กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงไม่นิ่งนอนใจกรณีผู้ต้องขังเสียชีวิตเรือนจำกลางสมุทรปราการ

สำนักข่าวไทย 21 เม.ย. – กรมราชทัณฑ์ ชี้แจงไม่นิ่งนอนใจกรณีผู้ต้องขังเสียชีวิตที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ สั่งย้าย ผบ.เรือนจำฯ  และตั้งกรรมการสอบ  พร้อมดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตเต็มที่


หลังจากวานนี้(20 เม.ย.)สื่อมวลชน ได้นำเสนอข่าวการเสียชีวิตของ น.ช.พัฒนชิรพงฐ์   บูญญะเสมา อายุ 34 ปี ต้องโทษในความผิดฐาน พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ กำหนดโทษ 3 ปี 9 เดือน  เหลือโทษจำต่อ 1 ปี 8 เดือน ซึ่งเป็นโทษครั้งที่ 2 ควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำกลางสมุทรปราการ  โดยสาเหตุ การเสียชีวิต แพทย์ได้ดำเนินการชันสูตรศพพบ ว่า เสียชีวิตจากอาหารติดหลอดลม แต่เนื่องจากมีบาดแผลตามร่างกาย จึงทำให้ญาติของผู้เสียชีวิตเกิดความไม่เข้าใจ และได้ลงข้อความในเพจเฟชบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ เรียกร้องความยุติธรรมว่า การเสียชีวิตของ น.ช.พัฒนชิรพงฐ์ อาจมีสาเหตุมาจากการลงโทษของ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 


พันตำรวจเอก ณรัชต์  เศวษตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์  ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าว  ว่า  สืบเนื่องจากทางเรือนจำฯ ได้สืบทราบว่าผู้ต้องขังที่เสียชีวิตรายนี้ เข้าไปเกี่ยวข้องกับ การรับยาเสพติดเข้ามาภายในเรือนจำ จึงได้เรียกตัวมาทำการสอบสวน จากนั้น ได้มีการลงโทษทางวินัย แต่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าทางเรือนจำฯ มีการกระทำที่เกินกว่าเหตุจนทำให้ผู้ต้องขังรายนี้เสียชีวิตหรือไม่ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว 


เบื้องต้นได้ออกคำสั่งย้าย นายกฤษณ์  วงษ์เวช  ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ ให้มารักษาการในตำแหน่งผู้ตรวจราชการกรม  สังกัดสำนักผู้ตรวจราชการกรม และให้นายวิชัย โชติปฎิเวชกุล ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครสวรรค์   ไปรักษาการในตำแหน่งผู้บัญชาการเรือนจำกลางสมุทรปราการ   และเรื่องนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้ประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจน ที่จะยกเลิกการลงโทษที่โหดร้ายทารุณ รวมทั้งได้เน้นย้ำกำชับให้ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ทุกระดับ กำกับดูแลและเลิกการกระทำดังกล่าวโดยเด็ดขาด

อธิบดีกรมราชทัณฑ์  ยืนยันว่า กรมราชทัณฑ์ มิได้นิ่งนอนใจ และเมื่อคืนที่ผ่านมา(20 เม.ย.)ตนเองได้เดินทางไปร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพ เพื่อแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต  และพร้อมจะเยียวยาให้กับผู้เสียหายอย่างเต็มที่  ทั้งนี้หากการตรวจสอบพบว่าผู้เกี่ยวข้องมีความผิดจริงก็จะดำเนินการตามวินัย และทางคดีอาญาโดยไม่มีข้อยกเว้น.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ