เร่งรัดนำเข้าแอลเอ็นจีเสรี ผลร้ายค่าไฟฟ้าอาจแพงขึ้น

กรุงเทพฯ 3 พ.ค. – ผู้ว่าฯ กฟผ.คนใหม่ฟิตทำงานวันแรกหารือชะลอนำเข้าแอลเอ็นจี หลังพบสำรองสูง ค่าไฟฟ้าแพง ด้าน รมว.พลังงานชี้ต้องมีเหตุผล 

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ.ยังไม่ได้เสนอชะลอการนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีตามแผนงานการเปิดให้บุคคลที่ 3 นำเข้า หรือทีพีเอ ล็อตแรกของประเทศ โดยใช้คลังและท่อของ บมจ.ปตท. ซึ่งตามแผนจะต้องเริ่มนำเข้าปลายปีนี้ โดยที่ผ่านมา กฟผ.เสนอนำเข้าเอง ดังนั้น หากจะชะลอต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ.คนใหม่ เริ่มทำงานวานนี้ (2 เม.ย.) ได้เรียกประชุมเรื่องการนำเข้าแอลเอ็นจี โดยประเด็นปัญหา คือ การนำเข้าล็อตแรกราคาสูงกว่าอ่าวไทย ขณะที่กฏเกณฑ์การเดินเครื่องโรงไฟฟ้าของไทยต้องเดินเครื่องจากต้นทุนต่ำสุดและเดินเครื่องจากส่วนที่มีสัญญารับซื้อก่อน ขณะที่สำรองไฟฟ้าของประเทศสูงมากร้อยละ 30 ดังนั้น หากนำเข้าแอลเอ็นจี ก็อาจจะไม่ได้ใช้ ดังนั้น กฟผ.อาจเสนอชะลอการนำเข้าไปก่อน หรือแก้ไขกฏระเบียบการสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าเพื่อทดสอบระบบการนำเข้าภายใต้ TPA สัญญาแรก โดยต้นทุนอาจจะบวกอยู่ในค่าไฟฟ้าของภาคประชาชน นอกจากนี้ ผลกระทบต่อ ปตท.ที่อาจจะเกิดขึ้นหากไม่ชะลอการนำเข้า คือ สำรองไฟฟ้าของประเทศที่สูงเกินคาดที่กว่าร้อยละ 30  หากมีการใช้แอลเอ็นจีส่วนนี้ ก็ต้องไปลดการใช้ก๊าซจากระบบ Pool (ก๊าซอ่าวไทย, เมียนมา, สัญญาแอลเอ็นจีระยะยาว) ซึ่งมีสัญญาอยู่แล้ว ปัญหาการเรียกร้องให้จ่ายเงินตามสัญญา Take or Pay ก็จะเกิดขึ้นตามมา

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) กล่าวว่า กกพ . กฟผ. และสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้หารือประเด็นดังกล่าวและยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งกรณีแอลเอ็นจี ของ กฟผ.ต้องนำเข้ามาก็จะเป็นราคาที่ไม่เกี่ยวกับราคาเฉลี่ยของระบบ Pool ในปัจจุบัน ดังนั้น หากสั่งเดินเครื่องตามหลัก Merit Order ที่ต้องสั่งการเดินเครื่องต้นทุนต่ำสุดและให้สิทธิ์โรงที่มีสัญญาผูกพันการซื้อก๊าซตามหลัก Must take, Must Run ก่อน นั่นก็หมายถึงโรงไฟฟ้าของ กฟผ.ที่ใช้แอลเอ็นจีก็มีโอกาสจะเดินเครื่องน้อยมาก หรือไม่ได้เดิน ซึ่งแนวทางนี้อาจจะแก้ไขให้พิจารณาจากประสิทธิภาพ หรือ Heat Rate ซึ่งอาจทำให้โรงไฟฟ้าของ กฟผ.มีโอกาสได้เดินบ้าง

ทั้งนี้ มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติหรือ กพช.ให้ กฟผ.นำเข้าแอลเอ็นจี ลำแรกภายในเดือนธันวาคม 2561 แต่จากช่วงหน้าหนาวราคาก๊าซฯ สูง กฟผ.จึงร่นเวลาให้เร็วขึ้นจะนำเข้าลำแรก 70,000 ตันในเดือนกันยายน และขณะนี้กำลังเปิดให้ผู้จำหน่ายก๊าซฯ เสนอเงื่อนไขซึ่งมี 10 รายและผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นเพื่อเข้าแข่งขันราคาแล้ว 8 ราย. – สำนักข่าวไทย