“พล.อ.วิทวัส” เตรียมใช้กฎหมายผู้ตรวจฯ ฉบับใหม่กับ ทอท.

กรุงเทพฯ 31 ธ.ค.-“พล.อ.วิทวัส” เปิดซิงกฎหมายผู้ตรวจการแผ่นดินใหม่กับ ทอท. เตรียมส่ง ป.ป.ช.เอาผิด ปมผูกขาดธุรกิจสินค้าปลอดอากร – อาหารในสนามบินราคาสูง


พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รักษาการประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า พอใจการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดินในรอบปี 2560 ที่ผ่านมา เพราะมีความสำเร็จในหลายเรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.ที่ อำเภอโคกไทย จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งได้รับความร่วมมือจากงสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) และหน่วยงานในพื้นที่ แต่มีอีกหลายเรื่องที่ไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ เช่น การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่ปัจจุบันใช้เส้นทางขนส่งมอร์เตอร์เวย์ในการขนส่งสินค้าไปยังท่าเรือแหลมฉบัง-มาบตาพุด ที่วันธรรมดาก็มีความหนาแน่ของการจราจรอยู่แล้ว การขนส่งอาจจะทำได้ไม่ทันเวลา จึงให้กระทรวงคมนาคมไปพิจารณาให้แน่นอนว่าการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกที่มีการเจริญเติบโตสูง จะแก้ปัญหาอย่างไร ซึ่งยังคงรอคำตอบจากกระทรวงคมนาคม

พล.อ.วิทวัส กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าในสนามบินของบริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งผู้ตรวจฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและมีหนังสือแจ้งขอให้แก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากถูกร้องเรียนว่ามีการขายอาหารและเครื่องดื่มในราคาสูง แต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมือและรู้สึกว่าไม่ได้ยึดถือผลประโยชน์ของประชาชนเท่าที่ควร รวมถึงการผู้ขาดธุรกิจสินค้าปลอดอากร โดยพยายามที่จะปกป้องผลประโยชน์ของเอกชนมากเกินสมควร ทั้งที่หลังจากประชาชนซื้อสินค้าแล้วจะต้องปฎิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายศุลกากร รวมทั้ง ทอท.ไม่มีอำนาจที่จะผูกขาดธุรกิจสินค้าปลอดอากร แต่ที่ผ่านมาเรามีหนังสือให้ไปแก้ไข ก็พยายามบ่ายเบี่ยง ซึ่งผู้ตรวจฯ เห็นว่า ทอท.ควรเปิดให้ธุรกิจสินค้าปลอดอากรเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขัน และตั้งอยู่ภายนอกท่าอากาศยาน เมื่อนักท่องเที่ยวซื้อสินค้าแล้ว และไปรับสินค้าในท่าอากาศยานได้ ทอท.จึงควรเปิดพื้นที่ในท่าอากาศยานให้มีจุดรับสินค้า ซึ่งในเรื่องนี้ไม่ได้เป็นการไปขอหรือเบียดบังพื้นที่ของเจ้าของสัปทานเดิม โดยเรื่องนี้ได้หารือกับศุลการกรแล้วก็พร้อมที่จะส่งเจ้าหน้าที่มาทำหน้าที่ตรวจและส่งสินค้าให้นักท่องเที่ยง เพียงแต่ ทอท.ไม่เปิดพื้นที่ให้ ทั้งนี้หากทำสำเร็จจะมีรายได้ และเป็นส่งเสริมให้มีการแข่งขัน


“เชื่อว่าการเปิดพื้นที่และการเปิดให้มีการแข่งขันธุรกิจสินค้าปลอดอาการ จะไม่กระทบต่อธุรกิจสินค้าปลอดอากรรายเดิมที่เป็นเจ้าใหญ่ เพราะบริษัทเกิดใหม่คงจะสู้รายใหญ่เดิมไม่ได้อยู่แล้ว  แต่จะทำให้รัฐมีรายได้ และมีผู้ประกอบการรายใหม่เพิ่มขึ้น เราสามารถขายสินค้าได้ทั่วประเทศ นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายและมีทางเลือกมากขึ้น” พล.อ.วิทวัส กล่าว

พล.อ.วิทวัส กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีรัฐธรรมนูญใหม่ และ  พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดินมีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งได้มีการกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจฯ ให้มีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้สามารถเอาผิดหน่วยงานของรัฐที่ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชน โดยสามารถสอบวินัยและส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการ ดังนั้นกรณี ทอท. ผู้ตรวจฯ จะทำหนังสือเพื่อให้ ทอท.เร่งดำเนินการแก้ปัญหา แต่หากไม่มีการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้คำวินิจฉัยมีสภาพบังคับ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจฯ ฉบับใหม่กำหนด ผู้ตรวจฯ ก็สามารถส่งเรื่องไปให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ขณะเดียวกันจะทำรายงานเสนอไปยัง สนช. และเปิดเผยให้ประชาชนทราบ ซึ่งถือว่าเป็นการทำให้เกิดโซเชียลแซงชั่น

พล.อ.วิทวัส กล่าวด้วยว่า การที่ พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจฯ ฉบับใหม่กำหนดให้คำวินิจฉัยของผู้ตรวจฯ มีสภาพบังคับ ทางผู้ตรวจฯ ไม่ได้ต้องการที่จะนำไปสู่การดำเนินการทางวินัยกับหน่วยงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ปฎิบัติตามคำวินิจฉัย เราอยากเห็นการขี้แจงและแก้ไขมากกว่า ซึ่งก็ได้ให้นโยบายกับเลขาฯ สำนักงานผู้ตรวจฯ ว่าหลังกฎหมายใช้บังคับขอให้มีการจัดประชุมร่วมกันหน่วยราชการ เพื่อที่จะทำความเข้าใจว่าหลังจากที่ผู้ตรวจฯ มีคำวินิจฉัยในเรื่องใดแล้ว หน่วยงานนั้นจะมีขั้นตอนในการทำตามคำวินิจฉัยอย่างไร เพราะถ้าไม่ทำแล้วประชาชนไปร้องว่าหน่วยราชการไม่ทำตาม หน่วยงานนั้นก็จะต้องถูกดำเนินการในทางกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีข้อดีที่ให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอแก้ไขขั้นตอนในระบบราชการที่เห็นว่ามีปัญหา ซึ่งถือว่าเป็นการบูรณาการการแก้ไขปัญหาระหว่างหน่วยงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน


“การใช้อำนาจ เราใช้อย่างระมัดระะวัง ไม่ได้ทำตามกระแสการเมือง เรายึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ผมเชื่อว่าเมื่อเราทำงานโดยปราศจาคอคติ และองค์กรมีความมั่นคงในการใช้ดุลยพินิจ เราก็จะได้รับความร่วมมือจากประชาชน” พล.อ.วิทวัส กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย