ยธ.สอบทีมรื้อคดี ‘ครูจอมทรัพย์’

ก.ยุติธรรม 27พ.ย.-คกก.สอบข้อเท็จจริงรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ เตรียมซักเจ้าหน้าที่ทีมช่วยเหลือสัปดาห์หน้า ยันไม่มีธงต้องพบคนผิด เน้นปรับปรุงระบบรับเรื่องร้องทุกข์  ด้านปลัดยธ.ให้เวลาทำงาน30วัน พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจ


นายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการ สำนักกิจการยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการรับรื้อฟื้นคดีให้กับนางจอมทรัพย์ ศรีบุญหอม หรือแสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู จังหวัดสกลนครว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เรียกประชุมคณะกรรมการเพื่อหาแนวทางการตรวจสอบ และทำหนังสือแจ้งไปยังผู้เกี่ยวข้องให้รวบรวมข้อมูลเตรียมนำ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเชิญเจ้าหน้าที่ทุกรายที่เกี่ยวข้องกับการรื้อฟื้นคดีให้นางจอมทรัพย์เข้าให้ข้อมูลและตอบข้อซักถาม  โดยจะตรวจสอบย้อนหลัง  ตั้งแต่ขั้นตอนของการรับเรื่องร้องทุกข์  การรวบรวมพยานหลักฐาน การยื่นคำร้องขอให้ศาลรื้อฟื้นคดีและคำพิพากษายกคำร้อง นอกจากนี้ จะนำข้อมูลทั้งหมดที่มีการนำเสนอผ่านสื่อมาประกอบการพิจารณาด้วย ยืนยันว่าคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบไม่ได้ตั้งธงว่าจะต้องพบคนผิด แต่ต้องการปรับปรุงระบบการรับเรื่องร้องทุกข์เพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีอาญา 


ด้านนายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า หากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบประเด็นใดที่เกี่ยวข้อง และมีพยานหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งในส่วนการตรวจสอบจะแบ่งเป็น 2 ส่วน เรื่องแรกเป็นเรื่องทางคดีอาญา อำนาจการสอบสวนจะเป็นของพนักงานสอบสวน ที่คาดว่าจะมีการประสานเป็นหนังสือเข้ามา ทางกระทรวงยุติธรรมก็พร้อมให้ความร่วมมือ 

ส่วนเรื่องการตรวจสอบทางวินัยนั้น คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ของกระทรวงยุติธรรม ก็อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ซึ่งตนเองให้กรอบการทำงาน 30 วัน ให้แล้วเสร็จ แล้วให้รายงานเข้ามา ว่ามีบุคคลใด ในกระทรวงยุติธรรมเกี่ยวข้องบ้างหรือไม่


แหล่งข่าวเปิดเผยว่า วันนี้พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดที่ลงพื้นที่ช่วยรื้อฟื้นคดีให้กับนางจอมทรัพย์ เพื่อตรวจสอบข้อมูลในการลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือและเตรียมข้อมูลสำหรับชี้แจงกับกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะการเบิกงบประมาณที่ใช้ช่วยรื้อฟื้นคดี ประมาณ 8 หมื่นบาท ส่วนรายละเอียดในการช่วยเหลือจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ม.ค.2560 ที่นางจอมทรัพย์พ้นโทษออกจากเรือนจำและมาขอบคุณศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้ฯ กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าวศาลอุทธรณ์อนุญาตให้รื้อฟื้อคดีอาญาแล้ว รอการไต่สวนพยาน โดยชุดทำงานของพ.ต.อ.ดุษฎี มีเวลาประมาณ 20 วันในการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสภาพรถยนต์ของนางจอมทรัพย์ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญ เพราะรถของนางจอมทรัพย์มีสีบอรนซ์ทอง แต่สภาพรถจักรยานของผู้ตายกลับมีสีเขียวไปติดอยู่ใน 3 ตำแหน่ง ทำให้คดีมีข้อสงสัยว่าสีเขียวอาจเป็นสีของแผ่นป้ายทะเบียนที่หลุดไปติดกับจักรยานขณะเฉี่ยวชน 

ส่วนกรณีที่ตำรวจจะออกหมายเรียกข้าราชการดีเอสไอในฐานะผู้ต้องสงสัยสมคบในขบวนการให้การเท็จ ก็จำเป็นต้องให้ตำรวจสอบสวนไปจนสุดทาง โดยกระทรวงยุติธรรมได้ยืนยันมาว่า เมื่อตรวจสอบพบว่านายสัป วาปี และนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง ให้การเท็จ โดยการสอบสวนไม่ผ่านเครื่องจับเท็จ กระทรวงยุติธรรมได้ขอตัดพยานทั้ง 2 ปาก ไม่นำขึ้นเบิกความและได้แจ้งให้พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น อดีตจเรตำรวจแห่งชาติ รับทราบแล้ว 

ด้านแหล่งข่าวจากดีเอสไอ เปิดเผยว่า ข้าราชการดีเอสไอทั้ง 7 คน ที่อยู่ในกลุ่มอาจถูกตำรวจออกหมายเรียกในคดีสมคบกับขบวนการของครูจอมทรัพย์ เป็นชุดที่กระทรวงยุติธรรมขอตัวไปช่วยราชการหน้าห้องรองปลัด กระทรวง ส่วนนายนิธิต ภูริคุปต์ อดีต ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ได้ลงพื้นที่ไปรับเรื่องร้องทุกข์และตรวจสอบข้อเท็จจริงเพียงครั้งเดียว ส่วนที่เหลือเป็นความรับผิดชอบของทีมงานหน้าห้องรองปลัดกระทรวงยุติธรรมทั้งสิ้น โดยงบประมาณที่นำไปช่วยเหลือก็ไม่ได้เบิกจ่ายจากดีเอสไอ ไม่ว่าจะเป็นงบคุ้มครองพยานหรือค่าจ้างทนายความ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน