กรุงเทพฯ 20 ก.พ. – ผู้บริหารธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองกระแสแบงก์กิ้ง เอเย่น มาแรง เพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าแทนสาขาแบงก์
นายพรสนอง ตู้จินดา ประธานกลุ่มลูกค้าธุรกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด กล่าวว่า การที่ธนาคารพาณิชย์มีการแต่งตั้งตัวแทนธนาคาร หรือ แบงก์กิ้ง เอเย่น ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เนื่องจากจำนวนสาขาของธนาคารจะลดลง ซึ่งการมีแบงก์กิ้ง เอเย่น ช่วยลูกค้าทำธุรกรรมการเงินได้ง่ายขึ้นในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมไร้เงินสดและการทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง อย่างไรก็ตามต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยเช่นกันว่า จะนิยมใช้แบงก์กิ้ง เอเย่น หรือไม่ เพราะลูกค้าบางส่วนยังนิยมการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านทางสาขา ซึ่งคาดว่าในช่วง 3 เดือนนี้ ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จะเริ่มตั้งแบงก์กิ้ง เอเย่น มากขึ้น
สำหรับธนาคารกรุงศรีอยุธยายังไม่มีการแต่งตั้งแบงก์กิ้ง เอเย่น โดยขอศึกษากฎเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยก่อน ซึ่งเห็นว่าเรื่องนี้ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการแต่งตั้งแบงก์กิ้ง เอเย่น ต้องเชื่อมโยงไปกับสาขาของธนาคาร อาจจะเน้นการตั้งแบงก์กิ้ง เอเย่น ในพื้นที่ที่สาขาไปไม่ถึง และมีความต้องการทำธุรกรรมทางการเงินสูง โดยธนาคารเน้นการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนตัวและเงินในบัญชีของลูกค้าเป็นหลัก
นายพรสนอง ยังกล่าวถึงคุณภาพของสินเชื่อในปีนี้ว่า มีแนวโน้มดีขึ้นตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจไทย ที่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวร้อยละ 4 มาจากการลงทุนภาครัฐที่ขยายตัวต่อเนื่อง การลงทุนภาคเอกชนฟื้นตัว และ การส่งออกที่ยังขยายตัวดีเช่นเดียวกับการท่องเที่ยว ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น ส่งผลดีต่อการขยายตัวของสินเชื่อ โดยแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ เอ็นพีแอล น่าจะคลี่คลาย และไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของธนาคารพาณิชย์ เพราะแนวโน้มเอ็นพีแอลไม่น่าจะเพิ่มขึ้นแล้ว ซึ่งเอ็นพีแอลของธนาคารกรุงศรีอยุธยา อยู่ในระดับที่ต่ำสุดของระบบธนาคาร ส่วนสินเชื่อธุรกิจของธนาคารกรุงศรีอยุธยาปีนี้คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 6-8 โดยเน้นในกลุ่มเอสเอ็มอี ทำให้สัดส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอี เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 18-20 จากปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 20 ของสินเชื่อรวม ส่วนเงินฝากโตร้อยละ 6-8.- สำนักข่าวไทย