เพื่อไทยแถลงยื่นศาลรธน.ตีความคำสั่งคสช.แก้ไขพ.ร.บ.พรรคการเมือง

พรรคเพื่อไทย 17ม.ค.- เพื่อไทย เดินหน้ายื่นศาลรัฐธรรมนูญ บ่ายวันนี้ให้วินิจฉัย คำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ปมแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง ชี้ เป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ริดรอนสิทธิพรรคการเมือง 


คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าวการยื่นคัดค้านคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประเด็นการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง ในคำสั่งที่ 53/2560 รวมถึงท่าทียื่นศาลรัฐธรรมนูญ โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์  รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และ นายภูมิธรรม เวชชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ตามที่หัวหน้า คสช.ออกคำสั่งดังกล่าวมานั้น ถือเป็นปัญหาที่ว่าด้วยความชอบตามรัฐธรรมนูญในหลายประการ และไม่เป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ปี 2557 เป็นเหตุโดยชอบที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของคำสั่งดังกล่าวว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ 

รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ นั้น โดยเฉพาะพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ประกาศใช้และลงราชกิจจานุเบกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเป็นหน้าที่ของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ต้องเป็นผู้ดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ดังนั้นการที่หัวหน้า คสช.ออกคำสั่งแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเท่ากับเป็นการลบล้างกระบวนการตรากฎหมายตามรัฐธรรมนูญ 


พล.ต.ท.วิโรจน์  กล่าวว่า การออกคำสั่งที่มีผลเป็นการลบล้างสมาชิกภาพของสมาชิกพรรคการเมือง มิใช่การออกกฎหมายจำกัดสิทธิเท่านั้น แต่เป็นการยกเลิกสิทธิของการเป็นสมาชิกพรรค จึงกระทบต่อสาระสำคัญของสิทธิเสรีภาพของบุคคลและยังเป็นการเพิ่มภาระแก่สมาชิก ขัดต่อหลักนิติธรรมตามรัฐธรรมนูญ 

ด้านนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ได้มอบอำนาจให้คณะทำงานและทนายของพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ตรวจการแผ่นดิน การที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจ คสช.ในการออกคำสั่งชอบด้วยกฎหมายนั้น ตนเห็นว่า การจะทำให้คำสั่งชอบด้วยกฎหมาย ก็ต้องให้ชอบด้วยรัฐธรรมนูญด้วย 

นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากพรรคเพื่อไทยเดินหน้ายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ในกฎหมายฉบับนี้ยังคงบังคับใช้อยู่ จะเป็นเรื่องยากต่อพรรคการเมืองในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เพราะมีข้อจำกัดบางอย่างที่ขึ้นอยู่กับความพอใจของ คสช.ว่าจะปลดล็อกเมื่อใด  ภารกิจของคสช. คือการสร้างความปรองดอง แต่คำสั่งคสช.ที่53/60 ดังกล่าวกลับสร้างความขัดแย้ง และเป็นการสร้างปัญหาใหม่แทนที่จะแก้ปัญหาเดิม คล้ายกับการเกาไม่ถูกที่คัน จึงเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบตามรัฐธรรมนูญ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม