ภูมิภาค 2 ม.ค.-ภาพการจราจรบนถนนสายเอเชียช่วงปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ปริมาณรถยังติดขัดสลับหยุดนิ่ง ส่วนช่วง จ.พระนครศรีอยุธยา รถยังหนาแน่น
สภาพการจราจรช่วงกลางคืนบนถนนสายหลัก สายเอเชียช่วงผ่านตัวเมืองนครสวรรค์ ปรากฏว่าปริมาณรถยังคงหนาแน่นทั้งถนนสาย 117 และ 112 ที่มาจากจังหวัดพิษณุโลก และกำแพงเพชร ช่วงบริเวณสี่แยกสะพานเดชาติวงศ์ ผ่านตัวเมืองนครสวรรค์ ปริมาณรถหนาแน่นมากไม่สามารถใช้ความเร็วได้ ตำรวจต้องเปิดสัญณาณไฟจราจรผ่านตลอด เพื่อระบายรถไม่ให้ติดสะสมบริเวณตัวเมือง เนื่องจากกลัวท้ายแถวจะติดยาวไปถึงสะพานข้ามไปพิษณุโลก
อย่างไรก็ตามแม้ว่าตำรวจจราจรจะเปิดสะพานเดชาติวงศ์ขาล่องเพิ่ม แต่ยังไม่สามารถรองรับสภาพการจราจรได้ เนื่องจากยิ่งดึกปริมาณรถยิ่งหนาแน่น ตำรวจจราจร สภ.เมืองนครสวรรค์คาดการณ์ว่าจะมีรถหนาแน่นอย่างนี้เรื่อยไปจนถึงเช้าพรุ่งนี้ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่เลือกจะเดินทางกลับไปทำงานไป กทม.ช่วงเช้ามืด เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหารถติดบนถนนสายหลัก
ส่วนสภาพการจราจรบนถนนสายเลี่ยงเมือง ที่เดินทางมาจากตลาดหนองเบน มาร่วมถนนสายเอเชียช่วงตำบลกลางแดด อำเภอโกรกพระ สภาพการจราจรก็ติดขัดเช่นกัน เนื่องจากมีการปรับปรุงผิวจราจร ตำรวจและอาสาสมัครต้องประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้รถระมัดระวังและจอดพักรถตามจุดจอดรถตลอดเส้ยทางหวั่นเกิดอันตรายได้
การจราจรบนถนนสายเอเชีย ฝั่งขาล่อง ช่วงทางต่างระดับ อ.เมือง จ.ชัยนาท แม้มีรถหนาแน่น แต่คล่องตัว และไม่ติดขัดเหมือนกับในช่วงบ่าย โดยรถสามารถใช้ความเร็วได้ 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 121 อ.สรรพยา รถมีชะลอตัวบ้างเล็กน้อย แต่ยังเคลื่อนตัวได้ต่อเนื่องขณะที่ถนนสาย 340 ชัยนาท-สุพรรณบุรี อีกหนึ่งเส้นทางเข้าสู่กรุงเทพฯ การจราจรไม่หนาแน่น สามารถใช้ความเร็ว 70-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถนนสายเอเชีย รถยังแน่น การจราจรคับคั่ง เมื่อเวลา 19.00 น. ผู้สื่อข่าวออกสำรวจสภาพการจราจรบนถนนสายเอเชีย ขาออกจากกรุงเทพฯ ช่วงผ่าน อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริเวณหลักกิโลเมตร ที่ 25 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ามีปริมาณรถเพิ่มมากขึ้นเต็มทุกช่องการจราจร ทำให้เกิดการชะลอตัวช่วงลงจากสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก รถชะลอตัวเลี้ยวเข้าออก จากอำเภอนครหลวง ความเร็วได้ประมาณ 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนเฝ้าระวังบนถนนเส้นทางหลักทุกเส้นทางที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการหยุดยาว ประชาชนจะแห่เดินทางกลับเข้ามาทำงานตามปกติเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการติดตามผลของการเกิดอุบัติเหตุผลว่า เกิดจากการความอ่อนล้า หลังจากที่ขับมาเป็นเวลานาน โดยคาดว่ารถจะสะสมเพิ่มขึ้นที่บริเวณทางต่างระดับบางปะอิน และในเวลาหลังเที่ยงคืนปริมาณรถที่มุ่งสู่กรุงเทพฯ จะลดปริมาณ.-สำนักข่าวไทย