วิสามัญ…“น้อย เหล็กเพชร” มือยิงตำรวจกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์ 12 พ.ค.61- ตำรวจภูธรภาค 4 วิสามัญ “น้อย เหล็กเพชร” มือยิงตำรวจกาฬสินธุ์ หลังพยายามต่อสู้ขณะเข้าจับกุม ด้าน สตช.ปูนบำเหน็จ เลื่อน 5 ขั้น 4 ชั้นยศให้ ส.ต.ท.ศรัญ เป็น ร.ต.ต.ศรัญ


เหตุตำรวจสายสืบ บช.ภ.4 บุกจับพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญบนแพปลา บริเวณลำน้ำปาวตอนเหนือ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเหตุให้ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสืบสวน 2 ตำรวจภูธรภาค 4 ได้รับบาดเจ็บตรงแขนข้างซ้าย แต่ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงตกน้ำเสียชีวิต โดยผู้ตายเป็นบุตรชายของผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย มือปราบอันดับ 1 ของ บช.ภ.4 เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ตำรวจภูธร ภาค 4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 200 คน ไล่ล่าจับกุมตลอดทั้งคืน ล่าสุดเช้านี้ ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 วิสามัญ “นายสุริยนต์” หรือ “น้อย เหล็กเพชร” คนร้ายที่ยิงตำรวจเสียชีวิต บนถนนบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี แต่ในขณะเข้าจับกุมคนร้ายยิงต่อสู้ จบลงด้วยการยิงปะทะ และสิ้นเสียงเมื่อเวลา 01.30 น.จากการวิสามัญคนร้าย


เมื่อเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์, พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.อ.สมบัติ จินดาศรี ผบก.กรมทหารม้าที่ 6 รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธนูญสินธุ์ ไชยศิริ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ ตรวจดูศพ นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร คนร้ายคดียาบ้า อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ 1623/2561 ซึ่งหลบหนีระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมียาเสพติด หรือยาบ้าไว้ในครอบครอง เคยเป็นอดีตแพทย์ประจำตำบลดงสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท กาฬสินธุ์ (ลักษณะเป็นเจ้าหน้าที่อนามัย) ลาออกเมื่อปี 2555 ในปี 2558 เคยถูกจับคดียาบ้า จับคุก 2 ปี เพิ่งจะออกมา ก็มาก่อเหตุ

ศพนายสุริยันต์นอนตายจมกองเลือดอยู่บนถนนสายบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี ในสภาพนอนคว่ำ สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม มีอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 กระบอกจากการชันสูตร ถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัว ตรงท้องน้อยด้านหน้า 5 นัด และที่ด้านหลังตรงเอวด้านซ้าย 1 นัด

โดยมีญาติได้เข้ามายืนยันว่าคนที่ตายคืนนายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพส่งต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดขอนแก่น


พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ บอกว่าระดมกำลังจากเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ให้เร่งคลี่คลายคดี เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนและจิตใจเหี้ยมโหดและพยายามที่จะหลบหนี

เนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 สายสืบได้ทราบข่าวว่า คนร้ายยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในเขตตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จึงได้เข้าทำการปิดล้อมและกระชับพื้นที่ และไปพบตัวอีกครั้งในป่าอ้อยตรงบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมเพื่อให้มอบตัว ส่วนคนร้ายได้เปิดฉากยิงปะทะเจ้าหน้าที่ และได้วิ่งหลบหนีขึ้นมาบนถนนบ้านพรมลี เจ้าหน้าที่ซึ่งปิดล้อมจึงได้ยิงสกัด จนเป็นเหตุให้ นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร เสียชีวิต

ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า นอกจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการกวาดล้างยาเสพติด ในส่วนของทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เปิดยุทธการฟ้าแดดสงยาง และได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง แต่ผลจากเหตุการณ์นี้ถือได้ว่า คนร้ายที่ไปเกี่ยวพันกับยาเสพติดหรือยาบ้า มีอาวุธปืน ดังนั้น การทำงานจึงต้องเพิ่มความรัดกุมและก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว “มุทาพร” ด้วย

ด้าน พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า นับจากนี้การติดตามจับกุมคนร้ายโดยเฉพาะในคดียาเสพติดจะต้องเพิ่มความระมัดระวังและเฉียบขาด และจะต้องเตรียมพร้อมทันทีหากคนร้ายต่อสู้ขัดขืน และสำหรับความสูญเสีย ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและแสดงความแสดงใจเพราะถือเป็นตำรวจน้ำใจดี มีอนาคตไกล

ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 เวลา 15.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล, ด.ต.อมฤตย ละลี และ ส.ต.อ.ศรัญ มุทาพร ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สภ.บ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ช่วยราชการ ชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 เข้าทำการจับกุมตัว นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ 1623/2561 ซึ่งหลบหนีระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมียาเสพติด หรือยาบ้าไว้ในครอบครอง แต่ระหว่างเข้าจับกุม คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ เป็นเหตุให้ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ส่วน ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงและตกน้ำเสียชีวิต จนมีการไล่ล่าและทำการวิสามัญคนร้ายจนเสียชีวิต

จากเหตุตำรวจสายสืบ บช.ภ.4 บุกจับพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญบนแพปลา บริเวณลำน้ำปาวตอนเหนือ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเหตุให้ ส.ต.อ.ศรัญ ถูกยิงเสียชีวิต และอีกนายได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยจากหลายมูลนิธิฯ งมค้นหาร่างของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงตกลงไปในแม่น้ำปาว ในบริเวณเขื่อนลำปาว เขต ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท โดยการค้นหาค่อนข้างยากลำบาก เพราะบริเวณดังกล่าวมีน้ำลึกและใต้น้ำมีต้นไม้-ซากวัชพืชจำนวนมาก ขณะชุดสืบสวนได้ออกตระเวนตามลำน้ำปาวเพื่อแกะรอยคนร้ายที่หลบหนี และขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส เพราะเชื่อว่าคนร้ายยังคงอยู่ในลำน้ำปาว การค้นหานานกว่า 20 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงพบศพ ส.ต.ท.ศรัญ ประมาณ 12.00 น. หลังศพลอยขึ้นผิวน้ำ ห่างจากแพจุดเกิดเหตุ 50 เมตร กระสุนเจาะกะโหลก บริเวณกกหู และท้ายทอย ซึ่งเมื่อ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย พ่อของผู้ตายเห็นศพลูกชาย ก็มีสีหน้านิ่งขรึมน้ำตาคลอเบ้า ทั้งนี้ ภายหลังจากพบศพเจ้าหน้าที่จึงลำเลียงไปที่โรงพยาบาลท่าคันโท โดยมี พ.ต.อ.เกษม มุทาพร และนางพัชรี มุทาพร พร้อมตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.4 เดินทางมามาดูศพด้วยความหดหู่ใจ ญาติหลายคนหลั่งน้ำตา แต่พ่อและแม่อยู่ในความสงบดูลูกด้วยความสงสาร

นางพัชรี มุทาพร มารดาผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่สุดเพราะมีลูก 2 คน ชายกับหญิง โดย ส.ต.ท.ศรัญ เป็นบุตรคนโต ซึ่งบุตรชายเลือกเป็นตำรวจเหมือนกับพ่อ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ก็เสียใจ แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ยอมรับว่าเสียใจมาก

สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศล ขณะนี้ศพของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ได้เคลื่อนออกจากโรงพยาบาลท่าคันโท โดยจะไปผ่าพิสูจน์ศพยังสถาบันนิติเวชขอนแก่น และในวันพรุ่งนี้จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย

ปูนบำเหน็จ ส.ต.ท. เหยื่อยิง “น้อย เหล็กเพชร”

สำนักงานตำรวจแห่งชาติปูนบำเหน็จ เลื่อน 5 ขั้น 4 ชั้นยศให้ ส.ต.ท.ศรัญ เป็น ร.ต.ต.ศรัญ ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้น ส.ต.ท.ศรัญ ญาติจะได้รับเงินจากสิทธิประโยชน์ จากเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจ เงินณาปณกิจสงเคราะห์ เงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ เงินช่วยเหลือพิเศษ 3 เดือน เงินบำเหน็จตกทอด เงินบำนาญพิเศษ พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา – ค่าตอบแทน เงินรางวัลยาเสพติด เงินกองทุน ป.ป.ส. เงินมูลนิธิ ป.ป.ส. รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,587,270 บาท และทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ก็จะจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพให้อย่างสมเกียรติ ที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย และขอให้ตำรวจทุกนายถือเป็นแบบอย่างในการเสียสละ ได้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของประชาชนโดยแท้

“สำหรับ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล ผบ.หมู่กก.สส.2 บก.สส.ภาค 4 ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนด้านซ้าย จะได้รับเงินตามสิทธิประโยชน์ จากเงินกองทุนสวัสดิการ เงินตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ เงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ เงินรางวัลยาเสพติด เงินกองทุน ป.ป.ส. เงินมูลนิธิ ป.ป.ส.และเงิน พ.ป.ผ.ไม่เกิน 2 ขั้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 260,000บาท” ผบช.ภ.4 กล่าว

ส่วนประวัติ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร อายุ 26 ปี อดีตเป็นนักว่ายน้ำของโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเมื่อจบการศึกษาได้สอบเข้าตำรวจและได้เข้ารับราชการตำรวจในปี 2556 และรับราชการอยู่ที่ สภ.บ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.หมู่งานสืบสวนฯ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.หนองคาย บิดา เดิมเป็น ผกก.สืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 จึงได้ขอตัวลูกชายมาช่วยราชการ ก่อนที่ตนเองจะย้ายไป ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ผกก.เรนูนคร จังหวัดนครพนม และได้ทำคดีครูจอมทรัพย์ และได้รับเลือกมาดำรงตำแหน่งเป็น ผกก.สภ.เมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายในปัจจุบัน ทั้งนี้ ส.ต.ท.ศรัญ ผู้ตาย เป็นคนมีอุปนิสัยใจคอดี และมีความสนิทสนมกับพ่อ เนื่องจากอายุยังน้อย พ่อจึงฝากให้รุ่นพี่ในกองสืบฯ ดูแล และถือว่าเป็นตำรวจที่มีอนาคตไกลและเตรียมที่จะสอบตำรวจชั้นสัญญาบัตรในอนาคต แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สุดชิล ใส่เสื้อฮาวาย เข้าพรรคประชุมแกนนำ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” ว่าที่นายกฯ สุดชิล ใส่เสื้อฮาวายลายใบไม้ เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ประชุมแกนนำในวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม สวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ เมื่อมาถึงผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อน และระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว ขณะที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญ ภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.อนุทิน 1 เช่น นายภราดร ปริศนานันทกุล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด.-314-สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย