กรุงเทพฯ 15 พ.ย. – ธนาคารซิตี้แบงก์คาดมาตรการ QE ใกล้เป็นศูนย์สิ้นปี 61 แนะนักลงทุนกระจายพอร์ตการลงทุน ลดความเสี่ยง
นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย คาดว่า มาตรการอัดฉีดเงินในภาพรวมของโลก หรือ QE จะทยอยลดลงอย่างต่อเนื่องจนใกล้เป็นศูนย์สิ้นปี 2561 โดยมาตรการอัดฉีดเงินของสหรัฐปรับลดลงแล้ว ขณะที่ญี่ปุ่นและยุโรปยังคงเป็นบวกแต่ทยอยลดลงเช่นกัน ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยนั้น ขณะนี้มีทิศทางขาขึ้น โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยตามสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นสำคัญ ซึ่งจะส่งผลต่อการลงทุน นักวิเคราะห์ซิตี้แบงก์เชื่อว่ายังมีโอกาสสำหรับนักลงทุน โดยการลงทุนควรให้น้ำหนักไปที่ตลาดเกิดใหม่และตลาดตราสารทุนกลุ่มยูโรโซน พร้อมแนะนำนักลงทุนควรรักษาผลกำไร โดยการปรับสมดุลและกระจายพอร์ตการลงทุนช่วงไตรมาส 4 ปีนี้
สำหรับสถานการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปี 2561 นายดอน กล่าวว่า ซิตี้แบงก์คาดว่าจะขยายตัวจากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้โตร้อยละ 3.1 เป็นร้อยละ 3.4 ซึ่งเศรษฐกิจไทยจะได้รับประโยชน์ด้วย โดยคาดว่าจีดีพีประเทศไทยจะสามารถขยายตัวในระดับร้อยละ 3.7 ปีนี้ ขณะที่ผลประกอบการภาพรวมทั้งโลกคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 9
ทั้งนี้ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย จับมือบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนแฟรงคลิน เทมเพิลตัน เปิดตัว 6 กองทุนต่างประเทศ ประกอบด้วย 3 กองทุนแรกในชื่อ กองทุนกลุ่ม “NextStep Series” ประกอบด้วย กองทุน Franklin NextStep Stable Growth Fund กองทุน Franklin NextStep Balanced Growth Fund และกองทุน Franklin NextStep Dynamic Growth Fund โดยทั้ง 3 เป็นกองทุนมัลติแอสเซทเน้นลงทุนในตราสารทุน ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ทางเลือกทั่วโลก และอีก 3 กองทุน ได้แก่ กองทุน Templeton Emerging Market Smaller Companies Fund กองทุน Franklin Technology Fund c]tกองทุน Franklin Floating Rate Fund PLC. -สำนักข่าวไทย
