กรมทางหลวงชนบท 13 ต.ค.-กรมทางหลวงชนบทเตรียมความพร้อมของแนวคันกั้นน้ำที่อยู่บนโครงข่ายทางหลวงชนบท โดยเฉพาะจุดเสี่ยงที่จะมีน้ำหลากข้ามคันกั้นน้ำบริเวณจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังน้ำเอ่อล้นตลิ่ง จำนวน 23 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี สระบุรี
นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบทหรือทช. เปิดเผยว่า เนื่องจากมวลน้ำที่หลากมาจากทางภาคเหนือตอนล่างมีปริมาณสูงขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่เลียบคลองชลประทาน ทช.จึงได้ตรวจสอบการเตรียมความพร้อมของแนวคันกั้นน้ำที่อยู่บนโครงข่ายทางหลวงชนบท ตลอดจนการป้องกันในจุดที่มีความเสี่ยงที่จะมีน้ำหลากข้ามคันกั้นน้ำโดยเฉพาะบริเวณที่เคยเป็นจุดทรุดตัวเมื่อฤดูแล้งปีที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และนครปฐม ซึ่งได้สั่งการให้แขวงทางหลวงชนบทติดตามเฝ้าระวังในพื้นที่ เตรียมความพร้อมให้สามารถรับมือกับระดับน้ำที่สูงขึ้นและรายงานให้ส่วนกลางรับทราบ โดยเฉพาะคลองระพีพัฒน์ คลอง 13 และคลองพระยาบันลือ ที่ปัจจุบันมีระดับน้ำสูงมากขึ้นเป็นลำดับ
สำหรับการแก้ไขในระยะเร่งด่วน ทช.ได้มีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันไม่ให้น้ำหลากข้ามบริเวณจุดที่มีการทรุดตัว หากคาดว่าจะมีแนวโน้มทำให้เกิดน้ำท่วมข้ามคันป้องกัน ทช.ก็สามารถเข้าไปดำเนินการป้องกันเป็นการชั่วคราวได้ทันท่วงที โดยในเบื้องต้น ทช.ได้นำเครื่องจักรกล เข้าดำเนินการในพื้นที่ เพื่อปรับเกลี่ยจุดที่ทรุดตัว อาทิ รถเกรด รถบด รถตัก รถน้ำ รถแบคโฮ จากสำนักงานทางหลวงชนบทและแขวงทางหลวงชนบท โดยรอบ 9 หน่วย เพื่อให้ประชาชนสามารถสัญจรได้ก่อน รวมถึงการปั้นคันเพื่อป้องกันน้ำท่วม โดยนำวัสดุหินคลุกกว่า 5,000 ลูกบาศก์เมตร เข้าไปเสริมยกระดับขึ้นและทำการปรับปรุงสภาพผิวการจราจรบริเวณจุดเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังน้ำเอ่อล้นตลิ่ง จำนวน 23 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี สระบุรี เพื่อให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวเดินทางได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
ส่วนการแก้ไขในระยะยาว ทช.ได้ของบประมาณซ่อมแซมคันทางที่เกิดการทรุดตัว โดยแบ่งเป็น ระยะที่ 1 งบประมาณปี 2560 เป็นเงิน 232.48 ล้านบาท จำนวน 29 จุด ระยะทาง 2.673 คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม 2560 ระยะที่ 2 กรมจะดำเนินการของบเหลือจ่ายปี 2560 จำนวน 986.45 ล้านบาท จำนวน 59 จุด ระยะทาง 9.740 กิโลเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2560
“เบื้องต้นขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางโปรดระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนนเป็นพิเศษโดยเฉพาะพื้นที่ที่มีน้ำขึ้นสูง และโปรดสังเกตป้ายจราจรเตือนระดับน้ำหรือป้ายหลีกเลี่ยงเส้นทาง ทั้งนี้ ท่านผู้ใช้เส้นทางสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมหรือแจ้งเหตุอุทกภัยได้ที่ สายด่วนทางหลวงชนบท 1146”อธิบดีกรมทางหลวงชนบทกล่าว-สำนักข่าวไทย