สำนักข่าวไทย 19 พ.ย.- เลขาก.ค.ศ.ขอดูคำพิพากษาครูจอมทรัพย์ว่าคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ ขอกลับรับราชการครูหรือไม่ ชี้อายุเกิน อาจไม่เข้าเกณฑ์ เเต่หากเเสดงความจำเป็น บอร์ดก.ค.ศ.อาจพิจารณาใหม่ ด้านคุรุสภาชี้ คำสั่งศาลไม่มีผลต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยถึงกรณีที่ครูจอมทรัพย์ เเสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครูจ.สกลนคร หลังศาลฎีกามีคำสั่งยกคำร้องรื้อคดีขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ในส่วนของการกลับมารับราชการครูว่า เบื้องต้นตนยังไม่ได้อ่านรายละเอียดคำพิพากษาของครูจอมทรัพย์ว่าเป็นอย่างไร จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่าครูมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์หรือไม่ เเต่กระบวนการการขอกลับมาเป็นครูนั้น ครูจอมทรัพย์ต้องไปยื่นเรื่องที่โรงเรียนที่ตนประสงค์ หลังจากนั้นโรงเรียนจะยื่นคำร้องไปยังเขตพื้นที่การศึกษา โดยเขตพื้นที่จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของก.ค.ศ. ถ้าเป็นไปตามหลักเกณฑ์ คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดก็จะเป็นผู้อนุมัติ เเต่หากไม่เป็นตามหลักเกณฑ์ ซึ่งเบื้องต้นครูอายุ 55 ปี เกินหลักเกณฑ์การขอกลับรับราชการที่กำหนดให้ไม่เกิน 50 ปี เเต่หากเเสดงเหตุผลถึงความจำเป็นในการเป็นครู ก.ค.ศ.อาจจะต้องพิจารณาอีกครั้ง เเต่ผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยขององค์คณะในที่ประชุมก.ค.ศ.
ด้านนายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ในส่วนของใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่คุรุสภาออกให้ครูจอมทรัพย์นั้น เเม้คำสั่งศาลจะยืนตามศาลชั้นต้นก็ไม่มีผลในการยกเลิกในประกอบวิชาชีพ เพราะพิจารณาเเล้วว่า ความผิดโดยประมาทไม่เข้าลักษณะต้องห้ามในทางจรรยาบรรณวิชาชีพ.-สำนักข่าวไทย