พล.อ.ฉัตรชัย ไม่หวั่นกระแสถูกปรับออกจากครม.

ทำเนียบฯ 6 พ.ย. – รมว.เกษตร ยันแก้ปัญหาราคายางเต็มที่แล้ว ไม่น้อยใจ ไม่กังวล หากถูกปรับออกจากครม. เชื่อที่ถูกเพ่งเล็งทุกรอบเพราะเป็นเพื่อนนายกฯ ยอมรับรัฐบาลบกพร่องในการสื่อสารประชาสัมพันธ์กับประชาชน


พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวถึงปัญหาของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง  ที่เรียกร้องให้เปลี่ยนตัวบอร์ดการยาง และผู้ว่าการยาง เนื่องจากไม่สามาถแก้ไขปัญหาราคายางได้ ว่า  ปัญหาดังกล่าวไม่ใช่เรื่องที่จะแก้ได้ด้วยคน ๆ เดียว เนื่องจากมีกฏหมายการยางรองรับอยู่  ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้เชิญผู้เกี่ยวข้อง มารับทราบแนวทางแก้ปัญหา  และมอบนโยบายว่าพื้นที่ ที่ไม่ถูกต้อง ต้องงดการปลูกยางอย่างจริงจัง 1 ปี และผลักดันการใช้ยางพาราภายในประเทศให้ได้ร้อยละ 30 

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า ขณะนี้กรมทางหลวง กำลังออกเสป็คการใช้ยางพาราทำถนน หากเรียบร้อยจะสามารถ ซื้อได้ นอกจากนี้ได้ลงนามป้ายเสาหินของกรมทางหลวงพิเศษ ซึ่งก็จะใช้ยางพาราดำเนินการเช่นกัน  นอกจากนี้ยังเร่งขับเคลื่อน โครงการสร้างความเข้มแข็งในสวนยาง ตลอดจนการให้สินเชื่อกับผู้ประกอบการยางพารา เร่งสร้างความรับรู้ให้เกษตรกร 


เมื่อถามว่าปัญหา ความไม่พอใจของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง มีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่พล.อ.ฉัตรชัย  กล่าวว่า  ขอไม่ตอบเรื่องนี้แต่เชื่อว่าสื่อมวลชนจะทราบดี  ตนพยายามทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย หลายเรื่องมีกรอบที่ข้ามไม่ได้เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีเคยหารือเรื่องปรับ ครม. หรือไม่ พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่าเรียนตามสัจจริง ไม่เคยพูดเลย ไม่เคยคุยจนถึงวันนี้ คิดว่านายกรัฐมนตรี คงคิดอยู่ ฟังในหลายด้าน  หลายเรื่องที่ออกมาวิจารณ์กันเรื่องราคาสินค้าจะเห็นได้ว่าคนพูดไม่ใช่เกษตรกรเลย ควรต้องไปถามเกษตรกรด้วย  ฟังความให้ถ้วนทั่ว 

เมื่อถามว่า รู้สึกหวั่นไหวหรือไม่ ทุกครั้งที่มีการปรับ ครม.จะมีรายชื่อให้ปรับ รมว.เกษตร   พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า อาจเป็นเพราะเป็นเพื่อนนายกรัฐมนตรี  ต่อข้อถามว่า มั่นใจในการทำหน้าที่ มากน้อยแค่ไหน ว่าจะได้อยู่ต่อหรือจะถูกปรับออก  พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า  ตนตั้งใจทำงานเต็มที่แต่ผลงานจะขนาดไหน ให้ผู้อื่นประเมิน และขอให้อยู่ในห่วงโซ่ ไม่ใช่นั่งอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้แล้วออกมาพูด ไม่มีข้อมูล ไม่ตรงความจริง  

เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดสอดคล้องกันว่าจะลดจำนวน ครม.ที่เป็นทหารลง ในการปรับ ครม.ครั้งนี้  พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า “ท่านคงคุยกัน แต่ผมไม่ทราบ ท่านไม่เคยถามผมเรื่องนี้เลย แม้จะเรียนจบมาด้วยกันเป็นเพื่อนกันมาก่อน  แต่เรารู้กันดีว่าเวลาทำงานไม่มีคำว่าเพื่อน ถ้านอกเวลาก็เป็นเพื่อนกัน อันนี้เป็นหลักการของเราอยู่แล้ว ซึ่งทุกวันนี้ทำแบบนี้ดังนั้นท่านไม่เคยถามผมเลย  สมัยที่ผมมาจากกระทรวงพาณิชย์ มาอยู่กระทรวงเกษตรฯ ท่านก็ไม่ถามผมเลยสักคำ”


ต่อข้อถามว่าหากโดนปรับออกจะเสียใจหรือไม่  พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ตนเป็นทหาร พร้อมทำงานตามหน้าที่ที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย  ถ้าไม่ให้ทำก็กลับ เมื่อถามว่า นายกฯ เข้าใจหรือไม่เหตุใดปัญหากระทรวงเกษตรเยอะ ทั้งราคาสินค้าการเกษตร   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า  ราคาสินค้าไม่เกี่ยวกับกระทรวงเกษตร  ช่วยเขียนให้ประชาชนเข้าใจ กระทรวงเกษตรเป็นภาคผลิต 

“น่าเบื่อจริง ๆ เวลาสินค้าเกษตรตกต่ำ ต้องมาดูว่าผลผลิตดี ไม่ดีวันนี้แปลงใหญ่ผลิตต้นทุนต่ำ ท่านเดินในตลาดถามเขาได้ทุกคน นั่งทำงานในกระทรวงเกษตรฯ  ปัญหาคือ ไม่ได้เจอตอ แต่ที่ทำไม่ได้ คือช้า ไม่ได้ดั่งใจ อยากให้เร็วกว่านี้ แต่ทำไม่ได้ เราบังคับเกษตรกรไม่ได้ หากไม่ทำ ต้องรอรอบหน้า หากไม่ทำอีกก็จะเป็นแบบนี้” พล.อ.ฉัตรชัย กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ  กล่าวว่า เรามีแผนงานโครงการเกษตร ที่ทำเกษตรทฤษฎีใหม่ 7 หมื่นแห่งเสร็จปี 60 ถวายในหลวง  เกษตรกรที่ทำอยู่เป็นการประกันสินค้าเกษตร เมื่อผลผลิตไม่ดี ก็เอาศาสตร์พระราชาทฤษฎีใหม่มาช่วย  ก็ลดความเสี่ยงลง ขณะนี้ 7 หมื่นแห่งเสร็จไปแล้ว กำลังจะทำอีก7 หมื่นแห่ง แต่ไม่มีใครออกข่าวพูดไปแบบนี้ รับรองข่าวไม่ออก ช่วยไปออกหน่อย เราทำ ไม่มีใครรู้

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ตลอดการทำงานนายกรัฐมนตรีไม่เคยตำหนิตนเลย แต่การสื่อสารมีปัญหา  ข้าราชการสื่อสารไม่เป็น เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่วนใหญ่ จบจากไหนมา ไม่มีทางสู้เอกชนได้  อย่างวันนี้ตนพูดเรื่องทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน ปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำการเกษตร จะได้ออกหรือไม่  จะลงข่าวสักเท่าไหร่ ตนพูดที่กระทรวงก็ไม่ได้ออกข่าว  

ต่อข้อถามว่าถือเป็นจุดอ่อน หรือไม่เรื่องการสื่อสารกับประชาชน  พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า จุดอ่อนทั้งหมดแม้กระทั่งรัฐบาล ที่ไม่สามารถสื่อสารให้สู้กับเอกชนได้  คนที่เป็นภาคเอกชนหรือคนที่อยากจะจ้องทำลายเพียงแค่คนสองคนใส่อะไรเข้าไปและใช้เทคนิคการพูดที่ดูหวือหวาน่าสนใจก็ดัง  ซึ่งทุกรัฐบาล ที่ผ่านมา อ่อนเรื่องประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่รัฐบาลนี้รัฐบาลเดียว

 “กระทรวงพยามที่จะปรับการประชสัมพันธ์ แต่ยังไงก็ไม่มีทางเพราะว่าคนที่เป็นหัวหน้าประชาสัมพันธ์ ไม่ได้จบประชาสัมพันธ์มา เป็นข้าราชการที่เติบโตมา ไม่มีทางสู้พลเรือน เอกชนได้ แต่สำคัญประชาชน ควรจะฟังกับข้าราชการอย่าไปฟังจากคนพวกนั้นมากเกินไป พอฟังมากก็ไปเลย  เค้าใช้เทคนิควิธีการ เช่น น้ำท่วมก็ไปถ่ายอยู่แต่ตรงนั้น ต้องดูว่าความเสียหายปีนี้กับปีที่แล้ว แตกต่างกันอย่างไร คนละเรื่องกันไปถามอาจารย์อานนท์ดู ถ่ายภาพจิสด้า ต่างกันประมาณ10 เท่า เป็นผลจากการบริหารจัดการน้ำ แต่ก็ไม่เป็นข่าว ออกแต่อะไรก็ไม่รู้ ประเทศไทยจงเจริญ    วันนี้ผมพูดจากความรู้สึก  ไม่ได้น้อยใจ” พล.อ. ฉัตรชัย กล่าว

เมื่อถามว่าถ้าถูกปรับออกจะไปทำอะไร  พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ผมอยากพักจะตายไป นายกฯ รู้ เดิมทีเดียวตอนเกษียณอายุราชการวางแผนจะไปเที่ยวต่างประเทศกับนายกรัฐมนตรี  ๆ เป็นคนเขียนแผนเที่ยวด้วย ตอนนี้ฉีกทิ้งไปหมดทั้งเล่มแล้ว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

“ภูมิธรรม” เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานนำผู้อพยพกลับบ้าน

สุรินทร์ 9 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจชาวสุรินทร์ ประสานคมนาคม นำผู้อพยพกลับบ้านโดยเร็วที่สุด สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ดูแลประชาชนเป็นอย่างดี ให้ใช้งบเต็มที่ พร้อมประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค ละเว้นค่าไฟ ค่าน้ำ ในช่วงที่เกิดการปะทะ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนในพื้นที่ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจุดแรกเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ โดยเมื่อเดินทางถึง นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วย นายชูชัย มุ่งเจริญพร สส.เขต 2 พรรคเพื่อไทย มาให้การต้อนรับ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรามาด้วยความห่วงใย และทราบดีว่าประชาชนทุกคนมีความยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดของเราเลย เป็นเรื่องที่ส่วนอื่นนอกประเทศ โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นคู่ขัดแย้งของเราทำขึ้น สร้างขึ้น และทำให้ประชาชนเดือดร้อน ในขั้นต้น พวกเราทุกคนหน่วยหลัง ได้ทำการดูแลแผนพิทักษ์ส่วนหลังทั้งหมด พยายามดูแลทุกส่วนอย่างเต็มที่ […]

รถไฟด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค.-รถไฟขบวนรถด่วนพิเศษ ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ช่วงเช้ามืดวันนี้ จนท.นำผู้โดยสารที่บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้ว ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ แต่ล่าช้า เฟซบุ๊กทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย รายงานวันนี้ (9 สิงหาคม 2568) เวลา 05.15 น. เกิดเหตุขบวนรถด่วนพิเศษ ขบวนที่ 38/46 (สุไหงโก-ลก – กรุงเทพอภิวัฒน์) คันที่ 10-12 ตกรางย่านสถานีกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ – เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ นำตัวส่งโรงพยาบาล– ขนถ่ายผู้โดยสาร คันที่ 10-12 ทางรถยนต์– นำตู้โดยสารที่ไม่ได้ตกราง ทำขบวนต่อถึงสถานีปลายทาง ทั้งนี้ ขบวนรถสายใต้เดินขบวนรถได้ตามปกติ (ล่าช้า) การรถไฟฯ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1690 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บ 9 ราย เป็นพระภิกษุ 1 รูป เด็กหญิง […]

“ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี”

กทม. 9 ส.ค. – “ภูมิธรรม” บอกตั้ง “บุ๋ม ปนัดดา” เป็นโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา สมน้ำสมเนื้อกับ “มาลี” ชี้กองทัพพร้อมประสานข้อมูลเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีตั้ง น.ส.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เป็นโฆษกจิตอาสา ศูนย์บริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะมีความไม่เหมาะสมเรื่องของข้อมูล และความน่าเชื่อถือ ว่า น.ส.ปนัดดา เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก และมีความสนใจในเรื่องบ้านเมือง ซึ่งข้อมูลด้านการทหารอาจจะรู้ไม่เยอะเท่ากับเจ้าหน้าที่ทหาร แต่มีความตั้งใจ อีกทั้งการเข้ามารับตำแหน่งก็เป็นการเสนอจากผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งต้นคิดว่าเรื่องของการได้ข้อมูล เมื่อทางทหารสนับสนุนก็จะสามารถทำงานได้ดี นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหมกัมพูชาเป็นผู้หญิง เราไม่อยากให้รู้สึกเหมือนว่าใช้โฆษกทหารที่เป็นผู้ชายไปโต้แย้ง เราอาจจะเสียเปรียบกว่า ซึ่งเห็นว่า น.ส.ปนัดดา มีความเหมาะสมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องข้อมูลก็ให้ประสานกับกองทัพอย่างเต็มที่ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ตรงนี้ตนคิดว่าสมน้ำสมเนื้อ เมื่อถามย้ำว่า ข้อมูลที่ น.ส.ปนัดดา จะพูดออกมา เป็นการกลั่นกรองมาจากทางกองทัพใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ประมาณนั้น […]