สนว.ส่งชิ้นเนื้อ ‘น้องเมย’ให้ รพ.รามาฯ ตรวจหาดีเอ็นเอ

ก.ยุติธรรม 14 ธ.ค.-สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ส่งชิ้นเนื้อ ‘น้องเมย’ ให้โรงพยาบาลรามาฯ ตรวจหาดีเอ็นเอ หลังตรวจ 3 ครั้งไม่เจอผล

นายสมณ์ พรหมรส ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ (สนว.) เปิดเผยถึงกรณีที่ครอบครัวของนายภคพงศ์  ตัญกาญจน์  หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 นำชิ้นส่วนอวัยวะมาให้สถาบันฯตรวจชันสูตรซ้ำรอบที่2 และทางสถาบันได้นำผลมอบให้ครอบครัวน้องเมยไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8ธ.ค.) ว่า รายงานผลการชันสูตร จะแบ่งออกเป็น 2 ชุด ชุดแรก เป็นผลจากการตรวจแผลภายนอกและภายในร่างกายน้องเมย  โดยผลได้ส่งไปให้ครอบครัวน้องเมยแล้ว ส่วนผลนั้นไม่สามารถแจ้งต่อสื่อมวลชนได้ เพราะเป็นข้อตกลงของครอบครัว และอาจมีผลต่อรูปคดี

สำหรับผลในส่วนที่ 2 คือการตรวจชิ้นอวัยวะเพื่อหาดีเอนเอว่าใช่ชิ้นส่วนอวัยวะของน้องเมยจริงหรือไม่ ในส่วนที่ 2 ยอมรับว่าทางนิติวิทยาศาสตร์ได้ทำการสกัดชิ้นเนื้อตรวจแล้วถึง 3 ครั้ง ไม่สามารถสกัดหาดีเอนเอได้ แต่เพื่อความแน่ใจ จึงให้โรงพยาบาลรามาธิบดีตรวจหาดีเอ็นเอ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อขอให้ยืนยันผลว่าไม่สามารถตรวจได้จริง ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งกลับมาว่าจะต้องใช้เวลาตรวจ 1-2 เดือนแต่ได้แจ้งแล้วขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

“เราไม่ขอยืนยันว่าเราเก่งที่สุดแต่ทำเต็มที่แล้ว ตรวจ 3ครั้งก็ยังไม่สามารถตรวจได้ แต่เพื่อความชัวร์จะส่งต่อให้รามาฯตรวจซ้ำอีกรอบว่าไม่สามารถตรวจได้จริง ที่ตรวจหาไม่ได้ไม่เกี่ยวกับปัญหาภายใน และไม่เกี่ยวกับเรื่องน้ำยาตรวจที่เป็นข่าวว่าขาด ยืนยันเป็นเรื่องของเทคนิคจึงทำให้ไม่สามารถตรวจหาผลได้”นายสมณ์ กล่าว

ส่วนสาเหตุไม่สามารถสกัดดีเอ็นเอจากชิ้นส่วนวะได้แม้จะดำเนินถึง 3 ครั้งแล้วเพราะโดยสถิติทางทฤษฎีการตรวจสกัดชิ้นเนื้อหาดีเอ็นเอ 10 ครั้ง จะได้ผล 2ครั้งหรือคิดเป็นร้อยละ 20 แต่ในเคสนี้ไม่โชคดี จึงไม่สามารถตรวจได้ ส่วนหนึ่งเชื่อว่า เป็นผลมาจากการที่ชิ้นส่วนอวัยวะถูกแช่น้ำยาฟอร์มาลีนนานกว่า 1เดือน ปกติการแช่แค่ 4-5 ชั่วโมงก็มีผลต่อโปรตีนในชิ้นเนื้อ แต่ในกรณีนี้ถูกแช่มานานกว่า 1 เดือนจึงไม่สามารถตรวจเจอ

ทั้งนี้ในส่วนการชันสูตรซ้ำรอบที่ 2ก่อนหน้านี้เคยแจ้งว่าจะเชิญผู้เชี่ยวชาญ จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ,ศิริราช และรามาธิบดีมาร่วมชันสูตรด้วยนั้น ในช่วงที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีแค่ตัวแทนจาก โรงพยาบาลรามาธิาดีเท่านั้นที่สถาบันนิติฯเชิญเข้าร่วม อีก 2 โรงพยาบาลได้ประสานไปแล้วในช่วงแรก  แต่ติดปัญหาเรื่องความไม่สะดวกในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องระยะเวลาทำงาน เพราะเรื่องนี้ต้องการความเร่งรีบ จึงอาจไม่สะดวกที่ร่วมทำงาน.-สำนักข่าวไทย