เชียงใหม่ 13 มี.ค. – ยุคนี้คนรุ่นใหม่หลายคนทิ้งชีวิตมนุษย์เงินเดือนไปเป็นเกษตรกรกันมากขึ้น อย่างคู่รักคู่หนึ่งที่ จ.เชียงใหม่ ทิ้งจอคอมพิวเตอร์และเข็มฉีดยา หันไปจับจอบจับเสียม ทำเกษตรอินทรีย์และเลี้ยงไส้เดือนเป็นอาชีพ แม้ได้เงินน้อยลง แต่กลับพบว่าเหลือเงินเก็บมากขึ้น และยังมีสุขภาพและความสุขมากขึ้นด้วย
โรงเรือนเล็กๆ บนพื้นที่ 1 ไร่เศษ ซึ่งใช้เลี้ยงไส้เดือนในกะละมังและบ่อซีเมนต์หลายสิบบ่อ กลายเป็นรายได้หลักของ “อั้ม” และ “แนน” คู่รักเกษตรกรรุ่นใหม่ วัย 29 และ 28 ปี ในหมู่บ้านใหม่ ต.เมืองงาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งหันมาเลี้ยงไส้เดือนเพื่อเอาปุ๋ยมูลไส้เดือนอย่างจริงจัง เพราะเลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก แต่ต้องเอาใจใส่ เลี้ยงทั้งไส้เดือนพันธุ์ตาแร่ เอเอฟ และไทเกอร์ โดยใช้มูลโคนม ซึ่งผ่านการแช่น้ำเพื่อลดความร้อน และเศษผัก เศษอาหาร เลี้ยงไส้เดือนบ่อละประมาณ 20,000 ตัว หลังไส้เดือนได้กินอาหาร คอยรดน้ำให้ความชื้น อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เลี้ยงไว้ราว 1-2 เดือน ไส้เดือนซึ่งเป็นเหมือนเครื่องผลิตปุ๋ยชั้นดี จะเริ่มขึ้นมาให้มูลบนผิว ให้ปาดเก็บเป็นปุ๋ยไส้เดือน ส่งขายทั้งหน้าสวนและทางออนไลน์ ในราคากิโลกรัมละ 40 บาท มีรายได้ทุกวัน
นอกจากนี้ ยังต่อท่อเก็บฉี่ไส้เดือน ซึ่งเป็นปุ๋ยน้ำชั้นดี ใช้ผสมน้ำฉีดพ่นต้นไม้หรือไม้ดอก 3 เดือนจะได้ปุ๋ยฉี่ไส้เดือนอีก 30 ลิตร ขายได้ลิตรละ 50 บาท เป็นของแถมด้วย
อั้มและแนน ยังใช้พื้นที่ในสวนเล็กๆ ทำแปลงปลูกพืชผักหลายชนิด มีทั้งมะเขือเทศเชอร์รี สตรอว์เบอร์รี เมลอน รวมทั้งพืชผักสวนครัวอีกมากมาย เรียกว่าจะกินจะใช้อะไรก็ปลูกไว้เก็บกิน เหลือแล้วก็ขาย ที่สำคัญใช้ปุ๋ยไส้เดือนที่ผลิตเอง เหมือนเป็นแปลงสาธิตให้เห็นว่า ปุ๋ยไส้เดือนใช้แล้วดีจริง และเริ่มมีผู้สนใจมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ อั้มเป็นพนักงานด้านคอมพิวเตอร์ ส่วนแนนเป็นพยาบาล แต่ใจรักการเกษตร และอยากกลับมาดูแลพ่อแม่ จึงทิ้งจอคอมพิวเตอร์และเข็มฉีดยา หันมาเป็นเกษตรกรเต็มตัวได้เกือบ 2 ปีแล้ว แม้ได้เงินน้อยลง แต่แทบจะไม่มีรายจ่าย และทั้งคู่ยังพบว่าได้สุขภาพและความสุขมากขึ้น
แม้จะเป็นก้าวแรกด้านการเกษตรสำหรับทั้งคู่ และค่อยๆ ก้าวต่อไป เพราะทำการเกษตรจำเป็นต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งหนึ่งที่เราเห็น คือ ความมุ่งมั่นตั้งใจและการใช้ชีวิตบนความพอเพียง น่าจะทำให้เป็นก้าวที่มั่นคงสำหรับคู่รักหัวใจเกษตรคู่นี้. – สำนักข่าวไทย
ชมผ่านยูทูบ