ธ.ก.ส. เดินหน้าสนองนโยบายตลาดนำการผลิต


เชียงราย 7 ม.ค.- ธ.ก.ส.
เดินหน้าสนองนโยบายตลาดนำการผลิต  ผลักดัน
SMART FARMER  หวังสร้างชุมชน 7,927 แห่งให้เป็น เศรษฐกิจชุมชน
อุดมสุข
”  
พร้อมเตรียมวงเงิน 9.5 หมื่นล้านบาท เสนอ
ครม.ช่วยเหลือรายย่อยเฟส 2 อังคารนี้


 นายอภิรมย์
สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)
เปิดเผยว่า 
จากแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย สำหรับผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ
3.9 ล้านราย เป็นลูกค้าของ ธ.ก.ส. 2.6 ล้านราย กระทรวงคลังจึงเตรียมเสนอ
ครม.พิจารณาในวันอังคารนี้ 
ใช้วงเงินสินเชื่อเพื่อสนับสนุนนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยวงเงิน
30,000 ล้านบาท  และการแก้ไขหนี้นอกระบบ
20,000 ล้านบาท  รวมทั้งหมด  95,000 ล้านบาท  โดยจะส่งเจ้าหน้าที่
ธ.ก.ส.ลงพื้นที่สอบถามความต้องการอาชีพ โดยมีเมนูอาชีพให้เลือกหลากหลาย ดังนั้น ก่อนฝึกอาชีพให้รายย่อย
จึงไม่อยากให้กังวลเรื่องปัญหาหนี้สิน จึงใช้มีแนวทางแกปัญหาหนี้นอกระบบ
จากนั้นจะมี มาตรการในการพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ จึงเตรียมเรียกประชุมผู้จัดการสาขาทั่วประเทศ
เพื่อซักซ้อมความเข้าใจดำเนินนโยบาย 12 ม.ค.นี้ เพื่อเริ่มแผนทันทีในเดือนมกราคม  

รวมทั้งเตรียมเสนอบอร์ด ธ.ก.ส.
ปรับโครงสร้างองค์กร ตั้งสำนักท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้
ธ.ก.ส.พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชนกระจายทุก 77 จังหวัดทั่วประเทศ
เพื่อส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สินค้าชุมชน
แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ตลอดจนการผลักดันหัวขบวนที่ประสบผลสำเร็จในชุมชน
มาช่วยสร้างเครือข่ายจากรายย่อย เพื่อสร้างให้เป็น ชุมชน
เศรษฐกิจชุมชน
อุดมสุข
7,927 แห่ง
ในช่วง 4 ปีข้างหน้าทั่วประเทศ เห็นได้จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกาแฟดอยช้าง
ซึ่งเป็นตัวอย่างดูแลชุมชนในทุกมิติ ทั้งการส่งเสริมปลูกกาแฟคุณภาพ
ตั้งมูลนิธิดูแลสวัสดิการคนในชุมชน ตั้ง
Academy ส่งเสริมความรู้ให้กับลูกหลานต่อยอดธุรกิจ
เพื่อให้มีกิจการของตนเอง จนสร้างเงินทุนหมุนเวียนจากกาแฟถึง  3,000 ล้านบาทต่อปี
ธ.ก.ส.ให้สินเชื่อไปแล้วกว่า 700 ล้านบาท และยังส่งเสริมชาวบ้านปลูกป่าเพิ่ม 2
ล้านไร่ในพื้น นับเป็นชุมชนตัวอย่างในการพัฒนา

ธ.ก.ส.ยังเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาตลาดประชารัฐสีเขียว
จากปัจจุบันมีอยู่ 147 แห่ง จะเพิ่มอีก 131 แห่งในปี 61 เพราะได้สร้างเงินหมุนเวียนเกิดขึ้นในตลาด
ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว อย่างเช่น จ.เชียงราย
ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีนโยบาย
อาหารปลอดภัย เชียงรายเป็นสุขจึงมุ่งสร้างตลาดประชารัฐเพิ่มขึ้นหลายแห่ง
เมื่อผลิตสินค้าปลอดภัยได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า จนสามารถส่งสินค้าท้องถิ่นไปยังจังหวัดต่างๆมากกมาย
เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และแผนการดำเนินงาน ปีบัญชี 2561 (1เมษายน 2561 – 31
มีนาคม 2562) เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย การเป็น
ศูนย์กลางทางการเงินภาคการเกษตรและภาคชนบท (
Rural Universal Bank)  ทั้งการเพิ่มขีดความสามารถภาคเกษตรไทย  ผ่านการพัฒนาทายาทเกษตรกร (Smart Farmer)  การยกระดับเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยให้หลุดพ้นความยากจน
สร้างภูมิคุ้มกันให้เกษตรกร การพัฒนาบริการทางการเงินครบวงจรและทันสมัย
ผ่านช่องทางดิจิทัล ให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี (
Disruptive Technology)   การเชื่อมโยงตลาดผลิตภัณฑ์การเกษตรและแผนงานให้ความรู้คู่การพัฒนาชุมชนเพื่อสร้างเสริมชุมชนเข้มแข็ง
และยกระดับสู่ชุมชนอุดมสุข


นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ
ธ.ก.ส.  เปิดเผยว่า คาดว่าสิ้นปีบัญชี 60
จะปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 86,000 ล้านบาท กำหนดแผนในปี 61
ปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้น 93,000 ล้านบาท 
สินเชื่อจำนวน 1.46 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 93,000 ล้านบาท ยอดเงินฝาก 1.51
ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 57,500 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการ 4,800 ล้านบาท
อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (
NPLs) ไม่เกินร้อยละ 4  คุณภาพชีวิตเกษตรกรดีขึ้น 85% กำไรสุทธิ 8,099
ล้านบาท   โดย ธ.ก.ส.
คิดดอกเบี้ยเงินกู้ผ่านระบบ
MRR  สำหรับลูกค้ารายย่อยต่ำที่สุดในระบบธนาคาร  ปัจจุบัน MRR ร้อยละ 7
เมื่อได้ลดภาระให้ลูกค้าเกษตรกรที่ชำระดีต่อเนื่อง สินเชื่อไม่เกิน 3 แสนบาทต่อราย
จำนวน 2.3 ล้านราย ช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ร้อยละ 30
ทำให้คิดดอกเบี้ยจากเกษตรกรจากร้อยละ 7 หักออกอีกร้อยละ 2.1 จะเหลือร้อยละ 4.9
จึงมีลูกค้าดอกเบี้ยต่ำกว่าร้อยละ 7 สูงถึง 5 แสนล้านบาท 

จากผลการดำเนินงาน 9 เดือน ของปีบัญชี 2560 (1
เมษายน
31 ธันวาคม
2560)ว่า  สามารถปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบ  438
,000 ล้านบาท
จึงมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 1.317 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.16 สินทรัพย์รวม  1.693 ล้านล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ  4.7 
ยอดเงินฝากรวม 1.426  ล้านบาท
เพิ่มขึ้นร้อยละ  1.4  คาดว่าทั้งปี 60 มีกำไรสุทธิ 9
,000 ล้านบาท
เพราะไม่ได้มุ่งเน้นแสวงหากำไรแต่ต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อการดำเนินกิจการ  ส่วนยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (
NPLs) ร้อยละ 5.54
ของสินเชื่อรวม ซึ่งมีแนวโน้มลดต่ำลง 
คาดว่าสิ้นปีบัญชี (31 มีนาคม 2561)
NPLs จะต่ำกว่าร้อยละ 4  สัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ร้อยละ 12.18
สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดร้อยละ 8.50.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]