สพฐ.22 พ.ย.-สพฐ.เตรียมตั้งคณะกรรมสอบวินัยอดีตผอ.สพม.เขต 38 เหตุทำผิดวินัย บรรจุเเต่งตั้งข้ามขั้นตอน ด้าน ก.ค.ศ. พร้อมหาช่องทางกฎหมายช่วยให้กลับเป็นครู หากข้อเท็จจริงระบุว่าครูทั้ง2 คนเป็นผู้ทรงสิทธิ์
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.)ว่า ที่ประชุมได้มีการพูดคุย ผลการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณี น.ส.วนาลี ทุนมาก(ครูแอน) และน.ส.นิราวัลย์ เชื้อบุญมี(ครูวัลย์) 2 ครูสาวที่ถูกปลดจากครูผู้ช่วย โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม จ.ตาก หลังจากสอนได้ 5 เดือน เนื่องจากการดำเนินการบรรจุแต่งตั้งไม่ถูกต้องตามขั้นตอน โดยจากข้อมูลเบื้องต้น พบว่า นายมรกต กลัดสะอาด อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 38 สุโขทัย-ตาก ทำผิดวินัยเพราะดำเนินการบรรจุเเต่งตั้งข้ามขั้นตอนเเละมีการออกบัตรข้าราชการไม่ชอบธรรม เพราะบัตรข้าราชการต้องออกหลังมีคำสั่งแต่งตั้งแล้วเท่านั้น ดังนั้นหลังจากนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัดจะต้องไปตั้งกรรมการสอบสวนวินัยต่อไป
ขณะเดียวกัน พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษารมว.ศธ. ได้รายงานผลการลงพื้นที่สืบข้อเท็จจริง โดยได้พูดคุยกับพ่อแม่ของทั้ง 2 คนพบว่า ครอบครัวมีฐานะยากจน ดังนั้น คงไม่มีเงินไปจ่ายเพื่อให้ลูกได้รับราชการ ทั้งนี้ต้องเข้าใจก่อนว่าครูทั้ง 2คน ยังไม่ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการ ดังนั้นก.ค.ศ.จึงไม่สามารถพิจารณาข้อร้องเรียนได้ แต่ก.ค.ศ.ก็ยินดีจะช่วย หลังได้ข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ยังได้รับข้อเท็จจริงไม่ครบถ้วน
ด้านนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการ ก.ค.ศ. กล่าวว่า ขณะนี้ทั้ง 4 หน่วยงาน คือ สพม.38 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.)2 สุโขทัย คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) สุโขทัย และ กศจ.ตาก ส่งข้อมูลที่ทาง ก.ค.ศ.ขอมาแล้ว แต่ยังไม่ครบถ้วน ยังขาดข้อมูลสำคัญในบางเรื่อง เช่น หนังสือเรียกตัวให้มารายงานตัวซึ่งบางลำดับที่ก็ยังไม่มีเอกสารส่งมา โดยต้องดูให้ตรงว่าเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดหรือไม่เพราะโดยหลักการต้องมีหนังสือเรียกตัวก่อนบัญชีหมดอายุ 10 วัน
ส่วนการช่วยบรรจุทั้ง 2คนเป็นข้าราชการครูนั้น ต้องดูให้เป็นไปตามกฎหมาย และดูด้วยว่ามีการเรียกบรรจุข้ามสิทธิกันหรือไม่ หากทั้ง 2 คนเป็นผู้ทรงสิทธิ์ก็สามารถเสนอคณะกรรมการก.ค.ศ.ให้พิจารณาได้ .-สำนักข่าวไทย
