กรุงเทพฯ 31 ต.ค. – ขสมก.พร้อมนำระบบ E – Ticket มาใช้บนรถโดยสารธรรมดา 800 คัน 1 พ.ย.นี้ เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่ง ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังกำหนดให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม ที่ไปลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยและผ่านคุณสมบัติ ไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 เพื่อนำบัตรไปใช้สิทธิ์ตามวงเงินที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางของ ขสมก.และรถไฟฟ้า มีวงเงิน 500 บาทต่อเดือน ขสมก.เตรียมความพร้อมให้บริการรถโดยสารธรรมดา เพื่อรองรับการใช้บริการของประชาชนผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 800 คัน โดยรถโดยสารที่รองรับการให้บริการจะมีสติ๊กเกอร์สีเขียวข้อความ “รถคันนี้รองรับระบบ E-Ticket และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ติดบริเวณกระจกด้านหน้า – หลังรถโดยสาร และบริเวณประตูทางขึ้น
ทั้งนี้ แบ่งการให้บริการเป็น 3 ประเภท รถโดยสารธรรมดาที่ติดตั้งเครื่องอ่านบัตร 100 คัน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถขึ้น-ลงรถได้ทั้ง 2 ประตู และต้องนำบัตรมาแตะที่เครื่องอ่านบัตร ซึ่งติดตั้งอยู่ที่ประตูรถทั้ง 2 ข้าง โดยจะต้องแตะบัตรทั้งขณะขึ้นและลงรถ เพื่อให้เครื่องอ่านบัตรหักค่าโดยสารจากวงเงินในบัตร รถโดยสารธรรมดาที่มีพนักงานเก็บค่าโดยสารให้บริการสมาร์ทโฟน 250 คัน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถขึ้น-ลงรถได้ทั้ง 2 ประตู และต้องนำบัตรมาแตะที่สมาร์ทโฟนของพนักงานเก็บค่าโดยสารเพียงครั้งเดียว แทนการแตะที่เครื่องอ่านบัตร เพื่อให้สมาร์ทโฟนหักค่าโดยสารจากวงเงินในบัตร ส่วนที่เหลืออีก 450 คัน ขสมก.จะให้พนักงานเก็บค่าโดยสารบันทึกหลักฐานผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้บริการรถโดยสาร โดยผู้ถือบัตรฯ จะต้องแสดงบัตรฯ ต่อพนักงานเก็บค่าโดยสารก่อนใช้บริการ
สำหรับการเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรในการให้บริการระบบ E-Ticket ได้แก่ ฝึกอบรมเรื่องการใช้งานระบบ E-Ticket ให้กับพนักงานขับรถ พนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจและพนักงานที่เกี่ยวข้อง 5,000 คน เพื่อให้พนักงานมีทักษะความรู้เกี่ยวกับการใช้งานระบบ E-Ticket ตลอดจนรับทราบบทบาทหน้าที่ในการให้บริการประชาชน และสามารถแนะนำขั้นตอนการใช้งานระบบ E-Ticket ให้กับประชาชนผู้ใช้บริการได้อย่างถูกต้อง จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ นายตรวจและเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ อยู่ประจำจุดบริเวณที่มีประชาชนผู้ใช้บริการหนาแน่น เช่น ป้ายรถโดยสารบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิทั้ง 4 ด้าน หน้ากองสลากเดิม และบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสจตุจักร เพื่อแนะนำขั้นตอนการใช้งานระบบ E-Ticket พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ .-สำนักข่าวไทย
