เตรียมออกประกาศกำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์ม มิ.ย.นี้

กรุงเทพฯ  20 พ.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมจับมือ 3 กระทรวง เตรียมออกประกาศฯ เพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มตามยุทธศาสตร์ปฏิรูปปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มทั้งระบบ


นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดวัตถุดิบและคุณภาพผลิตภัณฑ์ของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม พ.ศ. … เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งจะใช้เป็นกลไกขับเคลื่อนนโยบายการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มและการรักษาเสถียรภาพราคาวัตถุดิบ โดยการกำหนดมาตรฐานเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่โรงงานสกัดต้องผลิตได้ สำหรับโรงงานสกัดทั้ง 2 แบบ โรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบแยก (โรงงาน A) และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบรวม (โรงงาน B)

ทั้งนี้ การจัดทำร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับนี้เป็นการดำเนินการโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 32 (2) (3) แห่งพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 เนื่องจากเป็นเรื่องวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์โรงงานและประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งในประกาศฉบับนี้กำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มขั้นต่ำ โดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบแยกที่ใช้ปาล์มทะลายหรือลูกร่วงที่เกิดจากการตัด ขนส่งเป็นวัตถุดิบ จะต้องสกัดน้ำมันให้ได้ไม่ต่ำกว่า 18% และโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มแบบหีบรวม ที่ใช้ผลปาล์มเป็นวัตถุดิบ จะต้องสกัดน้ำมันให้ได้ไม่ต่ำกว่า 30%  กรณีที่มีเหตุธรรมชาติหรือเหตุอื่น ๆ ที่ทำให้การสกัดน้ำมันไม่เป็นไปตามประกาศได้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในเขตที่โรงงานตั้งอยู่มีอำนาจออกประกาศลดหรือเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันได้ และหลังจากประกาศมีผลบังคับใช้โรงงานสามารถปรับปรุงและเตรียมการให้เป็นไปตามประกาศได้ ภายใน 180 วัน ซึ่งได้ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ชาวสวนปาล์มลานเทและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อเห็นชอบในหลักการ โดยคาดว่าจะสามารถประกาศฯ ได้ในเดือนมิถุนายน 2561 


ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า นอกจากกระทรวงอุตสาหกรรมจะออกประกาศกำหนดค่าเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มขั้นต่ำที่โรงงานต้องสกัดได้แล้วมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์ที่ดำเนินการกำหนดราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบคงที่ ซึ่งจะมีผลทำให้ราคาวัตถุดิบปาล์มทะลายมีเสถียรภาพและไม่ตกต่ำตามภาวะตลาด และกำหนดแนวทางการกำกับควบคุมลานเทรับซื้อปาล์มทะลายไม่ให้มีการทำให้วัตถุดิบเสื่อมคุณภาพ เจือปนสิ่งปนเปื้อน หรือแยกลูกร่วง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดมาตรการให้เกษตรกรชาวสวนตัดปาล์มคุณภาพ ให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพปาล์มน้ำมันตามมาตรฐานสินค้าเกษตร (ทะลายปาล์มน้ำมัน) และกระทรวงมหาดไทย ดำเนินการกำกับ ควบคุม กลไกการบริหารจัดการปาล์มทั้งระบบในท้องที่ ตามอำนาจของประกาศฯ และมาตรการอื่น ๆ อันจะส่งผลให้การทำปาล์มคุณภาพและการเพิ่มเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มประสบผลสำเร็จ

นายพสุ กล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดเปอร์เซ็นต์น้ำมันขั้นต่ำของโรงงานสกัด ทำให้ชาวสวนปาล์มมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะราคาวัตถุดิบปาล์มทะลายขั้นต้นจะเริ่มที่ 18% น้ำมัน และทุก ๆ 1% น้ำมันที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาปาล์มทะลายเพิ่มขึ้น 30 สตางค์ต่อกิโลกรัม และปีนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้พยากรณ์ผลผลิตปาล์มน้ำมันมีปริมาณ 15 ล้านตัน จึงเชื่อว่าการออกประกาศฯ ฉบับนี้จะมีส่วนช่วยให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมปาล์มทั้งระบบโดยรวมของประเทศไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวร่วมรัฐบาล จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ทำไทยเสียเกียรติ

กทม. 18 มิ.ย.-“ภูมิใจไทย” มีมติถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล รัฐมนตรีร่อนใบลาออก มีผล 19 มิ.ย. จี้นายกฯ รับผิดชอบ​ ทำไทยเสียเกียรติ-ศักดิ์ศรี จากกรณีคลิปเสียงสนทนา “ฮุน ​เซน​” พร้อมร่วมมือประชาชน-กองทัพ รักษาอธิปไตยไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 20.39 น. วันนี้ พรรคภูมิใจไทย ได้ออกแถลงการณ์​ ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2568​ ระบุถึงกรณีการโทรศัพท์เจรจาระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งมีผลกระทบต่ออธิปไตย ดินแดน ผลประโยชน์ของประเทศไทย และ​กองทัพไทย ตามที่ประชาชนได้รับทราบแล้วนั้น พรรคภูมิใจไทย ขอเรียนว่า กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ได้ประชุมพิจารณาถึงกรณีที่เกิดขึ้น และมีมติให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยทุกคน ได้ส่งใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีผลวันที่ 19 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป พรรคภูมิใจไทย ขอเรียกร้องให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร […]

เปิดขุมทรัพย์ช่องจอม รังใหม่แก๊งคอลเซ็นเตอร์

สุรินทร์ 18 มิ.ย. – จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ เป็น 1 ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ที่ไม่เพียงตอบโต้กันในมิติทางเศรษฐกิจ แต่กระทบกระทั่งในมิติความมั่นคง ทั้งเรื่องพื้นที่ทับซ้อน และแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติที่เมืองโอร์เสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย ของกัมพูชา ถูกจับตาว่าเป็นฐานใหม่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ .-สำนักข่าวไทย

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย