ภูมิภาค 27 พ.ย.-สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคใต้ยังไม่คลี่คลาย ล่าสุด จ.ยะลา และสงขลา มีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมแล้วจังหวัดละ 1 คน
ที่พัทลุง สถานการณ์น้ำท่วมยังน่าเป็นห่วง ฝนที่ตกสะสม และน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดใน อ.ตะโหมด หลากท่วม อ.เขาชัยสน และบางแก้ว ชาวบ้านกว่า 50 ครัวเรือน ต้องขนย้ายสิ่งของ เตรียมพร้อมปักหลักนอนริมถนนสายเพชรเกษม เพราะน้ำทะลักท่วมบ้านสูง ขณะที่ชลประทานพัทลุงติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 14 ตัว พื้นที่รอยต่อ อ.เมืองพัทลุง และ อ.ควนขนุน เพื่อเร่งระบายน้ำลงทะเลสาบสงขลา ล่าสุด จังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว 11 อำเภอ
ส่วนที่ตรัง มีน้ำท่วมขังใน อ.รัษฎา ห้วยยอด ปะเหลียน นาโยง และ อ.เมือง โดยบางแห่งน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ถนนบางจุดยุบตัว โดยเฉพาะบริเวณถนนหน้าที่ว่าการอำเภอรัษฎา และ สภ.รัษฎา มีน้ำท่วมขัง 10-40 เซนติเมตร ขณะที่พื้นที่หมู่ที่ 6 ต.นาท่ามใต้ อำเภอเมือง กระแสน้ำได้กัดเซาะคอสะพานชำรุดเสียหาย
และฝนที่ตกลงมาติดต่อกันถึง 2 วัน ส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำปัตตานีและสายบุรีทะลักเข้าท่วมตัวเมืองยะลา บางจุดระดับน้ำสูงถึงเมตรครึ่ง มีชาวบ้าน 1 คน ถูกน้ำป่าพัดเสียชีวิตขณะออกไปหาปลา ส่วนตลาดมะพร้าว ตลาดนัดสินค้ามือสองที่ใหญ่ที่สุด พ่อค้าแม่ค้าต้องหยุดขายของ เพราะถนน ร้านค้า และสินค้าถูกน้ำท่วมเสียหายเกือบหมด
นอกจากนี้ ที่ อ.เบตง ยังมีดินที่อุ้มน้ำไม่ไหว สไลด์ทับกำแพงบ้านประชาชนจนพังถล่มไปทับหลังคาโรงอาหารโรงเรียนธีรวิทยาพังเสียหาย โชคดีไม่มีใครบาดเจ็บ
แม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ล้นตลิ่ง ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านใน อ.แว้ง สุไหงโก-ลก และตากใบ สูง 30-60 เซนติเมตร ขณะที่น้ำป่าเทือกเขาบูโด สุไหงปาดี ใน อ.บาเจาะ ไหลบ่าลงมา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติต้องสั่งปิดน้ำตกปาโจ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
สงขลาเกิดน้ำท่วมหนักสุดในรอบปี มีพื้นที่ประสบภัยแล้ว 6 อำเภอ โรงเรียน 18 แห่งต้องปิดการเรียนการสอน ส่วนชาวบ้านในชุมชนบ้านกลาง อ.หาดใหญ่ ขนของหนีน้ำป่าไม่ทัน ต้องปล่อยทรัพย์สินให้จมน้ำเสียหาย รวมถึงมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คน จากการถูกกระแสน้ำพัดพาไป ขณะที่น้ำในคลองอู่ตะเภาได้กัดเซาะคอสะพานข้ามคลองอู่ตะเภาที่เชื่อมต่อตำบลบ้านพรุ อ.หาดใหญ่ และ ต.ทุ่งลาน อ.คลองหอยโข่ง จนเกือบขาด
ทั้งนี้ ปภ.เตือน 12 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไปจนถึงวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ พร้อมประสานจังหวัด และศูนย์ ปภ.ในพื้นที่เสี่ยงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย