วิสามัญ…“น้อย เหล็กเพชร” มือยิงตำรวจกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์ 12 พ.ค.61- ตำรวจภูธรภาค 4 วิสามัญ “น้อย เหล็กเพชร” มือยิงตำรวจกาฬสินธุ์ หลังพยายามต่อสู้ขณะเข้าจับกุม ด้าน สตช.ปูนบำเหน็จ เลื่อน 5 ขั้น 4 ชั้นยศให้ ส.ต.ท.ศรัญ เป็น ร.ต.ต.ศรัญ


เหตุตำรวจสายสืบ บช.ภ.4 บุกจับพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญบนแพปลา บริเวณลำน้ำปาวตอนเหนือ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเหตุให้ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด กองกำกับการสืบสวน 2 ตำรวจภูธรภาค 4 ได้รับบาดเจ็บตรงแขนข้างซ้าย แต่ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงตกน้ำเสียชีวิต โดยผู้ตายเป็นบุตรชายของผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย มือปราบอันดับ 1 ของ บช.ภ.4 เมื่อคืนวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ตำรวจภูธร ภาค 4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ กว่า 200 คน ไล่ล่าจับกุมตลอดทั้งคืน ล่าสุดเช้านี้ ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 4 วิสามัญ “นายสุริยนต์” หรือ “น้อย เหล็กเพชร” คนร้ายที่ยิงตำรวจเสียชีวิต บนถนนบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี แต่ในขณะเข้าจับกุมคนร้ายยิงต่อสู้ จบลงด้วยการยิงปะทะ และสิ้นเสียงเมื่อเวลา 01.30 น.จากการวิสามัญคนร้าย


เมื่อเวลา 06.00 น.ที่ผ่านมา นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์, พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, พ.อ.สมบัติ จินดาศรี ผบก.กรมทหารม้าที่ 6 รองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธนูญสินธุ์ ไชยศิริ ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ ตรวจดูศพ นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร คนร้ายคดียาบ้า อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ 1623/2561 ซึ่งหลบหนีระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมียาเสพติด หรือยาบ้าไว้ในครอบครอง เคยเป็นอดีตแพทย์ประจำตำบลดงสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท กาฬสินธุ์ (ลักษณะเป็นเจ้าหน้าที่อนามัย) ลาออกเมื่อปี 2555 ในปี 2558 เคยถูกจับคดียาบ้า จับคุก 2 ปี เพิ่งจะออกมา ก็มาก่อเหตุ

ศพนายสุริยันต์นอนตายจมกองเลือดอยู่บนถนนสายบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี ในสภาพนอนคว่ำ สวมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนส์สีน้ำเงินเข้ม มีอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 กระบอกจากการชันสูตร ถูกยิงเข้าที่บริเวณลำตัว ตรงท้องน้อยด้านหน้า 5 นัด และที่ด้านหลังตรงเอวด้านซ้าย 1 นัด

โดยมีญาติได้เข้ามายืนยันว่าคนที่ตายคืนนายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร เจ้าหน้าที่จึงได้นำศพส่งต่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์จังหวัดขอนแก่น


พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ บอกว่าระดมกำลังจากเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งของ พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ให้เร่งคลี่คลายคดี เนื่องจากคนร้ายมีอาวุธปืนและจิตใจเหี้ยมโหดและพยายามที่จะหลบหนี

เนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 11 พฤษภาคม 2561 สายสืบได้ทราบข่าวว่า คนร้ายยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในเขตตำบลดอนสมบูรณ์ อำเภอท่าคันโท จึงได้เข้าทำการปิดล้อมและกระชับพื้นที่ และไปพบตัวอีกครั้งในป่าอ้อยตรงบ้านพรมลี หมู่ที่ 12 ตำบลหนองบัว อำเภอหนองกุงศรี จึงได้กระจายกำลังปิดล้อมเพื่อให้มอบตัว ส่วนคนร้ายได้เปิดฉากยิงปะทะเจ้าหน้าที่ และได้วิ่งหลบหนีขึ้นมาบนถนนบ้านพรมลี เจ้าหน้าที่ซึ่งปิดล้อมจึงได้ยิงสกัด จนเป็นเหตุให้ นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร เสียชีวิต

ด้าน นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า นอกจากการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการกวาดล้างยาเสพติด ในส่วนของทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เปิดยุทธการฟ้าแดดสงยาง และได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นอย่างต่อเนื่อง แต่ผลจากเหตุการณ์นี้ถือได้ว่า คนร้ายที่ไปเกี่ยวพันกับยาเสพติดหรือยาบ้า มีอาวุธปืน ดังนั้น การทำงานจึงต้องเพิ่มความรัดกุมและก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัว “มุทาพร” ด้วย

ด้าน พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 4 กล่าวว่า นับจากนี้การติดตามจับกุมคนร้ายโดยเฉพาะในคดียาเสพติดจะต้องเพิ่มความระมัดระวังและเฉียบขาด และจะต้องเตรียมพร้อมทันทีหากคนร้ายต่อสู้ขัดขืน และสำหรับความสูญเสีย ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและแสดงความแสดงใจเพราะถือเป็นตำรวจน้ำใจดี มีอนาคตไกล

ส่วนเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2561 เวลา 15.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ 3 นาย ประกอบด้วย ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล, ด.ต.อมฤตย ละลี และ ส.ต.อ.ศรัญ มุทาพร ผู้บังคับหมู่งานสืบสวน สภ.บ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ช่วยราชการ ชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 เข้าทำการจับกุมตัว นายสุริยันต์ หรือน้อย เหล็กเพชร อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลกาฬสินธุ์ เลขที่ 1623/2561 ซึ่งหลบหนีระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวในคดีมียาเสพติด หรือยาบ้าไว้ในครอบครอง แต่ระหว่างเข้าจับกุม คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงต่อสู้ เป็นเหตุให้ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่แขนซ้าย ส่วน ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงและตกน้ำเสียชีวิต จนมีการไล่ล่าและทำการวิสามัญคนร้ายจนเสียชีวิต

จากเหตุตำรวจสายสืบ บช.ภ.4 บุกจับพ่อค้ายาบ้ารายสำคัญบนแพปลา บริเวณลำน้ำปาวตอนเหนือ จ.กาฬสินธุ์ เป็นเหตุให้ ส.ต.อ.ศรัญ ถูกยิงเสียชีวิต และอีกนายได้รับบาดเจ็บเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตลอดทั้งวันเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยจากหลายมูลนิธิฯ งมค้นหาร่างของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ถูกยิงตกลงไปในแม่น้ำปาว ในบริเวณเขื่อนลำปาว เขต ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ท่าคันโท โดยการค้นหาค่อนข้างยากลำบาก เพราะบริเวณดังกล่าวมีน้ำลึกและใต้น้ำมีต้นไม้-ซากวัชพืชจำนวนมาก ขณะชุดสืบสวนได้ออกตระเวนตามลำน้ำปาวเพื่อแกะรอยคนร้ายที่หลบหนี และขอความร่วมมือในการแจ้งเบาะแส เพราะเชื่อว่าคนร้ายยังคงอยู่ในลำน้ำปาว การค้นหานานกว่า 20 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ จึงพบศพ ส.ต.ท.ศรัญ ประมาณ 12.00 น. หลังศพลอยขึ้นผิวน้ำ ห่างจากแพจุดเกิดเหตุ 50 เมตร กระสุนเจาะกะโหลก บริเวณกกหู และท้ายทอย ซึ่งเมื่อ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย พ่อของผู้ตายเห็นศพลูกชาย ก็มีสีหน้านิ่งขรึมน้ำตาคลอเบ้า ทั้งนี้ ภายหลังจากพบศพเจ้าหน้าที่จึงลำเลียงไปที่โรงพยาบาลท่าคันโท โดยมี พ.ต.อ.เกษม มุทาพร และนางพัชรี มุทาพร พร้อมตำรวจชุดสืบสวน บช.ภ.4 เดินทางมามาดูศพด้วยความหดหู่ใจ ญาติหลายคนหลั่งน้ำตา แต่พ่อและแม่อยู่ในความสงบดูลูกด้วยความสงสาร

นางพัชรี มุทาพร มารดาผู้ตาย กล่าวว่า รู้สึกเสียใจมากที่สุดเพราะมีลูก 2 คน ชายกับหญิง โดย ส.ต.ท.ศรัญ เป็นบุตรคนโต ซึ่งบุตรชายเลือกเป็นตำรวจเหมือนกับพ่อ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ก็เสียใจ แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ยอมรับว่าเสียใจมาก

สำหรับกำหนดการบำเพ็ญกุศล ขณะนี้ศพของ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร ได้เคลื่อนออกจากโรงพยาบาลท่าคันโท โดยจะไปผ่าพิสูจน์ศพยังสถาบันนิติเวชขอนแก่น และในวันพรุ่งนี้จะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย

ปูนบำเหน็จ ส.ต.ท. เหยื่อยิง “น้อย เหล็กเพชร”

สำนักงานตำรวจแห่งชาติปูนบำเหน็จ เลื่อน 5 ขั้น 4 ชั้นยศให้ ส.ต.ท.ศรัญ เป็น ร.ต.ต.ศรัญ ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้น ส.ต.ท.ศรัญ ญาติจะได้รับเงินจากสิทธิประโยชน์ จากเงินกองทุนสวัสดิการตำรวจ เงินณาปณกิจสงเคราะห์ เงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ เงินช่วยเหลือพิเศษ 3 เดือน เงินบำเหน็จตกทอด เงินบำนาญพิเศษ พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา – ค่าตอบแทน เงินรางวัลยาเสพติด เงินกองทุน ป.ป.ส. เงินมูลนิธิ ป.ป.ส. รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,587,270 บาท และทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 4 ก็จะจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพให้อย่างสมเกียรติ ที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย และขอให้ตำรวจทุกนายถือเป็นแบบอย่างในการเสียสละ ได้สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของประชาชนโดยแท้

“สำหรับ ด.ต.ปราโมทย์ ทิพย์มงคล ผบ.หมู่กก.สส.2 บก.สส.ภาค 4 ซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนด้านซ้าย จะได้รับเงินตามสิทธิประโยชน์ จากเงินกองทุนสวัสดิการ เงินตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ เงินสมาคมแม่บ้านตำรวจ เงินรางวัลยาเสพติด เงินกองทุน ป.ป.ส. เงินมูลนิธิ ป.ป.ส.และเงิน พ.ป.ผ.ไม่เกิน 2 ขั้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 260,000บาท” ผบช.ภ.4 กล่าว

ส่วนประวัติ ส.ต.ท.ศรัญ มุทาพร อายุ 26 ปี อดีตเป็นนักว่ายน้ำของโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเมื่อจบการศึกษาได้สอบเข้าตำรวจและได้เข้ารับราชการตำรวจในปี 2556 และรับราชการอยู่ที่ สภ.บ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่ ผบ.หมู่งานสืบสวนฯ ระหว่างนั้น พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.หนองคาย บิดา เดิมเป็น ผกก.สืบสวน กองกำกับการ 2 ตำรวจภูธรภาค 4 จึงได้ขอตัวลูกชายมาช่วยราชการ ก่อนที่ตนเองจะย้ายไป ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ผกก.เรนูนคร จังหวัดนครพนม และได้ทำคดีครูจอมทรัพย์ และได้รับเลือกมาดำรงตำแหน่งเป็น ผกก.สภ.เมืองหนองคาย จังหวัดหนองคายในปัจจุบัน ทั้งนี้ ส.ต.ท.ศรัญ ผู้ตาย เป็นคนมีอุปนิสัยใจคอดี และมีความสนิทสนมกับพ่อ เนื่องจากอายุยังน้อย พ่อจึงฝากให้รุ่นพี่ในกองสืบฯ ดูแล และถือว่าเป็นตำรวจที่มีอนาคตไกลและเตรียมที่จะสอบตำรวจชั้นสัญญาบัตรในอนาคต แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

ก.อุตฯ เตรียมส่งตรวจเหล็กตึก สตง. เพิ่ม 21 เม.ย.

ก.อุตสาหกรรม กางผลตรวจเหล็กตึก สตง.ถล่ม รอบแรก ก่อนส่งตรวจเพิ่มอีก 40 ท่อน 21 เม.ย. ย้ำผิดคือผิด! ผู้ผลิต-จนท.มีเอี่ยว เตรียมปิดเทอม

พายุฝนพัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี ทับโรงครัววัดพังราบ

พายุฝนลมกระโชกแรง ซัดต้นยางอายุร่วม 100 ปี วัดนางเหลียว ล้มทับโรงครัวพังเสียหาย ชาวบ้านในงานศพตื่นตระหนก วิ่งหนีกระเจิง

ลุยรื้อถอนต่อเนื่องเข้าวันที่ 24 จนท.ทำงานหนักตลอด 24 ชม.

เดินหน้ารื้อถอนอาคาร สตง.ถล่ม เข้าสู่วันที่ 24 เจ้าหน้าที่ทำงานตลอด 24 ชม. เพื่อให้เสร็จตามแผน ขณะที่ภารกิจค้นหาผู้ติดค้างยังคงดำเนินต่อเนื่อง