กรุงเทพฯ 30 ม.ค.- รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งกองบัญชาตำรวจนครบาลตรวจสอบสถานบันเทิงในพื้นที่ทั้งหมด พร้อมรายงานผลวันที่ 1 มีนาคม ยอมรับเสี่ยกำพลและภรรยาอาจหลบหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติที่ไม่ผ่าน ตม.
หลังการประชุมร่วมตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับสถานบริการ ที่เกี่ยวเนื่องกับนางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ หุ้นส่วนใหญ่ของสถานบริการวิคตอเรียซีเครท ผู้ต้องหาในฐานร่วมกันค้ามนุษย์ และวางมาตรการดำเนินการกับสถานบริการผิดกฎหมายทั่วประเทศ
พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ได้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการน้ำบาดาล พ.ศ.2520 กับสถานบันเทิงวิคตอเรีย ซีเครท และโคปา คาบาน่าแล้ว ส่วนอีก 3 สถานบันเทิง ประกอบด้วย ลองบีช เดอะลอร์ด และแอมบาสซี่ อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบน้ำโดยละเอียดอีกครั้ง และยังพบสถานบริการฮูหยิน ย่านสะพานสูง วีนัส ย่านปทุมวัน ยูโทเปีย ย่านห้วยขวาง และ ธาราวดีรีสอร์ท ย่านพัฒนาการ ที่ค่านำไฟฟ้าของน้ำเกินค่ามาตรฐาน จึงต้องสงสัยว่าจะมีการลักลอบใช้น้ำบาดาล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนสถานบริการวิคตอเรียซีเครท จะเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่นั้น ล่าสุดจากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบมีแรงงานต่างด้าว 2 กลุ่มใหญ่รวม 10 คน ที่มีนายจ้างคนเดียวกัน โดยเข้ามาทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลหาความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ จึงประสานให้กรมสรรพากร และ ปปง. ตรวจสอบรายได้ย้อนหลัง 10 ปี ของสถานบันเทิงและผู้ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายของศศิธรทั้งหมด พร้อมสั่งการให้กองบัญชาตำรวจนครบาลตรวจสอบสถานบันเทิงทั้งหมดในพื้นที่ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 1 มีนาคม ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติอาคาร พระราชบัญญัติน้ำบาดาล พระราชบัญญัติสิ่งแวดล้อม พระราชบัญญัติสาธารณสุข และพระราชบัญญัติสถานบริการ หรือไม่
สำหรับนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ และ นางนิภา วิระเทพสุภรณ์ หรือธีระตรกูลวัฒนา เจ้าของสถานบริการวิคตอเรียซีเครท ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกรมสอบสวนคดีพิเศษสนธิกำลังจัดชุดติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนที่อยู่ระหว่างการหลบหนี ขณะนี้ยังไม่พบเบาะแสใดๆ แต่หากจับกุมเสี่ยกำพลไม่ได้ก็ไม่กระทบต่อรูปคดี เนื่องจากมีวัตถุพยานอื่นที่ยังสามารถเอาผิดได้ และยอมรับเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหาอาจหลบหนีออกนอกประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติที่ไม่ผ่านตม.-สำนักข่าวไทย