วิสามัญ…“น้อย เหล็กเพชร” มือยิงตำรวจกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์ 12 พ.ค.61- ตำรวจภูธรภาค 4 วิสามัญ “น้อย เหล็กเพชร” มือยิงตำรวจกาฬสินธุ์ หลังพยายามต่อสู้ขณะเข้าจับกุม ด้าน สตช.ปูนบำเหน็จ เลื่อน 5 ขั้น 4 ชั้นยศให้ ส.ต.ท.ศรัญ เป็น ร.ต.ต.ศรัญ


เหตุตำรวจสายสืบ บช.ภ.4 บุกจับพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญบนแพปลา บริเวณลำน้ำปาวตอนเหนือ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเหตุให้ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสืบสวน 2 ตำรวจภูธรภาค 4 ได้รับบาดเจ็บตรงแขนข้างซ้าย แต่ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงตกน้ำเสียชีวิต โดยผู้ตายเป็นบุตรชายของผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย มือปราบอันดับ 1 ของ บช.ภ.4 เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ตำรวจภูธร ภาค 4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 200 คน ไล่ล่าจับกุมตลอดทั้งคืน ล่าสุดเช้านี้ ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 วิสามัญ “นายสุริยนต์” หรือ “น้อย เหล็กเพชร” คนร้ายที่ยิงตำรวจเสียชีวิต บนถนนบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี แต่ในขณะเข้าจับกุมคนร้ายยิงต่อสู้ จบลงด้วยการยิงปะทะ และสิ้นเสียงเมื่อเวลา 01.30 น.จากการวิสามัญคนร้าย


เมื่อเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์, พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.อ.สมบัติ จินดาศรี ผบก.กรมทหารม้าที่ 6 รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธนูญสินธุ์ ไชยศิริ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ ตรวจดูศพ นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร คนร้ายคดียาบ้า อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ 1623/2561 ซึ่งหลบหนีระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมียาเสพติด หรือยาบ้าไว้ในครอบครอง เคยเป็นอดีตแพทย์ประจำตำบลดงสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท กาฬสินธุ์ (ลักษณะเป็นเจ้าหน้าที่อนามัย) ลาออกเมื่อปี 2555 ในปี 2558 เคยถูกจับคดียาบ้า จับคุก 2 ปี เพิ่งจะออกมา ก็มาก่อเหตุ

ศพนายสุริยันต์นอนตายจมกองเลือดอยู่บนถนนสายบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี ในสภาพนอนคว่ำ สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม มีอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 กระบอกจากการชันสูตร ถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัว ตรงท้องน้อยด้านหน้า 5 นัด และที่ด้านหลังตรงเอวด้านซ้าย 1 นัด

โดยมีญาติได้เข้ามายืนยันว่าคนที่ตายคืนนายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพส่งต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดขอนแก่น


พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ บอกว่าระดมกำลังจากเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ให้เร่งคลี่คลายคดี เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนและจิตใจเหี้ยมโหดและพยายามที่จะหลบหนี

เนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 สายสืบได้ทราบข่าวว่า คนร้ายยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในเขตตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จึงได้เข้าทำการปิดล้อมและกระชับพื้นที่ และไปพบตัวอีกครั้งในป่าอ้อยตรงบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมเพื่อให้มอบตัว ส่วนคนร้ายได้เปิดฉากยิงปะทะเจ้าหน้าที่ และได้วิ่งหลบหนีขึ้นมาบนถนนบ้านพรมลี เจ้าหน้าที่ซึ่งปิดล้อมจึงได้ยิงสกัด จนเป็นเหตุให้ นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร เสียชีวิต

ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า นอกจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการกวาดล้างยาเสพติด ในส่วนของทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เปิดยุทธการฟ้าแดดสงยาง และได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง แต่ผลจากเหตุการณ์นี้ถือได้ว่า คนร้ายที่ไปเกี่ยวพันกับยาเสพติดหรือยาบ้า มีอาวุธปืน ดังนั้น การทำงานจึงต้องเพิ่มความรัดกุมและก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว “มุทาพร” ด้วย

ด้าน พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า นับจากนี้การติดตามจับกุมคนร้ายโดยเฉพาะในคดียาเสพติดจะต้องเพิ่มความระมัดระวังและเฉียบขาด และจะต้องเตรียมพร้อมทันทีหากคนร้ายต่อสู้ขัดขืน และสำหรับความสูญเสีย ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและแสดงความแสดงใจเพราะถือเป็นตำรวจน้ำใจดี มีอนาคตไกล

ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 เวลา 15.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล, ด.ต.อมฤตย ละลี และ ส.ต.อ.ศรัญ มุทาพร ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สภ.บ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ช่วยราชการ ชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 เข้าทำการจับกุมตัว นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ 1623/2561 ซึ่งหลบหนีระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมียาเสพติด หรือยาบ้าไว้ในครอบครอง แต่ระหว่างเข้าจับกุม คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ เป็นเหตุให้ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ส่วน ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงและตกน้ำเสียชีวิต จนมีการไล่ล่าและทำการวิสามัญคนร้ายจนเสียชีวิต

จากเหตุตำรวจสายสืบ บช.ภ.4 บุกจับพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญบนแพปลา บริเวณลำน้ำปาวตอนเหนือ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเหตุให้ ส.ต.อ.ศรัญ ถูกยิงเสียชีวิต และอีกนายได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยจากหลายมูลนิธิฯ งมค้นหาร่างของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงตกลงไปในแม่น้ำปาว ในบริเวณเขื่อนลำปาว เขต ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท โดยการค้นหาค่อนข้างยากลำบาก เพราะบริเวณดังกล่าวมีน้ำลึกและใต้น้ำมีต้นไม้-ซากวัชพืชจำนวนมาก ขณะชุดสืบสวนได้ออกตระเวนตามลำน้ำปาวเพื่อแกะรอยคนร้ายที่หลบหนี และขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส เพราะเชื่อว่าคนร้ายยังคงอยู่ในลำน้ำปาว การค้นหานานกว่า 20 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงพบศพ ส.ต.ท.ศรัญ ประมาณ 12.00 น. หลังศพลอยขึ้นผิวน้ำ ห่างจากแพจุดเกิดเหตุ 50 เมตร กระสุนเจาะกะโหลก บริเวณกกหู และท้ายทอย ซึ่งเมื่อ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย พ่อของผู้ตายเห็นศพลูกชาย ก็มีสีหน้านิ่งขรึมน้ำตาคลอเบ้า ทั้งนี้ ภายหลังจากพบศพเจ้าหน้าที่จึงลำเลียงไปที่โรงพยาบาลท่าคันโท โดยมี พ.ต.อ.เกษม มุทาพร และนางพัชรี มุทาพร พร้อมตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.4 เดินทางมามาดูศพด้วยความหดหู่ใจ ญาติหลายคนหลั่งน้ำตา แต่พ่อและแม่อยู่ในความสงบดูลูกด้วยความสงสาร

นางพัชรี มุทาพร มารดาผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่สุดเพราะมีลูก 2 คน ชายกับหญิง โดย ส.ต.ท.ศรัญ เป็นบุตรคนโต ซึ่งบุตรชายเลือกเป็นตำรวจเหมือนกับพ่อ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ก็เสียใจ แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ยอมรับว่าเสียใจมาก

สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศล ขณะนี้ศพของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ได้เคลื่อนออกจากโรงพยาบาลท่าคันโท โดยจะไปผ่าพิสูจน์ศพยังสถาบันนิติเวชขอนแก่น และในวันพรุ่งนี้จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย

ปูนบำเหน็จ ส.ต.ท. เหยื่อยิง “น้อย เหล็กเพชร”

สำนักงานตำรวจแห่งชาติปูนบำเหน็จ เลื่อน 5 ขั้น 4 ชั้นยศให้ ส.ต.ท.ศรัญ เป็น ร.ต.ต.ศรัญ ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้น ส.ต.ท.ศรัญ ญาติจะได้รับเงินจากสิทธิประโยชน์ จากเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจ เงินณาปณกิจสงเคราะห์ เงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ เงินช่วยเหลือพิเศษ 3 เดือน เงินบำเหน็จตกทอด เงินบำนาญพิเศษ พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา – ค่าตอบแทน เงินรางวัลยาเสพติด เงินกองทุน ป.ป.ส. เงินมูลนิธิ ป.ป.ส. รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,587,270 บาท และทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ก็จะจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพให้อย่างสมเกียรติ ที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย และขอให้ตำรวจทุกนายถือเป็นแบบอย่างในการเสียสละ ได้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของประชาชนโดยแท้

“สำหรับ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล ผบ.หมู่กก.สส.2 บก.สส.ภาค 4 ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนด้านซ้าย จะได้รับเงินตามสิทธิประโยชน์ จากเงินกองทุนสวัสดิการ เงินตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ เงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ เงินรางวัลยาเสพติด เงินกองทุน ป.ป.ส. เงินมูลนิธิ ป.ป.ส.และเงิน พ.ป.ผ.ไม่เกิน 2 ขั้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 260,000บาท” ผบช.ภ.4 กล่าว

ส่วนประวัติ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร อายุ 26 ปี อดีตเป็นนักว่ายน้ำของโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเมื่อจบการศึกษาได้สอบเข้าตำรวจและได้เข้ารับราชการตำรวจในปี 2556 และรับราชการอยู่ที่ สภ.บ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.หมู่งานสืบสวนฯ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.หนองคาย บิดา เดิมเป็น ผกก.สืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 จึงได้ขอตัวลูกชายมาช่วยราชการ ก่อนที่ตนเองจะย้ายไป ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ผกก.เรนูนคร จังหวัดนครพนม และได้ทำคดีครูจอมทรัพย์ และได้รับเลือกมาดำรงตำแหน่งเป็น ผกก.สภ.เมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายในปัจจุบัน ทั้งนี้ ส.ต.ท.ศรัญ ผู้ตาย เป็นคนมีอุปนิสัยใจคอดี และมีความสนิทสนมกับพ่อ เนื่องจากอายุยังน้อย พ่อจึงฝากให้รุ่นพี่ในกองสืบฯ ดูแล และถือว่าเป็นตำรวจที่มีอนาคตไกลและเตรียมที่จะสอบตำรวจชั้นสัญญาบัตรในอนาคต แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิด

17 ก.ค.- แม่ทัพภาค 2 สั่งดูแลสิทธิสวัสดิการ-ปูนบำเหน็จ ทหารเหยียบกับระเบิดขาขาด เลื่อนยศ “สิบเอก” รับบำนาญเกือบ 30,000 บาท/เดือน เงินช่วยเหลือกว่า 1 ล้านบาท บรรจุทายาทรับราชการ เมื่อวันที่ 17 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งการให้ฝ่ายกำลังพลกองทัพภาคที่ 2 ได้ตรวจสอบสิทธิของข้าราชการทหารในการปฏิบัติราชการสนาม และให้ดำเนินการปูนบำเหน็จแก่พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน สูงสุด เพราะ เป็นการปฏิบัติภารกิจเพื่อปกป้องอธิปไตยในการ ออกลาดตระเวนและเหยียบกับระเบิดที่เนิน 481 วานนี้ โดย ได้รับการปูนบำเหน็จ เลื่อนชั้นเป็นสิบเอก (ส.อ.) หลังจากรักษาตัวแล้วเสร็จ ปลดเหตุสูญเสียฯจากการรบ ได้รับบำนาญเดือนละ 15,600 บาท ซึ่งเมื่อรวม เงินรายเดือน จากหน่วยงาน/องค์กรต่าง ๆ แล้ว คาดว่าจะได้รับเงิน รวม 29,800 บาท/เดือน (โดยประมาณ) […]