ศธ.8 พ.ย.-เลขาธิการ ก.ค.ศ.ชี้หากข้อเท็จจริงกรณี 2 ครูสาว รร.อุ้มผางวิทยาคม ชวดบรรจุหลังสอนมา 5เดือนระบุระบบราชการผิดและครูทั้ง 2 คนเป็นผู้ทรงสิทธิ์และคุณสมบัติครบ จะนำเสนอบอร์ดก.ค.ศ.คัดเลือกกลับเข้าบรรจุได้
นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือครูแอนและครูวัลย์ ที่ไม่ได้รับบรรจุเป็นครูผู้ช่วย หลังสอนวิชาสังคมศึกษาที่โรงเรียนอุ้มผางวิทยาคม จ.ตากแล้วกว่า 5 เดือน เนื่องจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดตาก ไม่อนุมัติการบรรจุและแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันได้สาขาวิชาเอกสังคมศึกษาจากบัญชีของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 38 โดยอ้างว่าเกิน 2 ปี ว่า ขณะนี้ ก.ค.ศ.กำลังรอผลสืบหาข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงที่เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขา กพฐ.) แต่งตั้งขึ้น ก่อนนำข้อเท็จจริงมาพิจารณาร่วมกับหลักเกณฑ์และข้อกฎหมายของก.ค.ศ. พร้อมนำเข้าหารือ ในที่ประชุมก.ค.ศ.ที่มี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธาน ซึ่งจะเกิดขึ้นในภายสิ้นเดือนนี้ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือครู
นายพินิจศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากข้อเท็จจริงที่ออกมา ปรากฎว่าปัญหาเกิดจากความผิดพลาดของระบบราชการ และคุณครูทั้ง 2 คนเป็นผู้ทรงสิทธิ์ มีคุณสมบัติครบถ้วนและถึงลำดับการบรรจุ ก็จะมีการเยียวยาและเสนอบอร์ด ก.ค.ศ.เพื่อคัดเลือกครูให้บรรจุได้ ดังนั้นจึงต้องรอข้อเท็จจริง ถึงจะระบุแนวทางการช่วยเหลือได้
สำหรับขั้นตอนการบรรจุและแต่งตั้งครู เมื่อโรงเรียนต้องการครู จะต้องแจ้งจำนวนอัตราว่างและความต้องการในสาขาวิชาใดไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จากนั้นเขตพื้นที่การศึกษาจะรวบรวมความต้องการทั้งหมดส่งไปยังคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด(กศจ.) เพื่ออนุมัติ และเมื่อกศจ.อนุมัติก็จะให้เขตพื้นที่การศึกษาเรียกตัวคุณครูมารายงานตัวเพื่อบรรจุแต่งตั้ง สำหรับกรณีนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 38 ดูแล 2 จังหวัดคือตากและสุโขทัย โดยนำเสนอกศจ.ตาก เพื่อขออนุมัติเรียกบรรจุแต่งตั้ง 10 อัตรา และนำเสนอกศจ.สุโขทัย 8 อัตรา ซึ่งการบรรจุต้องเกิดจากความเห็นชอบจาก กศจ. โดยเลือกตามบัญชีรายชื่อครูตามลำดับการสอบได้ โดยหากครูขึ้นบัญชีบรรจุเอกใด ก็ต้องบรรจุให้ตรงกับสาขาวิชาเอกนั้นด้วย ซึ่งระยะเวลาการในการเสนอรายชื่อและการอนุมัติการบรรจุนั้น ต้องเป็นไปตามกำหนดเวลาของมติที่ประชุมกศจ..-สำนักข่าวไทย