กรมชลฯ เตือน ปชช.ริมฝั่งเตรียมพร้อมรับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง


1 ต.ค. – กรมชลประทาน แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ใกล้คลองชัยนาท-ป่าสัก เตรียมพร้อมรับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง จากน้ำเหนือและฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เร่งเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าช่วยชาวนาที่ข้าวกำลังตั้งท้องออกรวง


ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองชัยนาท-ป่าสัก ลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ในพื้นที่ ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี ในหมู่ที่ 3-4-6 ที่ฤดูน้ำหลากน้ำจะท่วมเป็นปริมาณมากกว่าพื้นที่อื่นใน จ.ลพบุรี ชาวบ้านได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ เกษตรกรนำตาข่ายมาปิดล้อมบ่อเลี้ยงปลา จากน้ำที่หลากเข้าท่วมเป็นบางพื้นที่แล้ว และน้ำที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้นในคลองชัยนาท-ป่าสัก ทางเทศบาลตำบลป่าตาล ได้วางแนวกระสอบทรายพร้อมนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง เพื่อป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ เช่นเดียวกับกรมชลประทานที่ได้สั่งเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ที่ชุมชนถนนขวาง ต.ป่าตาลใน หมู่ที่ 7 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่ข้าวกำลังตั้งท้องออกรวงหลายร้อยไร่ ให้ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต และสร้างความเชื่อมั่นถึงการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ให้พี่น้องประชาชนได้อุ่นใจ

1-10-2559 12-37-43 1-10-2559 12-37-30


นอกจากนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ยานพาหนะ และเจ้าหน้าที่ พร้อมเผชิญเหตุจากสถานการณ์น้ำเอ่อล้นและน้ำท่วมฉับพลันในเขตพื้นที่ และมีประชาชนร้องขอให้เปิดประตูระบายน้ำ 5 ประตู

ส่วนสถานการณ์น้ำที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักมีระดับสูงขึ้น โดยแม่น้ำเจ้าพระยา ระบายอยู่ที่ 1991 ลบ.ม./วินาที ทำให้น้ำสูงขึ้นประมาณ 10 ซม. และเขื่อนพระรามหก ระบายน้ำที่ 497.12 ลบ.ม./วินาที น้ำในแม่น้ำป่าสักสูงขึ้น 10 ซม. ยังคงล้นตลิ่งท่วมพื้นที่สองฝั่งใน อ.นครหลวง อ.พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะที่ ต.วัดตะกู อ.บางบาล ยังเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุด โดยที่หมู่ 9 ต.ตะกู ระดับน้ำสูงขึ้นจนเกือบถึงพื้นบ้านของประชาชน แม้ยกพื้นสูงแล้ว โดยความลึกอยู่ที่ 2-3 เมตร ประชาชนส่วนใหญ่ขาดการติดต่อกับโลกภายนอก ต้องใช้เรือในการสัญจรไปมาออกไปยังถนนหลัก เนื่องจากถนนในหมู่บ้านน้ำท่วม และยังพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนหลายหลังที่มีผู้สูงอายุและคนพิการที่ต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล แต่ประสบปัญหาไม่มีเรือ

2 1-10-2559 12-42-37


ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ประชาชนต้องเดินลุยน้ำลากเรือรับประชาชนไปทำบุญที่วัด เนื่องจากเป็นวันทำบุญสารทไทย ด้านนายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายอำเภอผักไห่ มีหนังสือแจ้งถึงผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 หลังจากที่มีการประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ในการสำรวจพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวพื้นที่ประตูระบายน้ำเสร็จแล้ว ขอให้ชลประทานเปิดประตูระบายน้ำ 5 ประตู ได้แก่ ประตูระบายน้ำลาดชะโด ประตูระบายน้ำบางแก้ว ประตูระบายน้ำมะขามเทศ ประตูระบายน้ำลาดชิด ประตูระบายน้ำวัดใบบัว และท่อระบายน้ำหนองตะเกียง และบ้านหนองควาย เพื่อบรรเทาปริมาณไปยังพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทางชลประทานได้รับทราบและอยู่ระหว่างดำเนินการเสริมคันดิน

ความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หมู่ 3 ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ที่ถูกน้ำกัดเซาะดินใต้ถนนพังทลายเป็นช่วงๆ ลึกเข้าไปกว่า 1 เมตร เป็นระยะทาง 300 เมตร ซึ่งเสี่ยงถนนทรุดตัวและพังลงแม่น้ำ โดยเทศบาลตำบลสรรพยา ต้องนำดินเข้าไปถมตลิ่งริมถนนเพิ่มอีกกว่า 250 คันรถ หลังจากที่ 3 วันก่อนได้นำไปถมแล้วกว่า 100 คันรถ แต่เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้นเป็น 1,998 ลบ.ม./วินาที ทำให้ดิน 100 คันรถ ที่เคยนำไปถมไว้ละลายไปกับน้ำ จึงต้องนำดินไปถมเพิ่มอีก แต่คราวนี้จะใช้รถแบ็กโฮอัดดินเข้าไปใต้ถนนทำเป็นสโลป และใช้พลาสติกคลุมดินตลอดแนวถนน ป้องกันดินถูกน้ำเซาะพังทลายอีก

1-10-2559 12-44-08 1-10-2559 12-43-52

ส่วนที่ กทม.ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังจุดเสี่ยง 2 เขต วางกระสอบทรายสร้างคันกั้นน้ำ หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปี 54

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ลงเรือตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจุดเสี่ยงวิกฤติน้ำท่วมปี 2554 โดยกล่าวภายหลังว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,600 ลบ.ม./วินาที ซึ่งศักยภาพในการรองรับน้ำอยู่ที่ 2,400 ลบ.ม./วินาที แต่หากมีฝนตกลงมาเพิ่ม อาจทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำเสี่ยงได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เคยประสบอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ช่วงบริเวณซอยเขียวไข่กา เขตดุสิต, ซอยจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด โดยสำนักการระบายน้ำได้นำกระสอบทรายจัดเรียงเป็นแนวคันกั้นน้ำชั่วคราว ความสูงกว่า 2 เมตร รวมถึงจุดที่เป็นฟันหลอได้วางกระสอบทรายตลอดแนวยาว 4 กิโลเมตร ซึ่งมีท่าเรืออยู่จำนวน 100 ท่า พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่เต็มกำลัง เฝ้าระวังน้ำเหนือ น้ำหนุนอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะพ้นช่วงฤดูฝน

ด้านนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทั่วประเทศ เพื่อทำความเข้าใจถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้

1-10-2559 12-45-21  1-10-2559 12-46-35

น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นภัยธรรมชาติ เพราะมวลน้ำจากภาคเหนือและน้ำฝนที่ตกตามฤดูกาลไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รัฐบาลจึงจำเป็นต้องระบายน้ำเข้าไปในบางพื้นที่ ส่วนพื้นที่ที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่มีการระบายน้ำเข้าไปนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่การเกษตรที่รอการเก็บเกี่ยวในช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งหลังเก็บเกี่ยวเสร็จสิ้น รัฐบาลจะระบายน้ำเข้าพื้นที่ เพื่อเก็บไว้ใช้ในฤดูกาลต่อไป ดังนั้น ขอให้ประชาชนเข้าใจและรับฟัง ไม่ทำลายคันกั้นน้ำ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายและความเดือดร้อนกับประชาชนทั้งหมด สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ทั้งพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือน รัฐบาลจะเยียวยาให้ตามระเบียบ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำรวจตัวเลขความเสียหาย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพบกประณามกัมพูชา โจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตไทย

กทม. 24 ก.ค.-กองทัพบก ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากกรณีที่มีการใช้อาวุธจรวด BM-21 จำนวน 2 นัด ยิงเข้ามาในพื้นที่ชุมชนภายในศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อเวลา 09.40 น. วันนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราษฎรได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ซึ่งฝ่ายไทยได้ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยทันที เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังเฝ้าติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมมาตรการรองรับอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม จะได้รายงานให้ทราบต่อไปโดยเร็วที่สุด.-313.-สำนักข่าวไทย

น่าน จมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว

น่าน 24 ก.ค.-น้ำท่วมตัวเมืองน่านวิกฤติหนัก หลังน้ำยังเพิ่มสูงบางจุดท่วมมิดชั้น 2 แล้ว และขยายวงกว้างออกไปในรัศมีเกือบ 10 กม. รวมทั้ง รพ.น่าน ที่ต้องย้ายผู้ป่วยไปที่สนามบิน น้ำท่วมตัวเมืองน่านเรียกว่าสาหัสสากรรจ์จริงๆ ตอนนี้เมืองน่านจมมาบาดาลเกือบทั้งเมืองแล้ว จากที่ประเมินเท่ากับน้ำท่วมใหญ่ปี 49 ซึ่งเป็นน้ำท่วมใหญ่รอบร้อยปี แต่ตอนนี้น่าจะหนักเกินแล้ว น้ำท่วมถึงชุมชนสวนตาล ซึ่งอยู่ห่างจากริมน้ำน่าน 4 กิโลเมตร แม้จะเห็นว่าระดับไม่สูง แต่ด้านในสูงถึงคอแล้ว การเข้าออกต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว และน้ำยังเพิ่มขึ้น ชาวบ้านยังเร่งอพยพข้าวของออกมา เขตเศรษฐกิจเมืองน่านไม่ต้องพูดถึงจมน้ำสูงกว่า 1 เมตร วัดวาอารามหลายแห่งถูกน้ำท่วม และยิ่งชุมชนใกล้น้ำน่านบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วมสูง บางจุดน้ำท่วมถึงชั้น 2 ของบ้าน อย่างเจ้าของบ้านรายนี้ถ่ายภาพจากชั้น 2 ของบ้านย่านชุมชนบ้านพระเกิด ไม่ไกลจากโรงพยาบาลน่าน ส่งมาให้ทีมข่าว จะเห็นว่าน้ำท่วมสูงเกินรั้วบ้านและกำลังจะขึ้นชั้นสอง และมีชาวบ้านที่ติดอยู่ในบ้านกลางน้ำท่วมสูงอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่พยายามจะเข้าไปช่วยแต่เรือมีจำกัดและน้ำยังไหลเชี่ยว ทำให้บางจุดยังไม่สามารถเข้าไปได้ ชาวบ้านบางส่วนต้องเดินฝ่าน้ำท่วมสูงถึงคอออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารและน้ำดื่ม รวมทั้งโรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลบอกว่า ตอนนี้น้ำท่วมสูงมาก ตึกอาคารเก่าน้ำท่วมถึงหน้าอก แต่ผู้ป่วยในราว 3 ร้อยคนอยู่บนตึกใหม่ตั้งแต่ชั้น 2 ปลอดภัยดี […]

เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคาม

กทม. 24 ก.ค.-เปิดแผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ป้องกันประเทศจากภัยคุกคามฝ่ายตรงข้าม โฆษก ทบ. ชี้ชัดเจนแล้ว กัมพูชา เป็นฝ่ายที่บีบบังคับเรา ซัดเราคงไม่ปล่อยให้ใครเอาเปรียบ หรือลอบทำร้าย จากนี้จำเป็นต้องทำในสิ่งที่พยายามหลีกเลี่ยงมาตลอด ลั่นขณะนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้! ขอให้พี่น้องคนไทย เชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพไทย พลตรีวินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงแผนจักรพงษ์ภูวนารถ ที่เราเปิดปฏิบัติการ ว่าคือ แผนป้องกันประเทศ ที่กำหนดหน้าที่ของแต่ละหน่วย และกำลังทางทหาร และให้เตรียมความพร้อม เมื่อมีคำสั่ง เป็นแผนที่ได้ถูกกลั่นกรอง โดยประเมินจากสถานการณ์ และสภาพแวดล้อมในกิจการป้องกันประเทศ ในกรอบของกองทัพบก ที่ผ่านมา ในศึกเขาพระวิหาร ที่ใช้แผนนี้ ปัจจุบันขีดความสามารถกำลังรบเราเป็นอย่างไร โฆษก ทบ. ระบุพัฒนามาตามลำดับ และพิจารณาให้เหมาะสมกับภัยคุกคาม และขีดความสามารถของฝ่ายตรงข้าม ป้องกันภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ส่วนแผนหลักๆ เป็นการป้องกัน หรือรุกคืบ โฆษก ทบ. ระบุ อาจจะพูดไม่ได้ แต่โดยปกติ อันดับแรกต้องครอบคลุมอธิปไตยของเราก่อน ส่วนเป็นการซีลชายแดนหรือไม่ โฆษก ทบ. ระบุพูดง่ายๆ แผนนี้ […]

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย