เมืองไทยประกันชีวิตคาดธุรกิจประกันชีวิตปีนี้โตร้อยละ 6 รับกระแสดิจิทัล

ขอนแก่น 24 ม.ค. -เมืองไทยประกันชีวิต คาด ธุรกิจประกันชีวิตปีนี้ยังได้รับความนิยมสูง โตร้อยละ 6  พร้อมปรับตัวรับกระแสดิจิทัล


นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมือง ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  ภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้ คาดว่าขยายตัวร้อยละ  6  โดยยังมีโอกาสเติบโตได้มากในประเทศไทย เนื่องจากคนไทยให้ความสำคัญกับการทำประกันชีวิตมากขึ้น โดยเฉพาะประกันที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและโรคเรื้อรัง ประกอบกับสัดส่วนการทำประกันชีวิตของคนไทยยังต่ำ อยู่ที่ร้อยละ 39 – 40 ของประชากรทั้งหมด ขณะเดียวกันบริษัทประกันชีวิต ได้มีการปรับตัวออกผลิตภัณฑ์ให้ตรงใจกับความต้องการของลูกค้า  และลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนกรมธรรม์ เพิ่มลดสัดส่วนการลงทุน ได้ตามความต้องการ เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสูงขึ้น 

ขณะเดียวกันเชื่อว่าปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวดีกว่าปีก่อน โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตร้อยละ 4.1 สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ดีขึ้นซึ่งจะทำให้ธุรกิจประกันชีวิตมีเสถียรภาพดีขึ้น ขณะที่ผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2560 บริษัทมีเบี้ยรับรวม อยู่ที่ 102,681 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปี 2559  เป็นเบี้ยประกันภัยรับใหม่ 31,066 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยปีต่อไป 71,615 ล้านบาท และถือเป็น 1ใน 2 บริษัทประกันชีวิตที่มีเบี้ยรับรวมทะลุ 100,000 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มในปีนี้ คาดว่าจะทำกำไรมากกว่า 8,300 ล้านบาท 


นายสาระกล่าวด้วยว่า แม้กระแสเงินดิจิทัลจะได้รับความนิยมสูง แต่ทางบริษัทยังไม่มีนโยบายที่จะเข้าไปลงทุนในเงินดิจิทัล รวมทั้งบิทคอยน์ แต่จะมีการปรับการบริหารจัดการในองค์กร โดยมีการแยกสายงานดิจิทัล เพื่อทำงานด้านนี้โดยเฉพาะ พร้อมทั้งมีการนำ เทคโนโลยีบล็อกเชน ,  AI , Internet of Thing เป็นต้นเข้ามาช่วยในการบริการลูกค้า พร้อมกันนี้จะเพิ่มทักษะการทำงานของพนักงาน ให้มีความสามารถรอบด้าน อย่างไรก็ตามบริษัทไม่มีนโยบายในการปลดพนักงาน แต่จะไม่เพิ่มจำนวนพนักงาน หรือหากจะมีการจ้างใหม่ เฉพาะตำแหน่งที่มีความจำเป็นเท่านั้น

“บริษัทเน้นการคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ สู่ลูกค้าในรูปแบบที่เป็น One to One ซึ่งจะเหมาะกับลูกค้าเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น  เดินหน้าสู่การเป็นผู้นำด้านการดูแลสุขภาพครบวงจรใน พัฒนา Platform ที่ทันสมัย” นายสาระ กล่าว

ส่วนแผนงานการขยายธุรกิจไปในประเทศกลุ่มอาเซียน คาดหวังว่าภายในปีนี้จะได้รับใบอนุญาตในประเทศเมียนมาร์ และจะขยายไปยังประเทศ อินโดนีเชีย มาเลเซีย และ ฟิลิปปินส์ โดยเป็นลักษณะการร่วมลงทุนกับพันธมิตร ที่มีความแข็งแกร่ง และมีเน็ตเวิร์คที่มีประสิทธิภาพ.- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ครบ 72 ชม. ตึก สตง.ถล่ม ไม่หยุดค้นหาผู้รอดชีวิต

ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุตึก สตง.พังถล่ม แม้เวลาผ่านมาครบ 72 ชั่วโมงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่้ทุกฝ่ายยังไม่ละความพยายามในการค้นหาผู้รอดชีวิต หวังมีปาฏิหาริย์

นายกฯ สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือนภัย ลั่นยังไม่ได้ SMS แผ่นดินไหว

นายกฯ ลั่น จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับ SMS เตือนแผ่นดินไหว สั่งลดขั้นตอนแจ้งเตือน “กรมอุตุฯ ไป ปภ. เข้าเครือข่ายมือถือ” ไม่ต้องผ่าน กสทช. ระหว่าง รอ Cell Broadcast เต็มระบบ ก.ค.นี้

ปภ.ยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ใช่ผลจากอาฟเตอร์ช็อก

ปภ.แถลงชี้แจงกรณีสถานการณ์อพยพออกจากอาคาร ยืนยันไม่มีความรู้สึกสั่นไหว ไม่ได้เป็นผลกระทบจากอาฟเตอร์ช็อก ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก