กรุงเทพฯ 10 พ.ค. – พีทีทีจีซีเดินหน้าส่งเสริมแปรรูปขยะ หวังคนไทยตระหนักแยกขยะเพื่อลดมลพิษ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยว่า โครงการการศึกษาตั้งโรงงานรีไซเคิลพลาสติกรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์พลาสติกให้นำกลับมาใช้ใหม่ คาดว่าจะมีความมีชัดเจนในปลายปีนี้ ซึ่งอาจจะมีมูลค่าโครงการ 1,000-1,500 ล้านบาท และขณะนี้ร่วมกับหลายหน่วยงานและดีไซน์เนอร์ออกแบบการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ ด้วยการออกแบบสินค้าเพิ่มมูลค่า และหวังส่งเสริมให้ชุมชนร่วมกันเป็นโครงการธุรกิจในการคัดแยกขยะและส่งเสริมผู้ประกอบการแปรรูปร่วมกัน
“พีทีทีจีซีตั้งหวังว่าทำโครงการขยะจะร่วมสร้างจิตสำนึกในการคัดแยกขยะแล้วนำไปแปรรูปทำให้ขยะลดลง ส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัด” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
นางสาวดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงินและบัญชีพีทีทีจีซี เปิดเผยว่า บริษัทปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายปีนี้เป็น 500,000 ล้านบาท จากเดิม 480,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าปีที่แล้วที่ทำได้ 437,000 ล้านบาท เป็นผลจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นทำให้ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบในปีนี้เป็น 65-70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากเดิมที่ 52 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการควบคุมกำลังการผลิตร่วมกันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และนอกกลุ่มโอเปก รวมถึงการคาดการณ์ถึงการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรของประเทศสหรัฐอเมริกาต่อประเทศอิหร่าน
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 มีแนวโน้มอยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/2561 ที่มีกำไรสุทธิ 12,400 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทเดินเครื่องกำลังผลิตเต็มที่เท่ากับไตรมาสแรก ขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์ HDPE ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ยืนอยู่ในระดับสูงกว่า 1,300 เหรียญสหรัฐ/ตัน ด้านส่วนต่าง (สเปรด) HDPE ,ผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ ตลอดจนค่าการกลั่น (GRM) ยังทรงตัวจากไตรมาส 1/2561
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น คือ ราคาน้ำมันดิบที่ยืนอยู่ในระดับสูงประมาณ 70 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในขณะนี้จากเฉลี่ย 63.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในไตรมาสแรก ทำให้คาดว่าอาจจะมีกำไรจากสตอกน้ำมันในไตรมาสนี้ รวมถึงทิศทางค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าจากระดับ 31.4 บาท/เหรียญสหรัฐ ในไตรมาสแรกก็จะส่งผลบวกต่อบริษัทด้วย เนื่องจากบริษัทมีกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ มากกว่าภาระหนี้สินที่เป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินบาทที่เปลี่ยนแปลงทุก 1 บาท/เหรียญสหรัฐจะกระทบต่อกำไรของบริษัทประมาณ 500-1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ พีทีทีจีซีประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2561 กำไรสุทธิ 12,388 ล้านบาท โดยมีรายได้ 120,939 ล้านบาท เดินหน้าแผนการลงทุนครบวงจรในพื้นที่ EEC พร้อมบุกตลาด CLMV ร่วมกับกลุ่มลูกค้าเม็ดพลาสติก รวมทั้งร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์พลาสติกและเคมีภัณฑ์ล้ำสมัย ตอบโจทย์ผู้บริโภค ยุคใหม่ ด้วยการดำเนินงาน ศูนย์ Customer Solution Center (CSC) ที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้. – สำนักข่าวไทย