ค้นบ้านข้าราชการ ซี 8 ทุจริตเงินกองทุนเสมาฯ

กรุงเทพฯ 23 มี.ค.- ชุดปฏิบัติการคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงเข้าตรวจค้นบ้านพักข้าราชการซี 8 กระทรวงศึกษาธิการโกงเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต พบเอกสารกองทุนตั้งแต่ปี 40 ฉีกขาดซุกซ่อนเตรียมทำลายหลักฐาน


ช่วงเช้าทีมข่าวสำนักไทยติดตามชุดปฏิบัติการอนุคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ปปง. ตำรวจ ปอท. สน.ดอนเมืองกว่า 20 คน พร้อมหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 310/926 และ 310/927 ซึ่งเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 2 หลังติดกัน ซึ่งเป็นของนางรจนา สินที ข้าราชการซี 8 กระทรวงศึกษาธิการ และบุตรชาย ถนนสรงประภา เขตดอนเมือง หลังรับสารภาพว่าโกงเงินกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต โดยเบียดบังเงินกองทุนฯ จำนวนหนึ่งเข้าบัญชีเครือญาติก่อนหมุนเงินกลับเข้าบัญชีตัวเอง ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน รวม 10 ปี เป็นเงินสูงกว่า 100 ล้านบาท 

 


เมื่อถึงพื้นที่เป้าหมายเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นของศาล เพื่อขอเข้าตรวจค้นหลักฐานนำมาประกอบการไต่สวนมูลฟ้อง และหลักฐานอื่นอันเป็นเหตุสงสัยว่าใช้เพื่อกระทำความผิด โดยสภาพบ้านเป็นทาวน์เฮาส์หลังเก่า 2 หลังติดกัน มีการนำผ้าม่านและแผ่นสังกะสีปิดซ้อนกับประตูรั้วอย่างมิดชิด โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น และชี้แจงวัตถุประสงค์กับนางรจนา นานกว่า 20 นาที โดยนางรจนาได้โทรศัพท์หารือกับทนายความก่อนอนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เข้าตรวจค้นเก็บหลักฐาน

พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า คดีนี้เลขาธิการป.ป.ท. มีนโยบายให้ทำงานเชิงรุก ภายหลังบอร์ดป.ป.ท. มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนความผิดก็ได้ขอหมายค้นเข้าตรวจค้น เพื่อเก็บพยานหลักฐานเนื่องจากยังไม่ปักใจเชื่อคำรับสารภาพของนางรจนา ว่ากระทำเพียงคนเดียว และมีเหตุต้องสงสัยว่าเป็นเพียงข้าราชการระดับ 8 แต่สามารถใช้ช่องว่างทุจริตอย่างต่อเนื่องนานกว่า 10 ปี สร้างความเสียหายให้กับระบบราชการสูงกว่า 100 ล้านบาท 

      


ขณะที่สภาพบ้านพักค่อนข้างทรุดโทรม จึงเป็นประเด็นต้องสงสัยถึงเส้นทางการเงิน โดยเบื้องต้นพบเส้นทางการเงินที่ได้จากการทุจริตนำไปเข้าในบัญชีของบุคคลต่างๆ ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบันแล้ว แต่อยู่ระหว่างการขยายผลว่าเงินไหลออกไปจุดใดบ้าง ที่สำคัญในคดีมีข้อสงสัยว่าการอนุมัติทุนทำในรูปคณะกรรมการ มีผู้ร่วมพิจารณาเป็นจำนวนมาก เหตุใดจึงมีการทุจริตเพียงคนเดียว โดยไม่พบร่องรอยของผู้ร่วมพิจารณารับรู้เรื่องด้วย สำหรับผู้ที่มีชื่อรับเงินจากนางรจนา จะต้องเสนอให้บอร์ดป.ป.ท.มีมติตั้งอนุกรรมการไต่สวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีทั้งหมด

    

เบื้องต้นจากการตรวจค้นบ้านพักพบเอกสารและสมุดบัญชีธนาคาร ส่วนในรถยนต์ที่มีผ้าคลุมจอดไว้หน้าบ้านพบแฟ้มเอกสารกองทุนเสมาฯ ตั้งแต่ปี 2540 และเอกสารสำคัญถูกฉีกทำลายซุกซ่อนอยู่ในถุงขยะ 2 ถุงใหญ่ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าอยู่ระหว่างเตรียมทำลายหลักฐาน โดยนางรจนายอมรับว่าเป็นเอกสารโครงการจริงและเตรียมไปทำลายหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง