ก.แรงงาน ติวสร้างอาชีพให้ทหารเกณฑ์ก่อนปลดประจำการ

ก.แรงงาน 13 เม.ย.-กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ติวทหารเกณฑ์ สร้างทักษะวิชาชีพช่าง เพื่อหลังปลดประจำการ มีงานทำ มีรายได้ดูแลตนเองและครอบครัว


นายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงานเปิดเผยว่า จากที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน มีนโยบายเร่งด่วน (Agenda Based) ในการพัฒนาทักษะฝีมือ ส่งเสริมการมีงานทำของคนทุกเพศทุกวัย กพร.ในฐานะหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ จึงเร่งจัดจัดฝึกอบรมให้กลุ่มต่างๆ และทหารเกณฑ์เป็น 1ในกลุ่มเป้าหมายสำคัญ เนื่องจากเป็นที่ต้องการของนายจ้างและสถานประกอบกิจการจำนวนมาก  เพราะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีระเบียบ วินัยดี ใฝ่เรียนรู้และยิ่งได้รับการพัฒนา ยิ่งมีมาตรฐานสูงในการทำงานอีกด้วย ซึ่งเป็นการดำเนินการภายใต้บันทึกข้อตกลง (MOA) ระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงแรงงาน ว่าด้วยการส่งเสริมการมีงานทำให้กับทหารกองประจำการ


อธิบดีกพร. กล่าวต่อว่า มอบหมายให้สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สนพ.)ทั่วประเทศ ใช้แนวทางประชารัฐประสานความร่วมมือกับหน่วยงานกองทัพในพื้นที่จัดฝึกอาชีพตามความต้องการของทหารก่อนปลดประจำการ เช่น ช่างปูนปั้นไม้เทียม ช่างเดินสายไฟฟ้าภายในอาคาร ช่างเชื่อมไฟฟ้าด้วยมือ ช่างซ่อมเครื่องยนต์เล็กเพื่อเกษตร ช่างการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก บริการอาหารและเครื่องดื่ม และการประกอบอาหารไทย เป็นต้น ระยะเวลาฝึกอบรม มีตั้งแต่ 18 -30 ชั่วโมง อบรมรุ่นละ 20 คน เน้นทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประกอบอาชีพได้ ฝึกอบรมไปแล้ว 2,905 คน จากที่ตั้งเป้าเหมายไว้ 3,000 คน คาดว่าจะฝึกอบรมได้เกินเป้าหมายไว้อย่างแน่นอน 


อธิบดี กพร.กล่าวอีกว่า ล่าสุด สนพ.นครพนม ใช้แนวทางประชารัฐร่วมกับ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่3 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตำบลกุรุคุ อำเภอเมืองนครพนม เปิดฝึกอาชีพให้ทหารเกณฑ์เพื่อจะได้นำความรู้ที่ ได้รับจากการฝึกไปพัฒนาตนเองประกอบอาชีพหลังปลดประจำการ จำนวน 2 หลักสูตร ได้แก่ สาขาช่างซ่อมเครื่องยนต์เล็กเพื่อการเกษตรและสาขาช่างเชื่อมไฟฟ้าด้วยมือ (ระยะเวลาฝึกอบรม 30ชั่วโมง)มีทหารเกณฑ์ให้ความสนใจเข้ารับการฝึกอบรม รวมจำนวน 68คน พิสูจน์ให้เห็นว่าหากมีโอกาสได้รับใช้ชาติ ก็จะเป็นเพิ่มโอกาสในการพัฒนาตนเองในทุกด้าน รวมถึงทักษะอาชีพ ซึ่งจะเป็นวิชาติดตัว สามารถสร้างรายเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวหลังปลดประจำการ 

“นอกจากกลุ่มทหารก่อนปลดประจำการ ยังฝึกอาชีพให้กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ กลุ่มผู้ประสบภัยธรรมชาติ ผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติด ผู้ต้องขัง/เยาวชนสถานพินิจ ทหารบาดเจ็บและทุพพลภาพ ชนกลุ่มน้อย คนพิการ/ผู้ดูแลคนพิการ แรงงานนอกระบบ และแรงงานตามโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ดำเนินการภายใต้นโยบายของรัฐบาลและกระทรวงแรงงานในการสร้างโอกาส สร้างทักษะ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนในชาติ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศต่อไป” อธิบดีกพร. กล่าว .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง