นครราชสีมา 13 พ.ย.-กรมอุทยานแห่งชาติฯ ส่งเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ลงพื้นที่เก็บหลักฐานซากกระทิงเขาแผงม้า คาดเป็นขบวนการล่าสัตว์ป่า เร่งรวบรวมหลักฐานหาผู้กระทำผิด
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรณีพบกระทิงตายในพื้นที่เขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา แบ่งเป็น 2 สาเหตุ โดยตัวแรกที่พบนั้น เป็นปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า เหตุนี้อาจต้องวิเคราะห์ดูว่าเกิดจากปัญหาใดกันแน่ อาจเพราะพืชผลเกษตรนอกพื้นที่ป่ามีความน่าสนใจกว่า หรือแหล่งอาหารในป่าไม่เพียงพอ ซึ่งกรมจะสำรวจพื้นที่ป่าที่อยู่อาศัยของกระทิงอีกครั้ง เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด ทั้งการเพิ่มแหล่งอาหารในป่า หรือการสร้างแนวรั้วไฟฟ้าเพิ่มเติม แต่ทั้งนี้สิ่งสำคัญคือจะทำความเข้ากับชาวบ้านเกษตรกรรอบพื้นที่ ถึงวิธีแก้ปัญหาร่วมกัน สร้างแนวร่วมอนุรักษ์ไปด้วยกัน เพื่อความยั่งยืนและลดผลกระทบต่างๆ ลง ส่วนกระทิงอีก 2 ตัว ที่พบลักษณะถูกยิงและชำแหละ ตัดหัวกระทิง น่าจะเป็นฝีมือของขบวนการล่าสัตว์ป่า ทั้งล่าเพื่อนำไปขาย ล่าตามใบสั่ง หรือล่าเพื่อทดสอบอาวุธ โดยมอบหมายใหเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ประสานข้อมูลกับตำรวจและทหาร เพื่อหาข้อมูลสืบสวนต่อไป ทั้งนี้เชื่อว่ามีรายชื่อของพรานป่าอยู่แล้ว แต่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มใดกันแน่ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกรมไม่ได้นยิ่งนอนใจ เร่งเดินหน้าหาหลักฐานต่างๆ โดยร่วมกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทหาร และท้องถิ่นร่วมกันตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อตามกลุ่มผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายให้ได้
ด้านนางสาวกาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า จากนี้อาจต้องพิจารณาวางแผนจัดการการพื้นที่เพิ่มขึ้น ให้การอยู่ร่วมกันของคนและสัตว์ป่าสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาการอนุรักษ์กระทิงเขาแผงม้ามีความสำเร็จสูง จากความร่วมมือของประชาชนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่เองโดยสถิติล่าสุดพบว่ามีกระทิงในพื้นที่ 200 กว่าตัว เพิ่มจากเดิมเมื่อปี 2558 ที่พบ 150 ตัว ซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้เองก็เป็นโจทย์ใหญ่สำหรับเจ้าหน้าที่ในการเตรียมความพร้อมทั้งแหล่งที่อยู่ แหล่งอาหาร และแนวเขตป่าที่จะต้องเสริมวิธีป้องกันอื่นๆ ที่เหมาะสม สร้างมวลชนแนวร่วมอนุรักษ์ พัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างรายได้ให้ชุมชน หรือจัดกำลังชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปดูแลหากพบสัตว์ป่าออกมานอกพื้นที่ ซึ่งจะลดความเสียหายและจัดการปัญหาความขัดแย้งของคนกับสัตว์ป่าในอนาคต.-สำนักข่าวไทย