กรมอุตุฯ 4ต.ค.- เกือบทุกภาคและกรุงเทพฯ ยังมีฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องตลอดสัปดาห์นี้ จนถึงกลางเดือน จับตาหย่อมความกดอากาศลูกใหม่ คาดจะเข้าไทยปลายสัปดาห์ ทำให้ฝนเพิ่มอีก
นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า ในช่วงนี้เกือบทุกภาคของประเทศ ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงต้องเผชิญกับภาวะฝนตกหนักถึงหนักมาก ต่อเนื่องไปอีกจนถึงกลางเดือนตุลาคม เนื่องจากอิทธิพลของร่องมรสุมหรือร่องความกดอากาศต่ำยังคงพาดผ่านประเทศไทยตอนบน ตอนกลาง ภาคตะวันออก ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงมีกำลังแรง ในช่วงนี้ ทำให้มีฝนตกมากตั้งแต่บริเวณภาคเหนือซีกตะวันตก ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันออกประชาชนพื้นที่ลุ่มของภาคกลางที่มีน้ำท่วมอยู่แล้วจึงควรระวังในเรื่องของน้ำท่วมขังเพิ่มขึ้นด้วย
เช่นเดียวกับกรุงเทพมหานคร ช่วง2-3วันนี้ ฝนยังคงตกต่อเนื่องในช่วงบ่ายถึงค่ำ ซึ่งจะมีฝนหนัก ฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่าและลมกระโชกแรง ปริมาณฝนเป็นลักษณะฝนหนัก อาจจะมากกว่า 60-70 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นปริมาณที่สูงกว่าการระบายน้ำของกรุงเทพมหานครจะรับได้ ดังนั้นโอกาสที่จะเกิดน้ำท่วมขัง น้ำท่วมผิวจราจรหรือน้ำรอการระบายจะมีโอกาสสูง เพราะการตกในพื้นที่เฉพาะในช่วงเวลาสั้นๆ
ขณะเดียวกัน ในช่วงปลายสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำ ที่ก่อตัวบริเวณฟิลิปปินส์แล้วจะเคลื่อนเข้ามาในอ่าวตังเกี๋ย ซึ่งจะดึงให้ร่องมรสุมขยับสูงขึ้นไปพาดผ่านภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มขึ้น ดังนั้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้จึงต้องระวังฝนตกหนักในช่วงภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย โดยตอนนี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะลักษณะการก่อตัวของหย่อม ความกดอากาศต่ำในทะเลมีโอกาสพัฒนาเป็นพายุดีเปรสชั่นหรือโซนร้อนได้ โดยเฉพาะช่วงหลังจากพายุไต้ฝุ่นชบา ซึ่งจะเคลื่อนไปทางญี่ปุ่นหรือเกาหลีสลายตัวแล้ว และยังคงต้องติดตามเรื่องของพายุต่อเนื่องจนถึงต้นเดือน ธ.ค.เพราะแนวโน้มของการก่อตัวของพายุปีนี้ค่อนข้างจะเยอะเนื่องจากอุณหภูมิน้ำทะเลอยู่ในสภาพเหมาะสมคืออุณหภูมิน้ำทะเลค่อนข้างจะอุ่น โดยคาดว่าภาคเหนือ ภาคกลางและภาคตะวันออกจะยัง คงมีฝนอยู่จนถึงกลางเดือน ต.ค.ส่วนครึ่งหลังของไปแล้วฝนจะลดลง และจะเข้าสู่ฤดูหนาว
ส่วนที่นักวิชาการเป็นห่วงผลกระทบจากอิทธิพลจากปรากฎการณ์ลานีญา จะทำให้น้ำท่วมเหมือนปี 2554 นั้น อธิบดีกรมอุตุฯ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ลานีญาในปีนี้รู้ล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปีแล้วว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีช่วงต.ค.-ธ.ค.เป็นลานีญาอ่อนๆ ซึ่งจะทำให้เกืดฝนตกหนักในภาคใต้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝนพอดี มีโอกาสเกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นในหลายหลายพื้นที่ เพราะภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีลักษณะพื้นที่ลาดชันมีภูเขาค่อนข้างมากเมื่อมีฝนตกในแนวเทือกเขาก็จะมีลักษณะของน้ำป่าที่ค่อนข้างรุนแรง ต่างกับ ปี2554 ซึ่งเป็นลานีญารุนแรง ประกอบกับเกิดลานีญาต่อเนื่องกัน 2 ปี และก่อนหน้านั้นก็มีฝนนตกสะสมอยู่แล้ว และมีฝนที่ตกหนักช่วงฤดูฝน มีพายุพาดผ่านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือค่อนข้างเยอะ ทำให้ปริมาณน้ำฝนใาก จึงทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในปีนั้น.-สำนักข่าวไทย