กรมชลฯ เตือน ปชช.ริมฝั่งเตรียมพร้อมรับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง


1 ต.ค. – กรมชลประทาน แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ใกล้คลองชัยนาท-ป่าสัก เตรียมพร้อมรับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง จากน้ำเหนือและฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เร่งเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าช่วยชาวนาที่ข้าวกำลังตั้งท้องออกรวง


ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลองชัยนาท-ป่าสัก ลักษณะเป็นแอ่งกระทะ ในพื้นที่ ต.ป่าตาล อ.เมือง จ.ลพบุรี ในหมู่ที่ 3-4-6 ที่ฤดูน้ำหลากน้ำจะท่วมเป็นปริมาณมากกว่าพื้นที่อื่นใน จ.ลพบุรี ชาวบ้านได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ เกษตรกรนำตาข่ายมาปิดล้อมบ่อเลี้ยงปลา จากน้ำที่หลากเข้าท่วมเป็นบางพื้นที่แล้ว และน้ำที่เพิ่มปริมาณสูงขึ้นในคลองชัยนาท-ป่าสัก ทางเทศบาลตำบลป่าตาล ได้วางแนวกระสอบทรายพร้อมนำเครื่องสูบน้ำมาติดตั้ง เพื่อป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ เช่นเดียวกับกรมชลประทานที่ได้สั่งเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้า ที่ชุมชนถนนขวาง ต.ป่าตาลใน หมู่ที่ 7 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาที่ข้าวกำลังตั้งท้องออกรวงหลายร้อยไร่ ให้ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต และสร้างความเชื่อมั่นถึงการแก้ไขสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ให้พี่น้องประชาชนได้อุ่นใจ

1-10-2559 12-37-43 1-10-2559 12-37-30


นอกจากนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดเตรียมอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ ยานพาหนะ และเจ้าหน้าที่ พร้อมเผชิญเหตุจากสถานการณ์น้ำเอ่อล้นและน้ำท่วมฉับพลันในเขตพื้นที่ และมีประชาชนร้องขอให้เปิดประตูระบายน้ำ 5 ประตู

ส่วนสถานการณ์น้ำที่ จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักมีระดับสูงขึ้น โดยแม่น้ำเจ้าพระยา ระบายอยู่ที่ 1991 ลบ.ม./วินาที ทำให้น้ำสูงขึ้นประมาณ 10 ซม. และเขื่อนพระรามหก ระบายน้ำที่ 497.12 ลบ.ม./วินาที น้ำในแม่น้ำป่าสักสูงขึ้น 10 ซม. ยังคงล้นตลิ่งท่วมพื้นที่สองฝั่งใน อ.นครหลวง อ.พระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะที่ ต.วัดตะกู อ.บางบาล ยังเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมมากที่สุด โดยที่หมู่ 9 ต.ตะกู ระดับน้ำสูงขึ้นจนเกือบถึงพื้นบ้านของประชาชน แม้ยกพื้นสูงแล้ว โดยความลึกอยู่ที่ 2-3 เมตร ประชาชนส่วนใหญ่ขาดการติดต่อกับโลกภายนอก ต้องใช้เรือในการสัญจรไปมาออกไปยังถนนหลัก เนื่องจากถนนในหมู่บ้านน้ำท่วม และยังพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนหลายหลังที่มีผู้สูงอายุและคนพิการที่ต้องเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล แต่ประสบปัญหาไม่มีเรือ

2 1-10-2559 12-42-37


ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ประชาชนต้องเดินลุยน้ำลากเรือรับประชาชนไปทำบุญที่วัด เนื่องจากเป็นวันทำบุญสารทไทย ด้านนายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ นายอำเภอผักไห่ มีหนังสือแจ้งถึงผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 หลังจากที่มีการประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ในการสำรวจพื้นที่เก็บเกี่ยวข้าวพื้นที่ประตูระบายน้ำเสร็จแล้ว ขอให้ชลประทานเปิดประตูระบายน้ำ 5 ประตู ได้แก่ ประตูระบายน้ำลาดชะโด ประตูระบายน้ำบางแก้ว ประตูระบายน้ำมะขามเทศ ประตูระบายน้ำลาดชิด ประตูระบายน้ำวัดใบบัว และท่อระบายน้ำหนองตะเกียง และบ้านหนองควาย เพื่อบรรเทาปริมาณไปยังพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งทางชลประทานได้รับทราบและอยู่ระหว่างดำเนินการเสริมคันดิน

ความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หมู่ 3 ต.สรรพยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ที่ถูกน้ำกัดเซาะดินใต้ถนนพังทลายเป็นช่วงๆ ลึกเข้าไปกว่า 1 เมตร เป็นระยะทาง 300 เมตร ซึ่งเสี่ยงถนนทรุดตัวและพังลงแม่น้ำ โดยเทศบาลตำบลสรรพยา ต้องนำดินเข้าไปถมตลิ่งริมถนนเพิ่มอีกกว่า 250 คันรถ หลังจากที่ 3 วันก่อนได้นำไปถมแล้วกว่า 100 คันรถ แต่เนื่องจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้นเป็น 1,998 ลบ.ม./วินาที ทำให้ดิน 100 คันรถ ที่เคยนำไปถมไว้ละลายไปกับน้ำ จึงต้องนำดินไปถมเพิ่มอีก แต่คราวนี้จะใช้รถแบ็กโฮอัดดินเข้าไปใต้ถนนทำเป็นสโลป และใช้พลาสติกคลุมดินตลอดแนวถนน ป้องกันดินถูกน้ำเซาะพังทลายอีก

1-10-2559 12-44-08 1-10-2559 12-43-52

ส่วนที่ กทม.ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา เฝ้าระวังจุดเสี่ยง 2 เขต วางกระสอบทรายสร้างคันกั้นน้ำ หวั่นซ้ำรอยน้ำท่วมใหญ่ปี 54

นายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) พร้อมคณะผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง ลงเรือตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณจุดเสี่ยงวิกฤติน้ำท่วมปี 2554 โดยกล่าวภายหลังว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้ยังไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 1,600 ลบ.ม./วินาที ซึ่งศักยภาพในการรองรับน้ำอยู่ที่ 2,400 ลบ.ม./วินาที แต่หากมีฝนตกลงมาเพิ่ม อาจทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำเสี่ยงได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เคยประสบอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ช่วงบริเวณซอยเขียวไข่กา เขตดุสิต, ซอยจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด โดยสำนักการระบายน้ำได้นำกระสอบทรายจัดเรียงเป็นแนวคันกั้นน้ำชั่วคราว ความสูงกว่า 2 เมตร รวมถึงจุดที่เป็นฟันหลอได้วางกระสอบทรายตลอดแนวยาว 4 กิโลเมตร ซึ่งมีท่าเรืออยู่จำนวน 100 ท่า พร้อมจัดเตรียมอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่เต็มกำลัง เฝ้าระวังน้ำเหนือ น้ำหนุนอย่างใกล้ชิด จนกว่าจะพ้นช่วงฤดูฝน

ด้านนายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประชุมร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอทั่วประเทศ เพื่อทำความเข้าใจถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาขณะนี้

1-10-2559 12-45-21  1-10-2559 12-46-35

น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นภัยธรรมชาติ เพราะมวลน้ำจากภาคเหนือและน้ำฝนที่ตกตามฤดูกาลไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา รัฐบาลจึงจำเป็นต้องระบายน้ำเข้าไปในบางพื้นที่ ส่วนพื้นที่ที่ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่มีการระบายน้ำเข้าไปนั้น เนื่องจากเป็นพื้นที่การเกษตรที่รอการเก็บเกี่ยวในช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งหลังเก็บเกี่ยวเสร็จสิ้น รัฐบาลจะระบายน้ำเข้าพื้นที่ เพื่อเก็บไว้ใช้ในฤดูกาลต่อไป ดังนั้น ขอให้ประชาชนเข้าใจและรับฟัง ไม่ทำลายคันกั้นน้ำ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความเสียหายและความเดือดร้อนกับประชาชนทั้งหมด สำหรับพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ทั้งพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือน รัฐบาลจะเยียวยาให้ตามระเบียบ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำรวจตัวเลขความเสียหาย. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปะทะแล้ว บริเวณปราสาทตาเมือน หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง

สุรินทร์ 24 ก.ค.-ทบ.รายงานเหตุการณ์ปะทะบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง เมื่อเช้าวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เวลา 07.35 น. หน่วยเฉพาะกิจที่ดูแลพื้นที่ปราสาทตาเมือนรายงานว่า ได้ยินเสียงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของฝ่ายกัมพูชาบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม แม้ไม่สามารถตรวจพบตัวอากาศยานได้ด้วยสายตา แต่สามารถได้ยินเสียงอย่างชัดเจน ต่อมาฝ่ายกัมพูชาได้นำอาวุธเข้าสู่ที่ตั้งบริเวณด้านหน้าแนวลวดหนาม และพบกำลังพลกัมพูชาจำนวน 6 นาย พร้อมอาวุธครบมือรวมทั้ง RPG เดินเข้ามาใกล้แนวลวดหนามบริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการของไทย ฝ่ายไทยได้ใช้การตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและยกระดับสถานการณ์ โดยฝ่ายไทยเฝ้าระวังตลอดแนวชายแดนเพื่อเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้ามาบริเวณตรงข้ามฐานปฏิบัติการทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือน ในระยะประมาณ 200 เมตร ขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองทัพบกกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ กำลังพลเจ็บ 2 นาย

กทม. 24 ก.ค.-ด่วน! เหตุปะทะทหารไทย-เขมร ลาม 6 พื้นที่ ทบ. เผยทหารกัมพูชา เปิดแนวรบเพิ่มที่ ผามออีแดง เขาพระวิหาร ส่วนทหารไทยงัดปืนใหญ่ตอบโต้ กำลังพลเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุเพิ่มเติมว่า เวลา 0920 น. กองทัพบกพบการปะทะเพิ่มเติมตลอดแนวพื้นที่ผามออีแดง ปราสาทเขาพระวิหาร พบฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากใช้อาวุธทุกชนิดและ BM21 ส่วนฝ่ายไทยเข้าปะทะตามแผนพร้อมตอบโต้ปืนใหญ่สนาม 09.20 น. เจ้าหน้าที่ทหารบาดเจ็บ 2 นาย จากอาวุธยิงสนับสนุน ในพื้นที่บริเวณกลุ่มปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปะทะจำนวน 6 พื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย ช่องบก เขาพระวิหาร(ห้วยตามาเรีย/ภูมะเขือ) ช่องอ่านม้า ช่องจอม.-313.-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทบ.นำคณะลงช่องอานม้า พรุ่งนี้ จ่อใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ

23 ก.ค.- “ผบ.ทบ.” สั่ง ทภ.2-ทภ.1 เตรียมพร้อม “แผนจักรพงษ์ภูวนาถ” รับมือชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมยกคณะลงพื้นที่บัญชาการ วันที่ 23 ก.ค.68 พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผข.ทบ.) ได้สั่งการไปยังกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่1 รับผิดชอบพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา เตรียมใช้แผนจักรพงษ์ภูวนาถ แก้ไขปัญหาพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชาหลัง กำลังพลของกองทัพบกไทยจากชุดลาดตระเวน พัน.ร.14 ประสบเหตุเหยียบกับระเบิดบริเวณห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พิกัด VA 950911 ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน โดยส่งผลให้ จ่าสิบเอกพิชิตชัย บุญโคราช ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสูญเสียขาขวา และอยู่ระหว่างการส่งตัวรักษาต่อ ณ โรงพยาบาลน้ำยืน โดยให้พร้อมปฏิบัติหน้าที่ทันที เมื่อสั่งการ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พลโท ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ รองเสธ ทบ. พลโทบุญสินพาดกลาง มทภ.2 […]

“บิ๊กต่าย” อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็น ตร.

ตร. 23 ก.ค. – ผบ.ตร. อยากเคลียร์ใจครอบครัว “น้องเมย” ปมคู่กรณีได้เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชาหลังเกิดเหตุ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลมณฑลทหารบกที่ 12 จังหวัดปราจีนบุรี อ่านคำพิพากษากรณีที่ ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตปริศนา หลังจากถูกธำรงวินัยโดยรุ่นพี่ทหาร 2 นาย ภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งหนึ่งในรุ่นพี่ที่เป็นจำเลย ปัจจุบันรับราชการตำรวจในภาคอีสาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า ตนได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่อยากจะสื่อสารในประเด็นที่ 1 ตนอยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ซึ่งเป็นประเด็นที่ 2 กรณีที่คู่กรณีเป็นตำรวจ เราต้องมองย้อนไปในขณะที่เกิดเหตุ มองถอยหลังกลับไป คู่กรณีรายดังกล่าวไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจ ปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ตนได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาติ นำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน […]

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

สหรัฐเรียกร้องไทย-กัมพูชาหยุดยิงทันที

วอชิงตัน 25 ก.ค. – สหรัฐเรียกร้องไทยและกัมพูชาหยุดยิงทันที หลังความขัดแย้งตามแนวชายแดนทวีความรุนแรง จนเกิดความสูญเสียต่อพลเรือน ส่วนจีนส่งเสริมให้เจรจาสันติภาพ ยันยันวางตัวเป็นกลางในความขัดแย้งระหว่างสองชาติพันธมิตรของจีนในอาเซียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวระหว่างแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความรุนแรงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ขยายวงกว้าง และแสดงความเสียใจต่อรายงานความสูญเสียของพลเรือน พร้อมเรียกร้องให้หยุดยิงทันที พร้อมปกป้องชีวิตพลเรือนและแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติ ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน แถลงในกรุงปักกิ่งเมื่อวานนี้ว่า ทั้งไทยและกัมพูชาต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน และเป็นสมาชิกที่สำคัญของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน มิตรภาพอันดีระหว่างเพื่อนบ้านและการจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสม สอดคล้องกับผลประโยชน์พื้นฐานและผลประโยชน์ระยะยาวของทั้งสองฝ่าย จีนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และหวังว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างถูกต้องผ่านการเจรจาและการปรึกษาหารือ จีนจะยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพ กรณีพิพาทชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาด้วยจุดยืนที่ยุติธรรมและเที่ยงธรรม เขากล่าวอีกว่า จากมุมมองของผลประโยชน์ร่วมกันและความต้องการของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาค จีนยึดมั่นในจุดยืนที่ยุติธรรมและเป็นกลาง และยังคงส่งเสริมการเจรจาสันติภาพในแบบของตนเองต่อไป เพื่อมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการลดระดับและลดความตึงเครียดลง ขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ออกแถลงการณ์ แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายระมัดระวังต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่อาจได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง รักษาช่องทางการสื่อสารให้เปิดกว้าง และพยายามลดความตึงเครียดลงโดยเร็ว แถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ ระบุว่า ฟิลิปปินส์ ไม่ได้มีจุดยืนฝักใฝ่ฝ่ายใดในข้อพิพาทนี้ แต่ขอย้ำถึงความสำคัญของการคงไว้ซึ่งการสื่อสารที่เปิดกว้าง และการลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์ พร้อมแสดงความหวังว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้โดยสันติ ใช้กฎหมายระหว่างประเทศเป็นกรอบในการเจรจาและยุติข้อพิพาทด้านสถานทูตต่างชาติหลายแห่ง ออกคำเตือนประชาชนของตัวเองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น สถานทูตของสหรัฐในประเทศไทย เตือนพลเมืองของตัวเองที่อาจจะทำงานหรืออาศัยอยู่ในจังหวัดที่ติดกับชายแดน ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ในประเทศไทยอย่างเคร่งครัด ขณะที่เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า สำนักงานต่างประเทศ […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านหนักสุดเป็นประวัติการณ์

น่าน 24 ก.ค. – ยังน่าห่วง น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจและตัวเมืองน่าน หนักสุดเป็นประวัติการณ์ บางจุดท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน ประชาชนติดอยู่ในบ้านกลางน้ำ ยิ่งค่ำยิ่งลำบาก .-สำนักข่าวไทย