เชียงใหม่จัดขบวนแห่รถบุปผชาติ

ภูมิภาค 3 ก.พ.61- เมืองเชียงใหม่จัดมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ครั้งที่ 42 พร้อมกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาที่สวยสดงดงาม ท่ามกลางนักท่องเที่ยวจำนวนมาก


เช้าวันนี้ บริเวณเชิงสะพานนวรัฐ หน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่มาเฝ้าชมความสวยงามของขบวนแห่รถบุปผชาติในงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ครั้งที่ 42 หลังจากนายปวิณ ชำนิประศาสตร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ปล่อยลูกโป่งแฟนซี เป็นการเปิดมหกรรม พร้อมกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาที่สวยสดงดงาม โดยขบวนแห่รถบุปผชาติปีนี้ นำมาด้วยขบวนดอกไม้แฟนซี มีนางสาวมารีญา พูนเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ สาวงามขวัญใจคนไทย ที่เข้ารอบ 5 คนสุดท้ายการประกวดมิสยูนิเวิร์ส หรือนางงามจักรวาลปี 2017 ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก

ก่อนที่จะมีขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับรางวัลรถบุปผชาติยอดเยี่ยมประจำปี ซึ่งปีนี้มีขบวนรถบุปผาชาติเข้าร่วม 24 ขบวนและมีการประกวดทั้งประเภทสวยงาม อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและประเภทความคิดสร้างสรรค์ ตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพรรณ ภายใต้แนวคิด “หมื่นแสนมวลบุปผา งามตาทั่วเวียงพิงค์” ซึ่งแต่ละขบวนตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดนับแสนดอก พร้อมกับสาวงามที่นั่งมาบนรถ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวอย่างมาก


โดยขบวนแห่รถบุปผาชาติเคลื่อนขบวนผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ และนำไปจัดแสดงที่สวนสาธารณสวนบกหาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามไปจนถึงวันพรุ่งนี้ ซึ่งในสวนบวกหาดก็ตกแต่งสวนด้วยดอกไม้นานาชนิด โดยเฉพาะทุ่งดอกทิวลิปสีสันสดใส ซึ่งเป็นจุดเด่นของการจัดสวนในปีนี้ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวถ่ายภาพความสวยงามกันเป็นจำนวนมาก คาดว่าตลอดการจัดงานมหกรรมไม้ดอกไม้ประดับเชียงใหม่ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวนับแสนคนและเงินสะพัดหลายร้อยล้านบาท

ขณะเดียวกัน มีการประกวดนางงามบุปผชาตินานาชาติ 2018 ซึ่งมีสาวงามต่างชาติ เข้าร่วมประกวดมากถึง 27 สาวงาม ทั้งจากประเทศจีน สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส อังกฤษ และญี่ปุ่น ซึ่งออกมาเดินโชว์ในชุดพื้นเมืองห่มสไบล้านนา และการประกวดนางงามบุปผชาติ 2561 ซึ่งมีนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ เข้าร่วม เดินโชว์ตัวด้วยชุดพื้นบ้านล้านนา และชุดเดรส ประดับด้วยดอกไม้นานาพรรณอย่างสวยงาม ผลการประกวด หมายเลข 16 นางสาวภัสสร บุษดี อายุ 21 ปี นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ได้ตำแหน่งนางงามบุปผชาติปีนี้ไปครอง

ขณะเดียวกัน ประชาชนและนักท่องเที่ยวยังคงไปชมความงดงามของดอกไม้เมืองหนาวนานาพรรณนับล้านดอก ทั้งดอกทิวลิปกว่า 30,000 ดอก อุโมงค์ดอกไม้ และไม้ดอกอีกหลากหลายสายพันธุ์นับล้านดอก ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่


บุรีรัมย์ประกวดธิดากาชาด 

สีสันประกวดธิดากาชาด ในงาน “กาชาดตลาดเซราะกราวและมหัศจรรย์แห่งไหม” ที่ จ.บุรีรัมย์สวยงามตระการตาไม่แพ้เวทีการประกวดระดับประเทศ ท่ามกลางกองเชียร์ให้กำลังใจคึกคัก สาวงามที่เข้าประกวดต้องมีถิ่นกำเนิดในพื้นที่จังหวัด และประชันความงามด้วยชุดผ้าไหม กระตุ้นส่งเสริมให้คนรุ่นใหม่หันมาสวมใส่ผ้าไทย งานประกวดธิดากาชาดบริเวณโดมสวนรมย์บุรีคึกคักท่ามกลางอากาศเย็นสบาย มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและตัวแทนอำเภอส่งสาวงามประกวดรวมจำนวน 33 คน ผู้เข้าร่วมประกวดแต่ละคนเมื่อสวมใส่ชุดผ้าไหมที่ออกแบบเป็นชุดราตรีในรูปแบบสีสันต่างๆ งดงามไม่แพ้สาวงามเวทีการประกวดระดับประเทศเลยทีเดียว ท่ามกลางบรรยากาศกองเชียร์ที่มาให้กำลังใจบุตรหลานชุมชนของตัวเองที่เข้าร่วมประกวดอย่างคึกคักด้วย  

โดยผู้ชนะการประกวดธิดากาชาดในวันครั้งนี้ ก็จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล และสายสะพายคือ น้องแพตตี้ น.ส.ภัทรวดี จำปีหอม หมายเลข 12 

ล่องเรือชมวังบัวแดง จ.หนองคาย

นักท่องเที่ยวพากันล่องเรือชมดอกบัวแดงที่กำลังบานสะพรั่งสวยงามรับอากาศที่หนาวเย็นยามเช้าในวังบัวแดง ซึ่งขณะนี้ดอกบัวเริ่มขึ้นอย่างหนาแน่นพื้นที่กว่า 2,600 ไร่ ในเขต 2 ตำบลของอำเภอเมืองหนองคาย และกำลังได้รับความนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว เนื่องจากอยู่ห่างตัวเมืองหนองคายเพียง 16 กม.

จากอากาศที่หนาวเย็นได้ส่งผลดีต่อดอกบัวแดงที่วังบัวแดง ได้ออกดอกบานสะพรั่งสวยงามพื้นที่กว่า 2,600 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ในเขต 2 ตำบลปะโค และตำเวียงคุก อ.เมือง จ.หนองคาย ซึ่งช่วงนี้ดอกบัวได้โผล่พ้นน้ำหนาแน่น มีนักท่องเที่ยวที่ไม่มีเวลาในการเดินทางไปท่องเที่ยวไกลๆ แต่อยากสัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม ก็ได้เลือกที่จะเดินทางไปล่องเรือชมดอกบัวแดงในวังบัวแดง ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองหนองคายเพียง 16 กม. เส้นทางก็สะดวกสบายตลอดทั้งสาย ตั้งแต่ตัวเมืองจนถึงวังบัวแดง รถทุกชนิดเดินเข้าไปได้ถึงวังบัวแดงได้เลย และยังมีป้ายแนะนำตลอดเส้นทาง ขณะนี้วังบัวแดงกำลังเป็นที่นิยมของชาวหนองคาย และนักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัสความงามของวังบัวแดงกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในวันหยุดจะมีมากกว่าในวันธรรมดาถึง 2 เท่า

ช่วงนี้ดอกบัวที่วังบัวแดงกำลังขึ้นพื้นน้ำเป็นจำนวนมากหนาแน่นกว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยเฉพาะวังบัวแดงที่อยู่ในเขตของบ้านหนองบ่อ หมู่ 7 ตำบลปะโค มีบัวออกดอกหนาแน่น กว่าบริเวณอื่น ชาวบ้านได้ช่วยกันทำโป๊ะไว้กลางน้ำให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเก็บความสวยงามไว้เป็นที่ระลึก พร้อมมีเรือกว่า 10 ลำไว้บริการให้นักท่องเที่ยวได้ล่องชมบัวแดงอย่างใกล้ชิด เก็บค่าบริการคนละ 50 บาท หรือจะเหมาเป็นลำๆ ละ 200 บาท พาล่องชมวังบัวแดงอย่างจุใจ ใช้เวลาในการล่องเรือกว่า 1 ชั่วโมง มีเสื้อชูชีพป้องกันความปลอดภัยให้สวมใส่ทุกคน

ชมพระอาทิตย์ขึ้นบนหินสามวาฬที่ภูสิงห์ 13 องศาฯ

เช้านี้ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดบึงกาฬ จากสภาพอากาศที่กลับมาหนาวเย็นอีกครั้ง บริเวณหินสามวาฬ เป็นจุดชมวิวที่สวยงามโดดเด่น อยู่ด้านตะวันออกของภายในศูนย์จัดการกลุ่มป่าสงวนที่ 154 ป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู บ้านโนนทรายทอง หมู่ 8 ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ หรือเรียกสั้นๆ ว่า “ภูสิงห์ ” ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดบึงกาฬ

โดยเช้าวันนี้อุณหภูมิที่ยอดภูสิงห์อยู่ที่ 13 องศาประกอบกับมีลมหนาวพัดเข้ามาเบาๆ โดยนักท่องเที่ยวสามารถยืนชมทัศนียภาพของป่าภูวัว ห้วยบังบาตร แก่งสะดอก แม่น้ำโขงและภูเขาเมืองปากกระดิ่งสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว นักท่องเที่ยวจะได้ชมความงดงามของธรรมชาติ ป่าไม้ ภูเขา ผ่านทิวทัศน์สองฝั่งโขงที่สวยงามของจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งตั้งอยู่เหนือสุดของแดนอีสานของประเทศไทย นักเที่ยวหลายคนก็ไม่พลาดที่จะใช้โทรศัพท์มือถือ ถ่ายเซลฟี่กับดวงพระอาทิตย์ และถ่ายภาพครอบครัวและบรรยากาศอันแสนอบอุ่นบนหินสามวาฬ ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นเก็บไว้เป็นที่ระลึกและแชร์ภาพความสวยงามในยามเช้าที่จังหวัดบึงกาฬ ผ่านโซเซียลมีเดียต่างๆ

สกลนครหนาวอีกรอบ ชาวประมงหาปลาลำบาก

สภาพอากาศที่จังหวัดสกลนครพบว่าอากาศหนาวเย็นตลอดสัปดาห์จากหย่อมความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนที่พัดปกคลุมประเทศไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายอำเภอในจังหวัดสกลนคร ประสบปัญหาภัยหนาว โดยอุณหภูมิต่ำสุดเช้าวันนี้วัดได้ 12 อาศาเซลเซียส ยอดภู 8 องศาเซลเซียส ส่งผลให้ชาวประมงในหนองหารไม่สามารถออกไปหาปลาได้ตามปกติ จากสภาพอากาศที่เย็นจัด

ขณะที่สาธารณสุขสกลนครยังคงออกเตือนให้ประชาชนรักษาสุขภาพด้วยการออกกำลังกายรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยหลังพบผู้ป่วยทางเดินหายใจเพิ่มมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ชาวบ้านร่วมวางดอกไม้ไว้อาลัยเหตุกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อ

ศรีสะเกษ 2 ส.ค.-เช้านี้บรรยากาศที่ปั๊มน้ำมันบ้านผือ อ.กันทรลักษ์ เต็มไปด้วยความสลด ชาวบ้านร่วมกิจกรรมวางดอกไม้แสดงความไว้อาลัยผู้เสียชีวิต จากเหตุถูกกัมพูชายิงจรวดใส่ และจับกลุ่มพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆในอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทยอยเดินทางมาที่ปั๊ม ที่ถูกกัมพูชาโจมตีโดยการยิงจรวด BM-21 ใส่ เมื่อวันที่24 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยจรวจตกใส่บริเวณร้านสะดวกซื้อ ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 8 ราย และบาดเจ็บอีก 15 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตมีแม่และลูกวัย 8 ขวบ ชาวบ้านร่วมกันเขียนข้อความแสดงความไว้อาลัย ก่อนร่วมกันนำข้อความพร้อมดอกไม้ชูขึ้น เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ว่าการที่ทหารกัมพูชาโจมตีพื้นที่พลเรือนถือเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม จากนั้นได้รวมกันนำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความไว้อาลัยบริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อที่ถูกกัมพูชายิงจรวดใส่ นอกจากชาวบ้านแล้วยังมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ที่มาร่วม วางดอกไม้ แสดงความไว้อาลัย ตัวแทนชาวบ้านบอกว่า การร่วมวางดอกไม้ในครั้งนี้เพื่อต้องการให้ผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี พร้อมขอประณามกัมพูชา ที่เลือกยิงเป้าหมายเป็นประชาชน ทั้งที่ตำบลเมืองถือเป็นพื้นที่สีเขียว แต่ยังมีกระสุนตกใส่ และการที่เป็นพื้นที่สีเขียว จึงไม่ได้มีการอพยพประชาชน หากตกใส่หมู่บ้าน เชื่อว่าจะมีความสูญเสียเกิดขึ้นมากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

กองทัพบก ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน

กทม. 2 ส.ค.-กองทัพบกบูรณาการทุกภาคส่วน ยกระดับมาตรการรับมือภัยคุกคามจากโดรน หลังพบมีความพยายามบินตรวจการณ์ที่ตั้งทางทหาร ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ได้ออกประกาศ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2568 เรื่องห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือ “โดรน” ที่ควบคุมการบินจากภายนอก, ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน, และทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักรโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาในปัจจุบัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารหรือหน่วยงานด้านความมั่นคงที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจในการใช้ระบบต่อต้านโดรน (Anti-Drone System) รวมถึงสามารถดำเนินการทำลายโดรนจากภาคพื้นดินได้ทันที ในการนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ถึง 4 และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 1 ถึง 4 ดำเนินมาตรการตามแนวทางดังต่อไปนี้ •ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด โดยมีรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ฝ่ายทหาร) เป็นผู้รับผิดชอบในการหารือและประสานการปฏิบัติกับส่วนราชการ หน่วยงาน และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมและวางแผนภาพรวมในการป้องกันและต่อต้านการใช้โดรนไม่ทราบฝ่าย •ให้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัด ตำรวจภูธรจังหวัด หน่วยงานความมั่นคง ภาคเอกชน และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งจัดตั้งชุดเคลื่อนที่เร็ว ประกอบด้วยกำลังจากฝ่ายพลเรือน ตลอดจนตำรวจจากสถานีตำรวจภูธร […]

ไทยตอนบนมีฝนน้อย คลื่นลมมีกำลังอ่อน

กทม. 2 ส.ค.-กรมอุตุฯ รายงานไทยตอนบนมีฝนน้อย คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 20% ของพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนน้อยเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06:00 น. วันนี้ ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และตากอุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ […]

เปิดข้อเสนอสุดท้าย ทีมไทยแลนด์ ต่อรอง “ทรัมป์”

1 ส.ค. – เปิด 10 ข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลภาษีนำเข้าในอัตรา 19% จากที่ก่อนหน้านี้ถูกขู่ว่าจะเก็บสูงถึง 36% นอกจากตัวเลขภาษีนำเข้า สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนต้องการรู้ นั่นก็คือข้อเสนอของทีมไทยแลนด์ ที่นำไปต่อรองกับสหรัฐ จนนำไปสู่การปิดดีลที่ 19% โดยสิ่งที่ไทยยอมแลก 10 ข้อหลักมีดังนี้ เรียกว่า ไทยยอมแลกหลายมิติ ทั้งเปิดตลาดให้สหรัฐ มากขึ้น ยกเว้นภาษีเกือบหมด, เพิ่มการนำเข้า, และร่วมมือด้านความมั่นคง แลกกับการที่ “ภาษีตอบแทน” ที่สหรัฐจะเก็บจากไทย ลดลงจาก 36% เหลือ 19%.-สำนักข่าวไทย