พม.10 พ.ค.-รมว.พัฒนาสังคมฯ เผยแจ้งข้อกล่าวหาอดีตปลัดและรองปลัด พม.พร้อมพวกรวม 11 คนแล้ว มีใครบ้างต้องรอรายงานจากคณะกรรมการฯ
พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เปิดเผยความคืบหน้าสอบทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและคนไร้ที่พึ่ง ว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง ซึ่งมีนายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษาเป็นประธาน ยังไม่ได้แจ้งรายชื่อข้าราชการว่ามีใครบ้างที่ถูกสอบทางวินัยและพบผิดวินัยร้ายแรง นอกเหนือจากอดีตปลัดและรองปลัด พม. แจ้งแต่เพียงจำนวนผู้เกี่ยวข้องที่มีการแจ้งข้อหาคือ 11 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมอดีตปลัด และรองปลัดด้วย และกันไว้เป็นพยาน 15 คนซึ่งในส่วนพยานอาจลงโทษสถานเบากว่า11 คนที่แจ้งข้อหา เพราะถือว่าได้ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์กับราชการ ซึ่งคาดว่าผู้ถูกแจ้งข้อหาทั้ง 11 คน น่าจะได้รับแจ้งข้อกล่าวหาจากคณะกรรมการทั้งหมดแล้ว
พล.อ.อนันตพร กล่าวต่อว่าส่วนรายชื่อที่ป.ป.ท.ตรวจพบและส่งมาให้ พม.ยังไม่ถือว่าผิดร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังเป็นเพียงกลุ่มเสี่ยงที่เข้าข่ายทุจริตเท่านั้น พม.จะต้องมาแยกแยะและตั้งคณะกรรมการสอบสวน โดยในทางปฏิบัติค่อนข้างสิ้นเปลืองทรัพยากรเพราะต่างคนต่างตั้งคณะกรรมการ ฯ จริงๆหากเป็นไปได้อยากให้ทาง ป.ป.ท.ตั้งคณะกรรมการและสอบสวนไปเลยน่าจะดีกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีรายชื่อข้าราชการและบุคลากรพม. เกี่ยวข้องกับทุจริต 200 กว่าคน จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของกระทรวงหรือไม่ พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า ที่ผ่านมาพม.เป็นหน่วยงานตั้งใหม่บางหน่วยงานยังไม่สมบูรณ์ อาทิ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งที่มีทั้งหมด 76 แห่งทั่วประเทศไม่รวมกรุงเทพฯ มีศูนย์ฯที่ตั้งตามโครงสร้างถูกต้องเพียง 37 ศูนย์ และอีก 40 ศูนย์เป็นศูนย์ภายใน ตั้งเพื่อให้กระจายกันในทุกจังหวัด ให้ประชาชนที่เดือดร้อนสามารถมาแจ้งเรื่อง ซึ่งจะทำหน้าที่เพียงสอบประวัติ ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจขออนุมัติงบประมาณเอง หากหน่วยงานเหล่านี้ตั้งได้ถูกต้อง ความรับผิดชอบจะมากขึ้น แต่ทั้งนี้เราก็ไม่ได้โทษใคร แต่ต้องแก้ไขกันต่อไป
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้า พม.จะเชิญผู้ที่กำกับ สำนักงาน กพ.ร.มาหารือเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างและอัตรากำลังข้าราชการ พม.ที่มีน้อย ทำให้ต้องจ้างลูกจ้างรายวัน รายเดือน รายปี ซึ่งคนเหล่านี้ทำงานกับเราไม่นาน เมื่อได้งานใหม่ก็ไปทำให้เป็นจุดอ่อน จึงต้องพัฒนาให้หน่วยงานเราดีขึ้น อย่างที่ตนกำลังทำยุทธศาสตร์ พม.เพื่อปิดจุดอ่อน ซึ่งถือเป็นแนวทางหนึ่งในการป้องกันการทุจริต และทำให้คนที่ทำงานสามารถยับยั้งช่างใจ มีดุลยพินิจดีขึ้น
ส่วนกรณี ป.ป.ท.พบการทุจริตผ้าห่มกันหนาวแจกผู้สูงอายุที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.สิงห์บุรี พล.อ.อนันตพร กล่าวว่าขณะนี้เป็นการตั้งข้อสงสัยว่าผ้าห่มที่ซื้อมาถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ เพราะราคาสูงกว่าที่เคยจัดหา ซึ่งเป็นขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง ตนยังไม่ได้กล่าวหาใครทุจริต เนื่องจากหากซื้อในจำนวนน้อย และมีการประกวดราคาถูกต้องก็เป็นไปตามขั้นตอน แต่ต้องดูว่าคุณสมบัติของผ้าห่มที่ซื้อมาดีหรือไม่ ตรงตามสเปกที่กำหนดหรือไม่ ทั้งนี้ พม.ไม่ได้นิ่งเฉย กำลังดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงควบคู่กับทาง ป.ป.ท.หากผิดก็จะลงโทษ หากไม่ผิดก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตามอย่าเอามาตรฐานการจัดซื้อก่อนหน้ามาเปรียบเทียบกับการจัดซื้อเดียวกัน เพราะจำนวนจัดซื้ออาจไม่เท่ากัน และอย่าเพิ่งเอากระแสสังคมมาลงโทษเลย รอให้สอบสวนตามขั้นตอนก่อน .-สำนักข่าวไทย