเลื่ิอนตรวจหลักฐานเป็น 31 ก.ค.นี้
ศาลอาญารัชดาฯ นัดตรวจพยานหลักฐานคดีชุมนุม นปช.ขับไล่รัฐบาลยุค”อภิสิทธิ์”ปี 2552 ซึ่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 ยื่นฟ้องนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายจตุพร พรหม, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. กับรวม 10 คน เป็นจำเลยในความผิด 3 ข้อหา ร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯตามมาตรา 215 และทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป
สืบเนื่องจาก กลุ่ม นปช.จัดการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยปราศรัยปลุกระดมยุยง ณ เวทีบริเวณสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ข้างทำเนียบรัฐบาล รวมทั้งการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ, ยึดและเผารถโดยสารประจำทางในพื้นที่ กทม. และนำรถบรรทุกแก๊สไปจอดไว้กลางถนนเพื่อข่มขู่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ ทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และประชาชนเดือดร้อนเสียหาย โดยกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เหตุเกิดที่แขวง-เขตดุสิต, แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี, แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร และแขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-14 เม.ย.52 จำเลยทุกคนมาศาล
เมื่อถึงเวลานัด ศาลสอบถามอัยการโจทก์แล้ว แถลงว่าได้เตรียมพยานเอกสารรวม 143 ฉบับ ส่วนพยานบุคคลจัดไว้ 134 ปาก ด้านจำเลย แถลงจะนำพยานสืบสู้คดี 120 ปาก
นายจตุพร ได้เป็นตัวแทนจำเลยแถลงต่อศาล ขอเลื่อนการตรวจพยานหลักฐานออกไปก่อน เนื่องจากคดีนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2552 แต่อัยการเพิ่งฟ้องคดีเข้ามา จำเลยทั้ง 10 คน และทนายความจึงขอเวลาในการจัดเตรียมพยานหลักฐานไว้ต่อสู้คดี
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้โอกาสจำเลยได้ต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรม จึงเลื่อนนัดตรวจพยานหลักฐานเป็น 31 ก.ค.นี้ พร้อมกำชับอัยการโจทก์และฝ่ายจำเลยไปดำเนินการจัดแบ่งกลุ่มพยานบุคคลไว้ให้เรียบร้อยและจะใช้เวลาในการสืบพยานกี่นัด
วันนี้ภรรยาและลูกชายรวมทั้งบุคคลใกล้ชิดมาให้กำลังใจนายจตุพร พร้อมสอบถามความเป็นอยู่ในเรือนจำซึ่งนายจตุพร มีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่สภาพร่างกายพบว่าน้ำหนักลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ก่อนเข้าห้องพิจารณานายณัฐวุฒิ ยืนยันว่า คดีนี้เป็นการชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ยุบสภาเมื่อปี 2552 เป็นการชุมนุมโดยสงบสันติปราศจากอาวุธ ไม่มีความรุนแรงและแกนนำก็ประกาศยุติการชุมนุมด้วยตัวเอง.-สำนักข่าวไทย
