วิษณุระบุอย่าให้คำศัพท์มากีดขวางความจงรักภักดี

ทำเนียบรัฐบาล 17 ต.ค.-วิษณุ ระบุไม่ต้องกังวลเรื่องใช้คำราชาศัพท์ อย่าให้คำศัพท์กีดขวางความจงรักภักดี มองเป็นเรื่องดีที่จะได้ให้ความรู้กับประชาชน


นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันพรุ่งนี้(18 ต.ค.) จะมีหารือเกี่ยวกับการเตรียมการพระบรมศพหรือการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่จะเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัย ซึ่งมีผู้ที่เกี่ยวข้องเตรียมรายงาน สำหรับประเด็นการสร้างพระเมรุ ต้องรอพระบรมราชวินิจฉัยก่อน โดยครั้งที่นายกรัฐมนตรีเฝ้าทูลละอองพระบาทสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ มีพระราชบัณฑูรว่ารายละเอียดเกี่ยวกับงานพระเมรุได้มอบหมายให้พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเป็นแม่งานวินิจฉัยปัญหาต่าง ๆ

“ทั้งรูปแบบการใช้เมรุ สี ซึ่งเลขาธิการพระราชวังได้กล่าวไว้ว่า ต้องมีสิ่งก่อสร้างหลายอย่างที่ท้องสนามหลวง นอกจากพระเมรุปกติจะมีศาลาทรงธรรมที่ประทับและรับแขกที่มาถวายพระเพลิง ศาลาพลับพลาสำหรับประชาชน รวมถึงสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ สำหรับพระสงฆ์ 4 ทิศ ครั้งนี้จะขยายให้กว้างกว่างานพระบรมศพเจ้านายในครั้งที่ผ่านมา ซึ่งกรมศิลปากรมีประสบการณ์” นายวิษณุ กล่าว


นายวิษณุ กล่าวว่า ตามโบราณราชประเพณีต้องถวายพระเพลิงที่ท้องสนามหลวงหรือที่เรียกว่าทุ่งพระเมรุ อย่างไรก็ตาม ท้องสนามหลวงได้ว่างเว้นกับการถวายพระเพลิงมานานย้อนหลัง 80 ปีที่ผ่านมา โดยพ.ศ. 2493 ถวายพระเพลิงสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 พ.ศ.2498 ถวายพระเพลิงสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า พ.ศ.2527 – 2528 ถวายพระเพลิงสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี  พ.ศ. 2551 พระราชทานเพลิงสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ.2554 พระราชทานเพลิงสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี

“เจ้าหน้าที่ยังมีองค์ความรู้เพราะได้จัดพระราชพิธีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีจะทรงวินิจฉัย ทุกอย่างจะใช้ตามโบราณราชประเพณี ครั้งนี้ไม่ต้องซ่อมอะไรมาก แต่พระเมรุจะต้องสร้างขึ้นใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาสร้าง 4-8 เดือน เมื่อถวายพระเพลิงเสร็จก็จะรื้อออก ไม่เก็บไว้” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวชื่นชมสื่อวิทยุและโทรทัศน์ที่ช่วยรายงานข่าวสารข้อมูลได้อย่างถูกต้องแก่ประชาชน หากมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกสามารถแนะนำรัฐบาลได้ อย่างไรก็ตาม ขอฝากเรื่องการใช้คำราชาศัพท์โดยมองว่าช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงที่ทำให้เกิดความรู้ จึงขอขอบคุณสื่อโทรทัศน์ที่พยายามหาข้อมูลข่าวสารเกล็ดเล็กเกร็ดน้อยให้กับประชาชน ซึ่งทำให้ไม่น่าเบื่อ จะทำให้คนเกิดความจดจำและเกิดความรู้ เพราะเราต้องอยู่กับสิ่งนี้ไปอีกนาน เนื่องจากเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีของไทย


“ส่วนเรื่องคำศัพท์ต่าง ๆ ผมมองว่าไม่อยากให้คำศัพท์ต้องมากีดขวางความจงรักภักดี แต่ต้องระวังอย่าลดทอนพระบรมเดชานุภาพ รู้สึกอย่างไร ก็พูดไปเถอะ ถึงจะเกินก็ดีกว่าขาด แต่หากทำให้ถูกตามระเบียบแบบแผนก็จะเป็นการดี เป็นการสืบความรู้ต่อไป บางคำ คนอาจไม่เข้าใจ เช่น คำว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ คนรุ่นปัจจุบันไม่ค่อยจะชิน แต่คำนี้เป็นคำเก่าที่มีมาแต่โบราณ เป็นคำที่ผู้ใหญ่รุ่นเก่าใช้เรียก แปลว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เสด็จสวรรคตแล้ว อย่าไปแปลว่าอยู่ในพระบรมโกศ ไม่ว่าจะทรงสถิตอยู่ในพระบรมโกศหรือไม่ ไม่ว่าจะสถิตอยู่ในพระหีบหรือสิ่งอื่นก็เรียกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวว่า สามารถเรียกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้นก็ได้ เพราะเรายังไม่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวองค์ใหม่ แต่หากเรียกแล้วจะติดคำว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศก็ไม่เป็นไร คำแนะนำที่ทางสำนักพระราชวัง ซึ่งถูกต้องตามแบบแผน แต่อาจทำให้คนอ่านเกิดความตระกุกตะกัก เพราะการออกพระนามเต็มต้องเป็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร หรือไม่เช่นนั้น สำนักพระราชวังแนะนำให้ออกคำว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทร (อ่านออกเสียงว่า ปอ-ระ –มิน-ทะ-ระ) มหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งหลายคนออกเสียง ปอระมิน อยู่ อย่าลืมว่า ไม่ได้ใส่การันต์ ใครจะสะดวกใช้อย่างยาวอย่างสั้นหรืออย่างเต็มก็ใช้ หรือจะใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศก็ได้ หรือแม้จะใช้คำว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็ได้ เพราะไม่ได้หมายความเป็นอื่น สมกันแล้วกับที่บอกว่ายังสถิตย์อยู่ในหัวใจของเรา

“บางทีสิ่งที่สำคัญกว่าความถูกต้องตามระเบียบแบแผน ภาษาคือความรู้สึก รู้สึกอย่างไรก็ใช้ไป เพราะถ้าเถรตรงจริง ๆ คำว่าในหลวงก็เป็นคำที่ไม่ควรมาใช้เป็นทางการแต่เราก็ใช้ เมื่อครั้งที่ริเริ่มใช้คำว่าสมเด็จย่ากันมาเมื่อหลายสิบปี ผู้รู้เคยทักท้วงว่าอย่าไปนับญาติกับเจ้านายเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนไปกราบบังคมทูลถามสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ ท่านตอบกลับมาว่าเขาอยากรียกอะไรก็ให้เรียกไปเถอะ ฉันรู้ว่าเขาเรียกฉันก็แล้วกัน ตั้งแต่นั้นมาก็เรียกสมเด็จย่ากันทั้งประเทศและไม่คิดจะเรียกอย่างอื่นให้ยืดยาว” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับคำอย่างอื่น เวลาที่จะอาลัย ถ้าเป็นกรณีคนธรรมดาเราไม่เคยพูดว่าให้อาลัย แต่เราจะบอกว่าไว้อาลัย ดังนั้น ความอาลัยไม่ได้มีไว้สำหรับให้ผู้ตาย แต่เป็นสิ่งที่ต้องเก็บไว้ในใจของเรา ดังนั้น จึงต้องไว้อาลัยไม่ใช่ให้อาลัย จึงไม่สามารถใช้คำว่าถวายอาลัยได้ เพราะถวายแปลว่าให้ จึงให้ใช้คำว่า “ประชาชนไว้อาลัย ถวายพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”

นายวิษณุ กล่าวว่า คำอีกคำหนึ่งที่สำนักนายกรัฐมนตรีและสำนักพระราชวังแนะนำคือ เวลาไปกราบพระบรมศพ หากไปงานศพทั่วไปใช้คำว่า ไหว้ศพ กรณีพระบรมศพคำที่ควรต้องใช้คือคำว่า “ถวายสักการะพระบรมศพ หรือ ถวายบังคมพระบรมศพ

“คำศัพท์ต่าง ๆ ต้องค่อย ๆ หาความรู้ แต่อย่ามาตำหนิกันว่าใครใช้คำศัพท์ผิด ค่อย ๆ ปรับกันไป และอย่าตำหนิว่าใครไม่ไว้ทุกข์ พร้อมกับชมเชยชาวบ้านที่เปิดบริการย้อมผ้าดำฟรีให้กับประชาชนด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ