ทำเนียบรัฐบาล 7 มี.ค.-วิษณุคาดศาลปกครองสูงสุดใช้เวลา 1 ปีตัดสินคดีค่าโง่คลองด่าน ชี้รัฐอยู่ในฐานะได้เปรียบ เชื่อเมื่อพิพากษาแล้วคดีถึงที่สุด เอกชนไม่มีช่องทางสู้ต่อ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งเพิกถอนคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการกรณีห้กรมควบคุมมลพิษ จ่ายเงินค่าเสียหายคดีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านให้เอกชนกว่า 9,000 ล้านบาท ว่า ไม่ใช่คดีแรกที่รัฐชนะเอกชน เพราะยังมีหลายคดี เช่น คดีค่าโง่ทางด่วนบูรพาวิถี
“ขั้นตอนจากนี้กรมควบคุมมลพิษซึ่งเป็นจำเลยในคดีคลองด่านจะต้องรอคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด แต่ขณะนี้ยังไม่เกิดความเสียหายกับรัฐ เพราะ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) อายัดเงินที่ต้องจ่ายงวดที่ 1 และ 2 ไว้แล้ว ส่วนงวดที่ 3 และ 4 ยังไม่ได้จ่าย จึงไม่ต้องรีบเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่มีคำสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายกับเอกชนตามคำสั่งอนุญาโตตุลาการ” นายวิษณุ กล่าว
นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องรอคำพิพากษาศาลแขวง ตัดสินความผิดทางอาญาของตัวบุคคลในคดีนี้ที่จะตัดสินในชั้นฎีกาวันนี้(7 มี.ค.) ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาให้เจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนมีความผิดร่วมกัน ซึ่งคำพิพากษาของศาลแขวงจะถูกนำมาใช้ในการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ยอมรับว่ารัฐมีความได้เปรียบอยู่ โดยคาดว่าศาลปกครองสูงสุดจะใช้เวลาพิจารณาคดีประมาณ 1 ปี และถ้ามีคำพิพากษาแล้วคาดว่าคดีจะถึงที่สุด ไม่สามารถใช้ช่องทางอื่นต่อสู้คดีได้อีก.-สำนักข่าวไทย
