ครม.เห็นชอบปรับแก้ไข 4 ม.ร่าง พ.ร.ก.บริหารจัดการแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่

โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน 6 มี.ค.-ครม.เห็นชอบ ปรับแก้ไข 4 มาตราร่าง พ.ร.ก.การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ ยืดเวลามีผลบังคับใช้ 1 ก.ค. 2561 ให้นายจ้าง-ลูกจ้างไปดำเนินการให้ถูกต้อง


พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบร่างพระราชกำหนดการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ ที่ปรับแก้ใน 4 มาตรา ประกอบด้วย มาตรา 101 , มาตรา 102 , มาตรา 119 และมาตรา 122  ซึ่งเกี่ยวกับบทลงโทษนายจ้างและลูกจ้างที่กระทำความผิด ทั้งการเข้าเมืองผิดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตทำงาน และไม่ขออนุญาตจ้างแรงงานต่างด้าว ซึ่งพระราชกำหนดของปี 2560 กำหนดโทษที่ค่อนข้างรุนแรง จนนำมาสู่การออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ให้มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2561 เพื่อให้นายจ้างและลูกจ้างไปดำเนินการถูกต้อง และเพื่อความเหมาะสม เป็นธรรม จึงได้ปรับแก้โดยยกเว้นการบังคับใช้กฎหมายกับบุคคลต่างด้าวที่มีทักษะ ความสามารถสูงที่เข้ามาลงทุน หรือประกอบกิจการในประเทศไทย เนื่องจากคนเหล่านี้เข้าหลักเกณฑ์ของสมาร์ทวีซ่า นอกจากนี้ให้เปลี่ยนระบบการขออนุญาต เป็นการแจ้งให้ทราบ เพื่อย่นระยะเวลา และไม่เป็นภาระของประชาชนมากเกินไป เช่น การจ้างแรงงานต่างด้าวที่เข้าเมืองถูกกฎหมายและมีใบอนุญาตทำงาน หรือการย้ายงานของแรงงานต่างด้าว ขณะเดียวกันให้ยกเลิกประกาศเขตที่พักอาศัยของแรงงานต่างด้าวให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังนำข้อสังเกตของกระทรวงแรงงาน และที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไปปรับแก้ไข เรื่องโทษที่นายจ้างและลูกจ้างจะได้รับ ไม่ให้หนักเบามากเกินไป เช่น ผู้รับเหมาแรงงาน หรือ เอเย่นต์ ต่อจากนี้จะต้องมีใบจ้างงานก่อน ถึงจะสามารถรับแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานได้ เพื่อป้องกันการถูกเอารัดเอาเปรียบหากเข้ามาแล้วไม่มีงานทำ จนนำไปสู่การค้ามนุษย์ พร้อมห้ามนายจ้างเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากแรงงานต่างด้าว ยกเว้นค่าใช้จ่าย 3 กรณี คือ 1.ค่าทำหนังสือเดินทาง 2.ค่าตรวจสุขภาพ และ 3.ค่าทำใบอนุญาต โดยต้องเก็บเดือนละไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ที่แรงงานได้รับ ขณะเดียวกันห้ามนายจ้างเก็บหนังสือเดินทางของลูกจ้างโดยที่ลูกจ้างไม่ยินยอม และจะต้องคืนให้ทันทีที่ลูกจ้างร้องขอ เพื่อป้องกันการต่อรองของนายจ้าง


พล.ท.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า สำหรับโทษตามมาตรา 101 กรณีคนงานต่างด้าวทำงานในประเทศโดยไม่มีใบอนุญาต จากเดิมมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับ 10,000-100,000 บาท เปลี่ยนเป็นปรับ 5,000-50,000 บาท และไม่มีโทษจำคุก มาตรา 102 กรณีนายจ้างรับแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงาน จากเดิมมีโทษปรับ 400,000-800,000 บาทต่อแรงาน 1 คน เปลี่ยนเป็นปรับ 10,000-100,000 บาทต่อแรงงาน 1 คน และหากนายจ้างกระทำผิดซ้ำโดยรับแรงงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงาน จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และห้ามนายจ้าที่กระทำผิดซ้ำจ้างแรงงานต่างด้าวเป็นเวลา 3 ปี ทั้งนี้ในบทเฉพาะกาล ได้กำหนดไม่ให้นำมาตรา 101 , 102 และ 119 ไปบังคับใช้จนกว่าจะถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2561 จากเดิมที่ให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2561.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้