สนช. ถกเข้ม ค้านเพิ่มอำนาจป.ป.ช.ล้วงข้อมูล หวั่นเป็นภัยทางการเมือง

 รัฐสภา 21 ธ.ค.- สนช. ค้านเพิ่มอำนาจป.ป.ช.ล้วงข้อมูลดักฟังโทรศัพท์ หวั่นเป็นภัยทางการเมือง หยิบมาทำลายคู่ต่อสู่ทางการเมืองในอนาคต ขณะที่ กรรมาธิการเสียงข้างมากยืนตามที่เสนอ ยันไม่ได้มุ่งทำร้ายใคร มีกระบวนการตรวจสอบก่อนบังคับใช้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)วันนี้ (21 ธ.ค.) พิจารณาร่างพระพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งร่างกฎหมายนี้มี 193 มาตรา กรรมาธิการฯ แก้ไขไป 99 มาตรา เพิ่ม 14 มาตรา และตัดออก 6 มาตรา

สมาชิกสนช.อภิปรายรายมาตราตั้งแต่ในส่วนคำปรารภ ขอให้ตัดมาตรา36ต่อเนื่องไปถึงมาตรา 37 ประเด็นที่กรรมาธิการปรับแก้เพิ่มอำนาจ ให้ กรรมการป.ป.ช. ล้วงข้อมูล ดักฟังโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ ผู้ที่ส่อทุจริตโดยเห็นควรให้ทบทวน


นายสมชาย แสวงการ สนช. อภิปรายตั้งแต่คำปรารภ ยกเว้นเรื่องการจำกัดสิทธิเสรีภาพ ต้องไม่ขัดกับหลักรัฐธรรมนูญ และขอให้ตัดตั้งแต่มาตรา 36 ต่อเนื่องมาตรา 37 โดยเฉพาะเรื่อง อำนาจในการตรวจสอบข้อมูล ในกรณีมีเหตุอันควรควรเชื่อได้ว่าข้อความใดที่ส่งทางไปรษณีย์ หรือส่งทางอิเล็กทรอนิกส์เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.สามารถขออนุญาตให้ได้มาซึ่งข้อมูลข่าวสารดังกล่าว ซึ่งเป็นการการให้อำนาจในการดักฟัง ดักรับข้อมูล เป็นเสมือนดาบสองคม หากไปอยู่ในมือคนไม่ดี จะเป็นอันตราย ทั้งนี้เห็นว่าในอดีตการทำงานของป.ป.ช.ในคดีสำคัญ ๆ เช่นคดีจำนำข้าว ก็ไม่ได้อำนาจในส่วนนี้ ก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ผู้ถูกร้องถูกกล่าวหาว่ากระทำการทุจริต และเจ้าพนักงานไปไต่สวน และกรณีนี้จะเป็นภัยทางการเมืองสำหรับทุกคน 

“หากป.ป.ช.ท่านขออำนาจศาลตรวจสอบนักการเมืองข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เพื่อตรวจสอบเรื่องทุจริต แต่ท่านอาจไปเจอเรื่องอื่นด้วยในการไปดักฟัง ซึ่งข้อเท็จจริงเคยมีการแบล็คเมล์เกิดขึ้นมากมายไปหมด อำนาจนี้จะกลับมาเล่นงานคนที่อยู่ในฝ่ายบริสุทธิืทั้งหมด เพราะแค่สงสัย ก็สามารถร้องขอตรวจสอบได้ ซึ่งจะนำไปสู่ภัยทางการเมืองของทุกคน”นายสมชาย กล่าว 

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. ขอความชัดเจนก่อนตัดสินใจว่า กรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า และคณะกรรมการต้องขออนุมัติจากอธิบดีศาลอาญา และต้องขอข้อมูลจากป.ป.ง.ใช่หรือไม่ 


พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม  สนช. ตั้งข้อสังเกตว่า หากป.ป.ช.ที่ร่วมเป็นกรรมาธิการลงมติเพิ่มอำนาจเรื่องดังกล่าวจะถือว่า ผลประโยชน์ขัดแย้งต่อการทำหน้าที่ของป.ป.ช.ได้

นายตวง อันทะไชย สนช. อภิปรายโดยยกมาตรา 26 ของรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้การตรากฎหมายต้องไม่มีผลต่อการจำกัดสิทธิเกินควรกว่าเหตุ  เพื่อให้กรรมาธิการทบทวน เพราะเกรงว่าอาจมีการหยิบยกข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมืองในอนาคต พร้อมกังวลการที่ระบุว่ามีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าทุจริตเป็นเรื่องของการใช้ดุลยพินิจซึ่งสามารถพิจารณาทางหนึ่งทางใด และนำไปสู่การกลั่นแกล้่งทางการเมืองได้ และที่ผ่านมาในเคยมีอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งใช้กฎหมายลักษณะนี้ ที่เป็นบทบัญญัติในป.ป.ง. มาทำลายกันทางการเมือง

พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ประธานคณะกรรมาธิการฯชี้แจงว่าการเพิ่มมาตราดังกล่าว เพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ที่จะต้องมีหลักฐานอ้างในศาลได้ เพราะแม้ได้ผลมาแล้ว แต่ถ้าไม่มีที่มาที่ไป ศาลก็ไม่รับฟัง ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใคร และก่อนที่จะมีการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเหล่านั้นได้ จะต้องขออนุมัติจากศาลก่อน 

นายวิชา มหาคุณ กรรมาธิการเสียงข้างน้อย และอดีตกรรมการป.ป.ช.กล่าวว่า การใช้กฎหมายต่างๆในการตรวจสอบ ล้วนเป็นไปตามสนธิสัญญาการต่อต้านการทุจริต แต่ถ้าให้อำนาจป.ป.ช.มากเกินไปอาจจะกระทบกระเทือนเสถียรภาพขององค์กรได้ และถือเป็นการบั่นทอนอำนาจของรัฐ และประเด็นนี้ถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหวที่สุด เพราะที่ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศหนึ่งที่ดำเนินการในเรื่องการเข้าถึงข้อมูลแบบนี้ และเขียนไว้ในกฎหมายที่ไม่ได้ขออนุญาตศาลและอัยการ เพราะเมื่อข้อมูลไปถึงศาลแล้วหลุด ไม่เป็นที่ไว้วางใจ จึงจะเห็นว่าขนาดองค์กรที่มีอยู่แล้วยังไม่ไว้วางใจองค์กรซึ่งกันและกัน จึงอยากให้พิจารณาด้วยความรอบคอบ ไม่เช่นนั้น “ดาบนั้นจะคืนสนอง”ได้

พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานป.ป.ช. และกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า การพูดว่าดักฟังทำให้คนหลงประเด็น เพราะสิ่งที่กมธ.เสียงข้างมากเสนอนั้นมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ซึ่งป.ป.ช.ไม่ได้จ้องจะไปดักฟังคนอื่น เพราะต้องมีการกล่าวหา ตามบทบัญญัติของกฎหมาย โดยต้องผ่านมติป.ป.ช.ก่อน และต้องส่งความเห็นไปขออธิบดีศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ว่าจะอนุญาตหรือไม่ รวมทั้งต้องเป็นฐานความผิด จะใช้เฉพาะคดีที่สำคัญและกระทบกับอย่างกว้างขวาง ต้องพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็นเท่านั้น หากป.ป.ช.ไม่รอบคอบปล่อยให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ ป.ป.ช.จะต้องถูกดำเนินการ เพราะมีบทบัญญัติของการตรวจสอบอำนาจของป.ป.ช.อยู่แล้ว และปัจจุบันมีรัฐภาคีอนุสัญญา UNCAC ที่ได้อนุวัติตามสนธิสัญญาถึง 80 ประเทศที่ใช้วิธีสอบสวนวิธีพิเศษในลักษณะนี้ ซึ่งหากไทยไม่มีบทบัญญัตเช่นนี้ อาจจะถูกประเมินในเรื่องของการป้องกันเรื่องทุจริต และหากถูกประเมินต่ำ ก็จะมีปัญหาตามมา นอกจากนี้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144วรรคท้ายบอกให้ป.ป.ช.สอบสวนทางลับโดยพลัน กรธ.จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการทำงาน

“ถ้าท่านไม่ให้โอกาสเราเข้าสู่ข้อมูลข่าวสาร อย่าพูดว่าดักฟังครับ มันแสลงใจท่านผมและท่านทุกคน มันแค่ไลน์เองครับ แต่มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล เราไม่สามารถไปบอกบริษัทซึ่งเป็นผู้ให้บริการเพื่อขอข้อมูลมาตรวจสอบได้ ถ้าไม่มีกฎหมายให้อำนาจ เพราะเขาจะละเมิดสิทธิของท่าน คณะกรรมการป.ป.ช.ไม่มีเจตนารมณ์ใดที่จะไปละเมิดสิทธิของพี่น้องประชาชน แต่เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อจะเอาให้คนทุจริต ประพฤติมิชอบกระทำผิดตามฐานกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ ซึ่งสองปีที่ผ่านมาเราได้เร่งรัดเร่งรีบจนกระทั่งคนลาออกไปหลายคน เพราะสู้งานไม่ไหว กลัวจะบกพร่องและกรอบเวลาที่กรธ.กำหนด เราก็คิด เราก็ทำ เราออกระเบียบก่อนด้วยซ้ำ แต่ท่านไม่ใช่คนปฏิบัติ จึงไม่ค่อยเข้าใจ เราจึงต้องชี้แจงเหตุผล ถ้าท่านไม่ให้โอกาสวันนี้ แล้วให้ป.ป.ช.ทำงานเหมือนเดิม แต่บอกว่าเป็นมิติใหม่ ผมก็อยากจะฟังว่ามาตรา 144 ที่ให้สอบสวนทางลับโดยพลัน หลายความว่าอย่างไร”พล.ต.อ.วัชรพล กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาชิกยังคงมีการอภิรายในประเด็นนี้กันอย่างกว้างขวาง และมีข้อเสนอให้กรรมาธิการเสียงข้างมาก นำมาตรานี้ ไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้กระทบกับสิทธิของประชาชน ประธานในที่ประชุมจึงสั่งพักการประชุม 10 นาที หลังจากนั้นประธานได้แจ้งว่า ระหว่างพักการประชุม ได้มีการหารือกันระหว่างกรรมาธิการเสียงข้างมาก กรรมาธิการเสียงข้างน้อย และวิป สนช. แต่กรรมาธิการเสียงข้างมาก ยังคงยืนยันที่จะคงบทบัญญัติดังกล่าวไว้ และขอชี้แจงในข้อสงสัยที่สมาชิกอภิปรายมาและยังไม่ได้ตอบบางส่วน จึงเห็นว่าให้เลื่อนการประชุมไปประชุมต่อพรุ่งนี้ 09.00 น..-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน”

พญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน” ยอมรับช็อกลูกสาวถูกปล่อยคลิป ชี้ไม่มีการรบ เผยผลประโยชน์สีเทาจุดแตกหัก “ฮุน เซน” เชื่อปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถึงขั้นสงคราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “55 ปี NATION : ผ่าทางตันประเทศไทย” Chapter 3 บก. ถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดำเนินรายการโดย 3 บก. บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นระบุจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ปะทุขึ้นสู่สาธารณะมาจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และฮุน เซน โดย ดร.ทักษิณ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เดิมทีมีการนัดหมายให้นายกฯ แพทองธาร สนทนากับฮุน เซน ผ่านการประสานงานของ “พี่ฮวด” โดยมีรัฐมนตรีคนสำคัญร่วมรับฟังด้วย ทั้งนายภูมิธรรม […]

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]

Thai police at the house of Kok An’s daughter in Bangkok

กัมพูชายืนยัน “ก๊ก อาน” ไม่เกี่ยวแก๊งฉ้อโกง

พนมเปญ 9 ก.ค. – ทางการกัมพูชาปฏิเสธว่า นายก๊ก อาน คนสนิทของนายฮุน เซน ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และกาสิโน ขณะที่นายฮุน เซน ท้าให้ทางการไทยสอบสวน “ทักษิณ” ด้วย เพราะมีความใกล้ชิดกับเขาเช่นกัน เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ ไทม์ส ของกัมพูชา รายงานว่า หน่วยงานตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล ในกัมพูชา ยืนยันว่า ทั้งอินเตอร์โพลและทางการกัมพูชาไม่ได้รับการแจ้งจากทางการไทยเกี่ยวกับการออกหมายจับนายก๊ก อาน สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.กัมพูชา ซึ่งเป็นคนสนิทของนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โดยไทยระบุว่า นายก๊ก อาน เป็นผู้ต้องสงสัยพัวพันกับแก๊งฉ้อโกงออนไลน์ที่ปฏิบัติการอยู่ในอาคารที่นายก๊ก อาน เป็นเจ้าของในเมืองปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจย พ.ต.อ.ตู๊ด โบรา รองผู้บัญชาการอินเตอร์โพลกัมพูชา กล่าวว่า นับตั้งแต่มีรายงานของสื่อไทยเรื่องศาลไทยออกหมายจับนายก๊ก อาน จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหนังสือขอความร่วมมือจากทางการไทย ทั้งที่ตามปกติแล้วเมื่อประเทศใดในภูมิภาคมีข้อมูลเกี่ยวกับอาชญากรที่หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศอื่น หน่วยงานตำรวจสากลในประเทศนั้นจะต้องส่งหนังสือแจ้งไปยังทางการอีกประเทศหนึ่งเพื่อขอความร่วมมือในการจับกุมผู้ต้องสงสัย ดังนั้น เขาจึงไม่เชื่อรายงานข่าวดังกล่าวของสื่อไทย ด้านนายเจีย ธีริธ โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลกัมพูชา ยืนยันว่า […]