เหตุรุนแรงในเดือนรอมฎอน

ภูมิภาค 22 พ.ค. – เดือนรอมฎอน ถือเป็นเดือนบวชของชาวมุสลิมที่มุ่งปฏิบัติศาสนกิจ แต่เหตุรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ส่วนใหญ่ปะทุขึ้นในช่วงเดือนนี้ แม้ตั้งแต่ปี 2556 การพูดคุยสันติภาพจะมีข้อตกลงหยุดยิงในเดือนรอมฎอน แต่ก็มีการละเมิดข้อตกลง 



เดือนรอมฎอน ซึ่งเป็นเดือนบวชของศาสนาอิสลาม ชาวมุสลิมจะผูกพันกับมัสยิดเป็นพิเศษ เพราะนอกจากจะร่วมละหมาดที่มัสยิดเหมือนเช่นเคยแล้ว จะมุ่งศึกษาพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานในขณะถือศีลอดด้วย เพื่อขัดเกลาจิตใจและสะสมความดี ซึ่งจะได้ผลบุญทวีคูณในเดือนนี้


ปี 2556 เป็นช่วงที่เริ่มมีการพูดคุยสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มผู้เห็นต่าง ซึ่งได้มีข้อตกลงหยุดยิง โดยเริ่มทดลองในเดือนรอมฎอน ซึ่งข้อมูลจากฐานข้อมูลชายแดนใต้ พบว่า ช่วงแรกเหตุการณ์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ช่วงท้ายของเดือนกลับมีเหตุรุนแรงสูงขึ้น และทั้งสองฝ่ายต่างอ้างว่าอีกฝ่ายละเมิดข้อตกลงก่อน นับแต่นั้นเป็นต้นมา เดือนรอมฎอนจึงเป็นช่วงเวลาที่หลายฝ่ายจับตามอง และฝ่ายรัฐได้เพิ่มการเฝ้าระวังเหตุรุนแรงอย่างเข้มข้นมากขึ้น 


สถิติเหตุการณ์ความรุนแรงช่วงเดือนรอมฎอน ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน จะเห็นว่าเหตุรุนแรงลดลงอย่างต่อเนื่อง กระทั่งล่าสุดเดือนรอมฎอนปีนี้ ซึ่งเพิ่งจะเริ่มได้เพียง 5 วัน แต่กลับมีจำนวนเหตุการณ์เพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง จากเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม 24 จุด เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา

แบบแผนลักษณะการปฏิบัติการระเบิดตู้เอทีเอ็มพร้อมกันหลายจุด “รอมฎอน ปันจอร์” มองว่า เป็นปฏิบัติการของบีอาร์เอ็น เพราะที่ผ่านมามักปฏิบัติการเช่นนี้ แต่เป้าหมายเป็นการโจมตีตู้เอทีเอ็ม ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่สาธารณะ ถือเป็นการโจมตีพลเรือนด้วย ซึ่งเรียกร้องให้ฝ่ายผู้ก่อเหตุสื่อสาร 

ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ยืนยันว่า ในทางสืบสวนมีความคืบหน้าคดีพอสมควร จากการติดตามพยานบุคคลและวัตถุพยานในที่เกิดเหตุไปพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ เปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่มีอยู่ ทำให้ทราบพฤติกรรมกลุ่มผู้ก่อเหตุในเมืองปัตตานีแล้วว่ามี 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์คนละคัน ก่อเหตุคนละ 1 จุด ซึ่งต่างจากเหตุที่ผ่านมามักซ้อนท้ายกัน 2 คน หากได้ผลตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แล้ว คาดว่าจะสามารถระบุตัวคนร้ายได้ภายใน 2-3 วันนี้

ล่าสุดเจ้าหน้าที่รัฐได้ประชุมร่วมกันหลายฝ่าย เพื่อปรับเปลี่ยนแผนการรักษาความปลอดภัยใหม่ ทั้งการตั้งด่านชั้นนอก ชั้นกลาง และในเมือง เพื่อให้ทันกับพฤติกรรมของผู้ก่อเหตุที่ปรับกลยุทธ์ใหม่อยู่เสมอ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ