ซิโน-ไทยเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการสร้างรัฐสภาใหม่

รัฐสภา 29 มี.ค.-เลขาธิการสภาฯ นำผู้เกี่ยวข้องสร้างรัฐสภาใหม่แจงเหตุต้องขอเพิ่มงบสร้าง ขณะที่บ.ซิโน-ไทยฯ เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากสภาภายในเม.ย.นี้ 


นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมผู้เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่แถลงชี้แจงงบประมาณและปัญหาการก่อสร้างโดยละเอียดตั้งแต่การเริ่มก่อสร้างจนถึงปัจจุบัน  พร้อมชี้แจงความจำเป็นที่ต้องขออนุมัติงบประมาณจากคณะรัฐมนตรีเพิ่มเติมจำนวนกว่า 8,648 ล้านบาท ว่า แบ่งเป็นการก่อสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร วงเงินกว่า 6,493 ล้านบาท งานสาธารณูปโภค 1,413 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาและผู้ควบคุมงาน 229 ล้านบาท และวงเงินการขยายเวลาอีกกว่า 512 ล้านบาท เพื่อให้การก่อสร้างอาคารเสร็จสมบูรณ์ และสามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์

“รัฐสภาแห่งเดิมจำเป็นจะต้องย้ายสถานที่ทำการจากถนนอู่ทองใน ไปยังรัฐสภาใหม่ย่านเกียกกายภายใน 9 เดือนนี้ ซึ่งหากไม่สามารถเร่งรัดการก่อสร้างให้แล้วเสร็จได้จะเกิดปัญหาแน่นอน โดยงบประมาณขณะนี้ ได้เสนอต่อสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีไปแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาก่อนนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติ” เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าว


นางพรรษมณ ไทยวัฒนานุกูล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้กำกับดูแลงานด้านไอซีที กล่าวถึงสาเหตุที่งบประมาณการก่อสร้างระบบไอซีทีเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 6,000 ล้านบาท จากเดิม 3,200 ล้านบาทว่า เนื่องจากผู้ออกแบบอาคารออกแบบเพียงระบบไอซีทีบางส่วนไว้ 1,200 ล้านบาท แต่ยังไม่รวมถึงระบบการแสดงตน และระบบลงคะแนน ทั้งนี้ จำเป็นต้องว่าจ้างบริษัทเมอร์ลินส์ โซลูชั่น อินเทอร์เนชัลแนล จำกัด มาทบทวนตามรายงานที่บริษัทออกแบบเดิมเคยออกแบบไว้ ซึ่งเป็นระบบที่จำเป็นต่อการใช้งานอย่างสมบูรณ์ เช่น ระบบโสตทัศนูปกรณ์ สำหรับห้องประชุมใหญ่ 2 ห้อง และห้องประชุมกรรมาธิการอีก 300 ห้อง ระบบสำรองไฟ ระบบแสดงตนด้วยการแสกนลายนิ้วมือเพื่อลงคะแนน และป้องกันปัญหาที่เคยเกิดในสภาในอดีต เป็นต้น ยืนยันว่าราคาที่ขออนุมัติเพิ่มเติม ได้สืบราคาจากกระทรวงดิจิตอลเพื่อเกษตรและสังคมแล้ว และยังจะต้องว่าจ้างบริษัทภายนอกมาควบคุมการใช้งานในช่วงแรกด้วย เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานดังกล่าวมาก่อน และผลิตภัณฑ์ที่ใช้จะต้องมีคุณภาพ เพราะจะต้องใช้งานอย่างยาวนาน 

ด้านนายโชติจุฑา อาจสอน กรรมการบริหารที่ปรึกษาโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กล่าวว่า รายละเอียดงบประมาณที่จำเป็นต้องขอเพิ่มเติมในปี 2554 ได้นำงบประมาณที่ใช้ก่อสร้างงานโสตทัศนูปกรณ์ งานเทคโนโลยีสารสนเทศ และงานสาธารณูปโภคออกไป เนื่องจากงบประมาณการก่อสร้าง เมื่อรวมกับงานดังกล่าวแล้วมีราคาค่าก่อสร้างสูงกว่างบประมาณที่ได้รับ จึงต้องปรับแก้และแยกรายการก่อสร้างดังกล่าวออกให้เป็นงานนอกสัญญา เพื่อให้สามารถเปิดประมูลคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างได้ ขณะนี้การก่อสร้างโครงสร้างอาคารเกือบเสร็จสิ้นแล้ว แต่ยังไม่มีงบประมาณก่อสร้างระบบไอซีทีและระบบสาธารณูปโภค หากการก่อสร้างล่วงเลยไปและไม่สามารถสร้างระบบไอซีทีและระบบสาธารณูปโภคได้จะเกิดความเสียหายขึ้นอีกที่จะต้องรื้อโครงสร้างและใส่ระบบดังกล่าว

ขณะที่นายพีระ นาควิมล ผู้อำนวยการการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ยืนยันว่า ไม่มีใครต้องการให้การก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ล่าช้า เพราะทั้งรัฐและเอกชนได้รับความเสียหายทั้งสิ้น บริษัทจำเป็นต้องต่อสัญญาด้วยน้ำตาเพื่อให้การก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ และจะต้องแบกรับภาระและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการต่อสัญญาอีกวันละ 1 ล้านบาท ซึ่งไม่สามารถเรียกร้องจากรัฐได้ 


“การที่บริษัท ซิโน-ไทยฯ รับงานดังกล่าว เพราะมั่นใจว่าสภาผู้แทนราษฎรฯ จะส่งมอบพื้นที่ได้ตามกำหนด แต่กลับส่งมอบพื้นที่ล่าช้าไปถึง 11 ครั้ง จึงส่งผลกระทบต่อการก่อสร้าง เพราะพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างจำเป็นต้องใช้สนับสนุนการก่อสร้างอาคาร โดยเฉพาะโครงหลังคาห้องประชุมสุริยัน และห้องประชุมจันทราที่มีน้ำหนักกว่า 2,000 ตัน และมีความหนากว่า 20 นิ้ว เพื่อป้องกันการยิงระเบิด RPG จากสะพานเกียกกาย ที่จะสร้างอยู่ใกล้เคียงกันนั้นไม่สามารถขนส่งมาได้ จะต้องประกอบในพื้นที่เท่านั้น” นายพีระ กล่าว

นายพีระ กล่าวถึงกรณีอดีตนักการเมืองระบุว่าเกิดการทุจริตในการก่อสร้าง ว่า หากเป็นข้อเท็จจริงก็พร้อมนำไปแก้ไข แต่หากเป็นความเท็จถือเป็นการทำลายความตั้งใจของบริษัทตนที่ได้ก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เคยก่อสร้างอาคารของศาลฎีกาและศาลปกครองสูงสุดแล้ว จึงถือเป็นความภาคภูมิใจสูงสุดของตนเช่นเดียวกัน ซึ่งเบื้องต้นฝ่ายกฎหมายของซิโน-ไทยฯ ได้ตรวจคำให้สัมภาษณ์ของนักการเมืองกลุ่มดังกล่าวแล้ว หากเข้าข่ายเจตนาการหมิ่นประมาท สร้างความเสียหายให้บริษัท จะไม่รีรอที่จะรักษาสิทธิในการฟ้องร้องเช่นกัน 

นายพีระ กล่าวถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทซิโน-ไทยฯ จากการขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างดังกล่าว ว่า บริษัทซิโน-ไทยฯ ได้ประกาศสำรองการขาดทุนของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์ไปแล้ว 3,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อพนักงานบริษัท ขณะเดียวกันยังมีหนังสือถึงสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากการต่อสัญญา 2 ครั้งที่ผ่านมา จำนวน 1,673 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินความเสียหายจากการต่อสัญญาครั้งที่ 3 โดยเตรียมยื่นฟ้องต่อศาล เพื่อเรียกร้องค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น ภายในเดือนเมษายนนี้ และยอมรับว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ บริษัทซิโน-ไทยฯ คงไม่ร่วมประมูลการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย      

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มกรุงอีก สูงสุด 107 มม. เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน

กทม. 6 ก.ย. – ฝนถล่มกรุงเย็นนี้ ปริมาณฝนสูงสุดแตะ 107 มม. ที่เขตพระนคร จับตาฝนอีกก้อน หากไม่อ่อนกำลังจะเคลื่อนตัวเข้า กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์ฝนกรุงเทพมหานคร โดยมีสำนักการระบายน้ำ ร่วมให้ข้อมูล ณ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม สำนักการระบายน้ำ กทม.2 ดินแดง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ กล่าวว่า วันนี้ปริมาณฝนตกหนักไม่แพ้เมื่อวาน เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยเป็นตัวดึงเมฆฝนเข้ามา โดยในขณะนี้ (เวลา 17.10 น.) ฝนยังคงตกต่อเนื่องในพื้นที่ชั้นในบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ยังมีเมฆฝนอีกกลุ่มกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา คาดว่าหากไม่อ่อนกำลังจะเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพฯ อีกระลอก จากการรายงานพบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 6 ชั่วโมงอยู่ที่ 107 มิลลิเมตร ที่เขตพระนคร ตามมาด้วย 98.5 มิลลิเมตร ที่เขตวัฒนาและห้วยขวาง ซึ่งถือว่าเกินกว่าขีดความสามารถของระบบระบายน้ำของ กทม. ที่ออกแบบไว้ให้รองรับปริมาณฝนที่ 60 มิลลิเมตร รายงานสถานการณ์ล่าสุดยังพบน้ำท่วมขังในถนนสายหลักและสายรองหลายแห่ง ถนนสายหลัก […]

“อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ฯ

ภูมิใจไทย 6 ก.ย. – “อนุทิน” เผยโผ ครม. 100% แล้ว พร้อมเริ่มทำงานทันทีหลังถวายสัตย์ปฏิญาณตน ระบุยังไม่มีผู้ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ยืนยันจะเปิดเผยเมื่อถึงเวลาสมควร นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยความชัดเจนการจัดโผคณะรัฐมนตรี ว่าหลายๆ อย่างเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ยืนยันว่าความชัดเจนในการจัดสรรนิ่ง 100% แล้ว ทุกคนที่มาทำหน้าที่ในคณะรัฐมนตรีทราบดีถึงเงื่อนไขและข้อจำกัดต่างๆ โดยจะต้องเริ่มทำงานทันทีหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ส่วนความชัดเจนในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ยังปฏิเสธที่จะเปิดเผย ระบุว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรียังไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ยืนยันว่าไม่มีการปิดบังซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาสมควร ไม่เป็นการก้าวล่วงใดๆ ก็จะรีบเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพราะรัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนคนไทยทุกคน จะไม่ดำเนินการใดๆ ลับหลังประชาชน และจะให้ได้รับทราบร่วมกัน เพื่อออกความเห็นให้รัฐบาลได้รับฟัง และรัฐบาลจะได้ปฏิบัติตาม นายอนุทิน ยังยืนยันว่ารัฐมนตรีทุกคน จะต้องมีคุณสมบัติไม่ขัดต่อกฎหมายและข้อจำกัด จะต้องทุ่มเททำงานด้วยความรู้ความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีทั้งทหาร พลเรือน อส. นายกองใหญ่.-314-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

รัฐมนตรีส่ง จนท.ทยอยขนของออกจากทำเนียบ

ทำเนียบ 6 ก.ย. – รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิม ส่งเจ้าหน้าที่ทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล​ หลัง​สภาฯ โหวตเลือก “อนุทิน​” นั่งนายกรัฐมนตรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เริ่มมีการทยอยขนของออกจากทำเนียบรัฐบาล หลังสภาฯ มีมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ บรรดารัฐมนตรีและทีมงานของรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ส่งทีมงานทยอยเก็บของ ก่อนเวลาประมาณ​ 10.00 น.​ พบรถบรรทุก​ 6 ล้อ​ คลุมผ้าใบทึบ ออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้า​ รวมไปถึงมีเจ้าหน้าที่มาล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ ทั้งตึกไทยคู่ฟ้า และตึกบัญชาการ 1 และมีการขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของนางสาวหทัย ทิวไผ่งาม​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ แม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์​ มีการแจ้งเตรียมขนของของรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออก ทั้งวันเสาร์และอาทิตย์.-314-สำนักข่าวไทย