วิสามัญ…“น้อย เหล็กเพชร” มือยิงตำรวจกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์ 12 พ.ค.61- ตำรวจภูธรภาค 4 วิสามัญ “น้อย เหล็กเพชร” มือยิงตำรวจกาฬสินธุ์ หลังพยายามต่อสู้ขณะเข้าจับกุม ด้าน สตช.ปูนบำเหน็จ เลื่อน 5 ขั้น 4 ชั้นยศให้ ส.ต.ท.ศรัญ เป็น ร.ต.ต.ศรัญ


เหตุตำรวจสายสืบ บช.ภ.4 บุกจับพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญบนแพปลา บริเวณลำน้ำปาวตอนเหนือ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเหตุให้ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสืบสวน 2 ตำรวจภูธรภาค 4 ได้รับบาดเจ็บตรงแขนข้างซ้าย แต่ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงตกน้ำเสียชีวิต โดยผู้ตายเป็นบุตรชายของผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย มือปราบอันดับ 1 ของ บช.ภ.4 เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ตำรวจภูธร ภาค 4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 200 คน ไล่ล่าจับกุมตลอดทั้งคืน ล่าสุดเช้านี้ ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 วิสามัญ “นายสุริยนต์” หรือ “น้อย เหล็กเพชร” คนร้ายที่ยิงตำรวจเสียชีวิต บนถนนบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี แต่ในขณะเข้าจับกุมคนร้ายยิงต่อสู้ จบลงด้วยการยิงปะทะ และสิ้นเสียงเมื่อเวลา 01.30 น.จากการวิสามัญคนร้าย


เมื่อเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์, พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.อ.สมบัติ จินดาศรี ผบก.กรมทหารม้าที่ 6 รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธนูญสินธุ์ ไชยศิริ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ ตรวจดูศพ นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร คนร้ายคดียาบ้า อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ 1623/2561 ซึ่งหลบหนีระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมียาเสพติด หรือยาบ้าไว้ในครอบครอง เคยเป็นอดีตแพทย์ประจำตำบลดงสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท กาฬสินธุ์ (ลักษณะเป็นเจ้าหน้าที่อนามัย) ลาออกเมื่อปี 2555 ในปี 2558 เคยถูกจับคดียาบ้า จับคุก 2 ปี เพิ่งจะออกมา ก็มาก่อเหตุ

ศพนายสุริยันต์นอนตายจมกองเลือดอยู่บนถนนสายบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี ในสภาพนอนคว่ำ สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม มีอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 กระบอกจากการชันสูตร ถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัว ตรงท้องน้อยด้านหน้า 5 นัด และที่ด้านหลังตรงเอวด้านซ้าย 1 นัด

โดยมีญาติได้เข้ามายืนยันว่าคนที่ตายคืนนายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพส่งต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดขอนแก่น


พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ บอกว่าระดมกำลังจากเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ให้เร่งคลี่คลายคดี เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนและจิตใจเหี้ยมโหดและพยายามที่จะหลบหนี

เนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 สายสืบได้ทราบข่าวว่า คนร้ายยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในเขตตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จึงได้เข้าทำการปิดล้อมและกระชับพื้นที่ และไปพบตัวอีกครั้งในป่าอ้อยตรงบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมเพื่อให้มอบตัว ส่วนคนร้ายได้เปิดฉากยิงปะทะเจ้าหน้าที่ และได้วิ่งหลบหนีขึ้นมาบนถนนบ้านพรมลี เจ้าหน้าที่ซึ่งปิดล้อมจึงได้ยิงสกัด จนเป็นเหตุให้ นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร เสียชีวิต

ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า นอกจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการกวาดล้างยาเสพติด ในส่วนของทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เปิดยุทธการฟ้าแดดสงยาง และได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง แต่ผลจากเหตุการณ์นี้ถือได้ว่า คนร้ายที่ไปเกี่ยวพันกับยาเสพติดหรือยาบ้า มีอาวุธปืน ดังนั้น การทำงานจึงต้องเพิ่มความรัดกุมและก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว “มุทาพร” ด้วย

ด้าน พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า นับจากนี้การติดตามจับกุมคนร้ายโดยเฉพาะในคดียาเสพติดจะต้องเพิ่มความระมัดระวังและเฉียบขาด และจะต้องเตรียมพร้อมทันทีหากคนร้ายต่อสู้ขัดขืน และสำหรับความสูญเสีย ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและแสดงความแสดงใจเพราะถือเป็นตำรวจน้ำใจดี มีอนาคตไกล

ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 เวลา 15.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล, ด.ต.อมฤตย ละลี และ ส.ต.อ.ศรัญ มุทาพร ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สภ.บ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ช่วยราชการ ชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 เข้าทำการจับกุมตัว นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ 1623/2561 ซึ่งหลบหนีระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมียาเสพติด หรือยาบ้าไว้ในครอบครอง แต่ระหว่างเข้าจับกุม คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ เป็นเหตุให้ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ส่วน ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงและตกน้ำเสียชีวิต จนมีการไล่ล่าและทำการวิสามัญคนร้ายจนเสียชีวิต

จากเหตุตำรวจสายสืบ บช.ภ.4 บุกจับพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญบนแพปลา บริเวณลำน้ำปาวตอนเหนือ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเหตุให้ ส.ต.อ.ศรัญ ถูกยิงเสียชีวิต และอีกนายได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยจากหลายมูลนิธิฯ งมค้นหาร่างของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงตกลงไปในแม่น้ำปาว ในบริเวณเขื่อนลำปาว เขต ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท โดยการค้นหาค่อนข้างยากลำบาก เพราะบริเวณดังกล่าวมีน้ำลึกและใต้น้ำมีต้นไม้-ซากวัชพืชจำนวนมาก ขณะชุดสืบสวนได้ออกตระเวนตามลำน้ำปาวเพื่อแกะรอยคนร้ายที่หลบหนี และขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส เพราะเชื่อว่าคนร้ายยังคงอยู่ในลำน้ำปาว การค้นหานานกว่า 20 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงพบศพ ส.ต.ท.ศรัญ ประมาณ 12.00 น. หลังศพลอยขึ้นผิวน้ำ ห่างจากแพจุดเกิดเหตุ 50 เมตร กระสุนเจาะกะโหลก บริเวณกกหู และท้ายทอย ซึ่งเมื่อ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย พ่อของผู้ตายเห็นศพลูกชาย ก็มีสีหน้านิ่งขรึมน้ำตาคลอเบ้า ทั้งนี้ ภายหลังจากพบศพเจ้าหน้าที่จึงลำเลียงไปที่โรงพยาบาลท่าคันโท โดยมี พ.ต.อ.เกษม มุทาพร และนางพัชรี มุทาพร พร้อมตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.4 เดินทางมามาดูศพด้วยความหดหู่ใจ ญาติหลายคนหลั่งน้ำตา แต่พ่อและแม่อยู่ในความสงบดูลูกด้วยความสงสาร

นางพัชรี มุทาพร มารดาผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่สุดเพราะมีลูก 2 คน ชายกับหญิง โดย ส.ต.ท.ศรัญ เป็นบุตรคนโต ซึ่งบุตรชายเลือกเป็นตำรวจเหมือนกับพ่อ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ก็เสียใจ แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ยอมรับว่าเสียใจมาก

สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศล ขณะนี้ศพของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ได้เคลื่อนออกจากโรงพยาบาลท่าคันโท โดยจะไปผ่าพิสูจน์ศพยังสถาบันนิติเวชขอนแก่น และในวันพรุ่งนี้จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย

ปูนบำเหน็จ ส.ต.ท. เหยื่อยิง “น้อย เหล็กเพชร”

สำนักงานตำรวจแห่งชาติปูนบำเหน็จ เลื่อน 5 ขั้น 4 ชั้นยศให้ ส.ต.ท.ศรัญ เป็น ร.ต.ต.ศรัญ ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้น ส.ต.ท.ศรัญ ญาติจะได้รับเงินจากสิทธิประโยชน์ จากเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจ เงินณาปณกิจสงเคราะห์ เงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ เงินช่วยเหลือพิเศษ 3 เดือน เงินบำเหน็จตกทอด เงินบำนาญพิเศษ พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา – ค่าตอบแทน เงินรางวัลยาเสพติด เงินกองทุน ป.ป.ส. เงินมูลนิธิ ป.ป.ส. รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,587,270 บาท และทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ก็จะจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพให้อย่างสมเกียรติ ที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย และขอให้ตำรวจทุกนายถือเป็นแบบอย่างในการเสียสละ ได้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของประชาชนโดยแท้

“สำหรับ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล ผบ.หมู่กก.สส.2 บก.สส.ภาค 4 ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนด้านซ้าย จะได้รับเงินตามสิทธิประโยชน์ จากเงินกองทุนสวัสดิการ เงินตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ เงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ เงินรางวัลยาเสพติด เงินกองทุน ป.ป.ส. เงินมูลนิธิ ป.ป.ส.และเงิน พ.ป.ผ.ไม่เกิน 2 ขั้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 260,000บาท” ผบช.ภ.4 กล่าว

ส่วนประวัติ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร อายุ 26 ปี อดีตเป็นนักว่ายน้ำของโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเมื่อจบการศึกษาได้สอบเข้าตำรวจและได้เข้ารับราชการตำรวจในปี 2556 และรับราชการอยู่ที่ สภ.บ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.หมู่งานสืบสวนฯ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.หนองคาย บิดา เดิมเป็น ผกก.สืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 จึงได้ขอตัวลูกชายมาช่วยราชการ ก่อนที่ตนเองจะย้ายไป ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ผกก.เรนูนคร จังหวัดนครพนม และได้ทำคดีครูจอมทรัพย์ และได้รับเลือกมาดำรงตำแหน่งเป็น ผกก.สภ.เมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายในปัจจุบัน ทั้งนี้ ส.ต.ท.ศรัญ ผู้ตาย เป็นคนมีอุปนิสัยใจคอดี และมีความสนิทสนมกับพ่อ เนื่องจากอายุยังน้อย พ่อจึงฝากให้รุ่นพี่ในกองสืบฯ ดูแล และถือว่าเป็นตำรวจที่มีอนาคตไกลและเตรียมที่จะสอบตำรวจชั้นสัญญาบัตรในอนาคต แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]

เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด

กทม.14 ส.ค.- เปิดคำร้อง 36 สว. ปมคลิปเสียง ยกละเอียดยิบผิดจริยธรรมข้อใด อ้างอิงเหตุการณ์คลิปเสียง และพฤติการณ์ที่นิ่งเฉย ไม่กำหนดมาตรการหรือความชัดเจนตอบโต้กัมพูชาในช่วงปะทะ ไล่เลียงตั้งแต่กัมพูชารุกล้ำพื้นที่อธิปไตยไทย 200 เมตร จนถึงวันปล่อยคลิปเสียง 18 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในคำร้องของ 36 สว. ต่อกรณีคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ที่ศาลนัดวินิจฉัยคำร้องในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งในคำร้องขอให้ศาลสั่งให้ความเป็นนายกรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบกับมาตรา 160 (4)(5) ในเนื้อหาคำร้องอ้างอิงถึงคลิปสนทนาของนางสาวแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ที่มีการเอ่ยพาดพิงแม่ทัพภาคที่ 2 แม้นายกรัฐมนตรีพยายามแถลงข่าวชี้แจงกรณีคลิปเสียง แต่สมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวฟังไม่ขึ้น เพราะเมื่อมีการเผยแพร่คลิปเสียงเช่นนี้แล้ว นายกรัฐมนตรีย่อมพยายามจะต้องหาข้อแก้ตัวอย่างไรก็ได้ โดยสมาชิกวุฒิสภาเห็นว่า หากนายกรัฐมนตรีมีเจตนาเจรจาเพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งและการสู้รบระหว่างประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติจริง นายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเจรจาทางการทูตตามหลักและมาตรฐานการดำเนินการที่ถูกต้องอย่างโปร่งใส ตามกระบวนการของกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ประการสำคัญ […]

“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]