กรุงเทพฯ 10 ธ.ค. -นายกรศิษฏ์ ภัคโชตานนท์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รับไม่ได้ ข้อกล่าวหาลอยๆเรื่องทุจริตซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินอินโดนีเซีย ท้า”พิชัย นริพทะพันธุ์” อดีต รมว. พลังงานหาหลักฐานหากไม่มีขอให้กราบขอโทษผู้บริหาร EGATi
นายกรศิษฏ์ กล่าวถึง กรณี นายพิชัย นริพทะพันธุ์” อดีต รมว. พลังงาน ออกมาระบุว่าการเข้าซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินในประเทศอินโดนีเซีย โดย กฟผ.อินเตอร์เนชั่นแนล(EGATi) อาจะมีปัญหาทุจริตนั้น ก็ขอท้าให้นายพิชัยหาข้อเท็จจริงมาพิสูจน์ และหากพบว่าไม่เป็นจริงก็ขอให้นายพิชัยกราบขอโทษผู้บริหารของ กฟผ.อินเตอร์ด้วย ซึ่งการเข้าลงทุนเป็นไปอย่างโปร่งใสและผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากภาครัฐ ซึ่งผ่านทั้ง บอร์ด EGATi บอร์ด กฟผ. คณะกรรมการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ ครม. ซึ่งเข้มงวดตรวจสอบรัดกุมมากกว่าเอกชนเสียอีก
“โครงการนี้ทั้งสุนชัย คำนูณเศรษฐ์อดีต ผู้ว่าการ กฟผ. นายวัชรา เหมรัชตานันต์ ผู้บริหาร EGATi ตั้งใจและเหนื่อยยากในการเจราจาโครงการให้เกิดขึ้น การตั้งข้อสังเกตของนายพิชัย เรื่องอาจะมีปัญหาทุจริต ถือว่าเป็นการกล่าวหาอย่างร้ายแรง อยากให้มีข้อพิสูจน์ ไม่ใช่กล่าวว่ากันลอยๆและถ้าพิสูจน์ไม่ได้ นายพิชัย ก็ควรจะกราบขอโทษทั้งสองท่านนี้” นายกรศิษฏ์กล่าว
ทั้งนี้ การประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 25 ตุลาคม 2559 มีมติ อนุมัติให้ EGATi เข้าไปซื้อหุ้นบริษัท Adaro Indonesia (AI) เหมืองถ่านหิน ในประเทศอินโดนีเซีย ในสัดส่วนร้อยละ 11-12 มูลค่าการลงทุนรวม 325 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.17 หมื่นล้านบาท แบ่งจ่ายเงินลงทุนเป็นสองส่วน ส่วนแรกจ่ายในปี 2559 จำนวน 164 ล้านเหรียญสหรัฐ เงินลงทุนจำนวนดังกล่าวมาจากการเพิ่มทุนของ กฟผ. และส่วนที่เหลือจำนวน 161 ล้านเหรียญสหรัฐ จะทยอยจ่ายในปี 2565-2570 โดยใช้เงินลงทุนจากเงินปันผลที่ EGATi ได้รับ
โดยก่อนหน้านี้ นายวัชรา เหมรัชตานันต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGATiระบุว่า AI เป็นเจ้าของแหล่งถ่านหินประเภทซับบิทูมินัส ที่มีคุณภาพดี มีแบรนด์การค้าที่มีชื่อเสียงทั่วโลกว่า Envirocoal และมีลูกค้ากว่า 12 ประเทศทั่วโลก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฮ่องกง สเปน เป็นต้น ข้อมูลปี 2558 มีปริมาณถ่านหินสำรองมากเป็นอันดับที่ 3 และผลิตถ่านหินได้เป็นอันดับ 2 ของประเทศอินโดนีเซีย และสามารถสร้างกำไรได้อย่างต่อเนื่องแม้ในช่วงที่ถ่านหินมีราคาตกต่ำ
นายวัชรา ระบุว่าการลงทุนดังกล่าว เป็นไปตามกลยุทธ์การลงทุนของ EGATi ในฐานะที่ EGATi เป็นบริษัทลูกของ กฟผ. ที่ กฟผ. ถือหุ้นร้อยเปอร์เซนต์ เพื่อเป็นตัวแทน กฟผ. ลงทุนในโครงการที่เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า และธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อการจัดหาพลังงานไฟฟ้าส่งเข้าประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงของระบบพลังงานไฟฟ้าไทย ซึ่งที่ผ่านมา EGATi ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลเวียดนามให้ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกวางจิ 1 มีขนาดกำลังผลิต 1,320 เมกะวัตต์ มีกำหนดแล้วเสร็จจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในช่วงระหว่างปี 2565-2566 ดังนั้นการเตรียมความพร้อมเรื่องของเชื้อเพลิงจึงเป็นสิ่งจำเป็น เมื่อรัฐบาลอนุมัติให้ EGATi ลงทุนในบริษัท AI ได้ จึงเป็นการลดความเสี่ยงด้านการจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้ากวางจิ 1 จะสามารถทำให้ดำเนินการได้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าว จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัท และลดการพึ่งพาเงินลงทุนของ กฟผ. ในอนาคต การลงทุนในบริษัท AI จะทำให้บริษัทมีสินทรัพย์ สามารถรับรู้รายได้ ทำให้สามารถระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจได้ด้วยตัวเองในอนาคต ซึ่งเป็นการลดภาระการลงทุนของ กฟผ
“การเข้าไปลงทุนในเหมืองถ่านหินขณะนี้ ยังเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากถ่านหินมีราคาต่ำลง และจากการคาดการณ์ในอนาคต ภูมิภาคอาเซียน หรือ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะมีการเติบโตของการใช้ถ่านหิน ซึ่งในขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกยังคงมีแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้น เช่น อินโดนีเซีย 35,000 เมกะวัตต์ และเวียดนาม 55,000 เมกะวัตต์ เป็นต้น จะทำให้บริษัทสามารถสร้างผลกำไรจากการขายถ่านหินให้กับโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ได้ และในอนาคตยังอาจสามารถขายให้ กฟผ. ได้ด้วย โดยผ่านกระบวนการซื้อจ้างตามระเบียบการซื้อจ้างของ กฟผ. ซึ่งเป็นการประมูลในระดับนานาชาติ อย่างโปร่งใส และเป็นธรรมทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย แต่อย่างไรก็ตาม ณ เวลานั้น บริษัทอาจจะมีกำลังผลิตถ่านหินเหลือไม่พอที่จะเข้าร่วมประมูลก็เป็นไปได้” นายวัชราระบุ -สำนักข่าวไทย