fbpx

ศาลชั้นต้นจำคุกตลอดชีวิตผู้ต้องหาฆ่า 3 ศพชลบุรี พี่เลี้ยงสาว-เด็กลูกครึ่ง

ชลบุรี 27 ธ.ค.- ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตลอดชีวิตผู้ต้องหาข่มขืนฆ่าพี่เลี้ยงสาววัย 18 ปี กับ2 หนูน้อยพี่น้องลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ในบ้านพักย่านชลบุรี เมื่อปี 57


วันนี้ (27 ธ.ค.) ห้องพิจารณาคดีที่ 11  ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี  ได้อ่านคำพิพากษาศาลชั้นต้นในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายประจักษ์ มาแสวง จำเลย ก่อเหตุข่มขืนแล้วฆ่าหญิง อายุ 18 ปี พี่เลี้ยงของเด็กชายพี่น้องลูกครึ่งไทย-อเมริกัน อายุ 7 ปี กับ 2 ปี ซึ่งถูกผู้ต้องหาฆ่าด้วยเช่นกันรวม 3 ศพ ภายในบ้านพักซอยบุญสัมพันธ์ หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อเช้าวันที่ 11 ม.ค.57 และขโมยทรัพย์สินหลบหนีไป 

ศาลได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนารวม 3 กระทง โทษแต่ละกระทงประหารชีวิต, ความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกต่อการพาทรัพย์ไป มีโทษจำคุก 6 ปี และความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเรา โทษจำคุก 6 ปี แต่จำเลยให้การรับสารภาพซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดีของศาล จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง โดยความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ความผิดฐานลักทรัพย์ฯ จำคุก 3 ปี ส่วนความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราลงโทษจำคุก 3 ปี รวมแล้วพิพากษาให้ลงโทษจำเลยคือจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียว จากนั้นเจ้าหน้าที่ศาลจังหวัดพัทยาได้นำตัวผู้ต้องหากลับไปคุมขัง เพื่อส่งตัวเข้าเรือนจำ


ด้านญาติของผู้เสียชีวิตที่มาฟังคำพิพากษาวันนี้ กล่าวว่า เป็นไปตามการพิจารณาตัดสินของศาล และเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งผู้ทำผิดย่อมได้รับผลกรรม

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าสะเทือนใจประชาชนอย่างมาก เนื่องจากเด็กทั้งสองอยู่ในชุดฮีโร่ที่เตรียมไปเที่ยวงานวันเด็ก และ พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี (ขณะนั้น) กำชับให้ตำรวจ สภ.หนองปรือ ระดมกำลังเร่งตามจับฆาตกรให้เร็วที่สุด เพราะกระทำการอย่างโหดเหี้ยม และการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาก่อนถูกนำตัวไปแผน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบภัย

“นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณทุกหน่วยงานระดมช่วยผู้ประสบอุทกภัย หวัง ศปช.รับมือ-ช่วยเหลือรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงการเยียวยาหลังจากนี้

ฟื้นฟูชายแดนแม่สาย-เร่งกู้ตลาดสายลมจอย

เจ้าหน้าที่เร่งฟื้นฟูชุมชนชายแดนแม่สายที่ถูกน้ำท่วมและจมโคลนมานาน 10 วัน รวมทั้งเร่งกู้ตลาดสายลมจอยแหล่งจำหน่ายสินค้าชายแดนที่เสียหายอย่างหนัก

ฆ่ารัดคอขับโบลท์

รวบ “ไอ้แม็ก” ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ พบเคยถูกจับคดีโหด

จับแล้ว “ไอ้แม็ก” เดนคุก ฆ่ารัดคอหญิงขับโบลท์ ทิ้งร่างอำพราง ริมถนนห้วยพลู จ.นครปฐม ก่อนเอารถไปขาย สอบประวัติ พบเพิ่งพ้นโทษ คดีล่ามโซ่ล่วงละเมิดเด็กวัย 13 ปี นาน 1 สัปดาห์ เมื่อปี 2553