ร้อง ยธ.ช่วยติดตาม เพชรทองของกลางคดีคืน

แจ้งวัฒนะ 25เม.ย.-อดีตเจ้าของธุรกิจค้าเพชรทองคำ ร้อง ยธ.ช่วยติดตามเพชรทองของกลางมูลค่า 11ล้านบาทคืน และขอให้รับเป็นคดีพิเศษ  หลังพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีแล้วและให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนำของกลางคืน แต่ยังไม่ได้ 


น.ส.จีระพันธ์ จุลพันธ์ อดีตเจ้าของธุรกิจค้าขายเพชรทองคำเขตภาษีเจริญเข้ายื่นเรื่องร้องทุกข์ที่ศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรม ขอความช่วยเหลือในการประสานงานขอเพชรและทองรูปพรรณของกลาง 7 รายการ มูลค่า 11 ล้านบาทคืน จาก ร.ต.ท.สมโชค ปานพิมพ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ยึดและอายัดไว้ จากกรณีถูกคู่กรณีคือนางผาติรัตน์ ใจเย็น แจ้งความดำเนินคดีฐานยักยอกทรัพย์เมื่อปี 2556 กระทั่งเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา คดีนี้พนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องผู้ร้องตนในข้อหายักยอกทรัพย์และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจคนดังกล่าวถอนอายัดและคืนของกลางให้ แต่เมื่อตนทวงถามกลับไม่ได้คืน 


น.ส.จีระพันธ์ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ไปส่งหนังสือร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและที่กองปราบปรามมาแล้วครั้งหนึ่งแต่ยังไม่ได้รับทรัพย์สินคืน อีกทั้งยังพบว่าคู่กรณีได้นำเครื่องเพชร 1 ชิ้นไปจำนำและ 1 ชิ้นหลุดจำนำแล้วและหากยังไม่ได้รับทรัพย์สินคืน อาจพิจารณาฟ้องร้องเพิ่ม ที่ผ่านมาได้แจ้งความดำเนินคดี  กับ ร.ต.ท.สมโชคในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและฟ้องนางผาติรัตน์ ในข้อหาแจ้งความเท็จ กระทั่งศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำคุกทั้งคู่คนละ 1 ปี ไม่รอลงอาญา ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา 


สำหรับการเดินทางมายื่นเรื่องต่อศูนย์บริการร่วมกระทรวงยุติธรรมเพื่อขอ ให้ตรวจสอบและดำเนินการตามคำสั่งพนักงานอัยการ  พร้อมขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากตน และครอบครัวได้รับผลกระทบไม่สามารถดำเนินธุรกิจในวงการเพชรและทองได้ ปัจจุบันต้องมาขายน้ำเก๊กฮวยขวด เลี้ยงชีพที่ BTS บางหว้า ได้รายได้วันละ 300-400 บาท

ด้านนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้รับเรื่อง กล่าวว่าจะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์สอบข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม จากผู้เนื่องจากคดีนี้มีข้าราชการเข้ามาเกี่ยวข้อง สำนวนคดีอาจต้องมีการทำเรื่องส่งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง เพื่อเรียกผู้ที่มีชื่อเกี่ยวข้องมาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม 

ส่วนการขอให้ช่วยตรวจสอบและรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษอาจต้องดูรายละเอียดของคดีอีกครั้งว่าเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ คาดว่าใช้เวลาดำเนินการพิจารณาประมาณ 37 วัน .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.